ผู้นำรัสเซียกล่าวถึงการที่ราคาเชื้อเพลิงในตลาดโลกถีบตัวสูงขึ้นแบบก้าวกระโดด เป็นเพราะสหรัฐและตะวันตกคำนวณและประเมินสถานการณ์พลาด เร่งกระหน่ำคว่ำบาตรรัสเซียไม่ลืมหูลืมตา ไม่คาดผลกระทบจะย้อนกลับเข้าตัวสาหัส
เมื่อวันที่ 11 มี.ค.2565 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย ว่า ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน กล่าวถึงการที่สหรัฐและตะวันตกกำลังกล่าวโทษว่าราคาพลังงานที่เพิ่มสูงขึ้นแบบพรวดพราด เป็นเพราะรัสเซียนั้น ในความเป็นจริงแล้ว เป็นผลจากการที่ฝ่ายตะวันตกคำนวณและประเมินสถานการณ์ผิดพลาด ทำตัวเอง
ปูตินแสดงความคิดเห็นในการประชุมออนไลน์กับผู้นำรัฐบาลเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา
การที่ปธน.ไบเดน ประกาศแบนน้ำมันและก๊าซธรรมชาติของรัสเซีย ปธน.ปูตินให้ความเห็นว่า เศรษฐกิจสหรัฐกำลังเผชิญกับภาวะตึงตัวอย่างหนัก อัตราเงินเฟ้อที่สูงลิ่วทำให้ราคาเชื้อเพลิงในประเทศแห่งนั้นแพงเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว การโทษรัสเซียของรัฐบาลวอชิงตันเป็นเรื่องไม่สมเหตุผล เพราะในความเป็นจริงแล้ว สหรัฐนำเข้าพลังงานจากรัสเซีย ในระดับยังไม่ถึง 3% ต่อปีด้วยซ้ำ
ปูตินกล่าวว่า “การนำเข้าน้ำมันรัสเซียเป็นปริมาณเล็กน้อยและราคาน้ำมันของพวกเขาก็สูงขึ้น ซึ่งการห้ามนำเข้าน้ำมันของรัสเซียก็ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับมันเลย พวกเขาแค่ซ่อนความจริง อยู่เบื้องหลังการตัดสินใจผิดพลาดเพื่อหลอกลวงประชาชนของพวกเขาเอง”
ขณะเดียวกัน ปูตินกล่าวถึงการที่สหรัฐ “พยายามสร้างสัมพันธ์ใหม่กับอิหร่าน และการส่งทีมงานเดินทางไปยังเวเนซุเอลา ก็เพื่อเจรจาเรื่องน้ำมัน ซึ่งรัฐบาลมอสโกไม่มีปัญหาแต่อย่างใด แต่เรื่องนี้พิสูจน์ว่า สหรัฐไม่ควรใช้มาตรการคว่ำบาตรฝ่ายเดียวกับประเทศอื่นมาตั้งแต่ต้น
ปูตินกล่าวย้ำว่าวิกฤติในปัจจุบันจะทำให้ประเทศเข้มแข็งขึ้น
ทั้งนี้ ผู้นำรัสเซียกล่าวว่า มาตรการคว่ำบาตรของตะวันตก ซึ่งเกิดขึ้นภายในเวลาไม่กี่วัน หลังกองทัพรัสเซียปฏิบัติการทางทหารในยูเครน เมื่อวันที่ 24 ก.พ.ที่ผ่านมา แน่นอนกำลังสร้างแรงเสียดทานให้กับทุกภาคส่วนของรัสเซีย แต่ท้ายที่สุดแล้วประเทศและประชาชนรัสเซียจะผ่านมันไปได้ในที่สุด เรื่องนี้จะเป็นแรงผลักดันนำไปสู่การพึ่งพาตนเอง ความพอเพียง และการเป็นอธิปไตยของรัสเซียอย่างถึงที่สุด
ด้านสหรัฐอเมริกา นอกจากปธน.โจ ไบเดนจะโทษรัสเซียเป็นต้นเหตุน้ำมันแพงแล้วพรรครีพับลิกัน พากันจิกกัดที่กล่าวหาว่านโยบายของปธน.ทำให้ราคาพลังงานสูงเป็นประวัติการณ์ ราคาน้ำมันของสหรัฐแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ทั่วประเทศที่ 4.25 ดอลลาร์ต่อแกลลอนในวันพุธที่ผ่านมา เพิ่มขึ้น 8 เซนต์ในวันรุ่งขึ้นหลังจากประธานาธิบดีโจ ไบเดนประกาศห้ามนำเข้าพลังงานของรัสเซีย
