ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ ประกาศเมื่อวันอังคารว่าสหรัฐฯห้ามการนำเข้าน้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ และถ่านหินของรัสเซีย ไม่นานสหราชอาณาจักรกล่าวว่าจะเลิกนำเข้าน้ำมันและผลิตภัณฑ์น้ำมันของรัสเซียให้หมดภายในสิ้นปี 2565 ขณะเยอรมันไม่ร่วมด้วย แต่รัสเซียได้สิ่งปิดท่อก๊าซยามาล-ยุโรปแล้วยังเหลือนอร์ดสตรีม 1 ที่ยังดำเนินการอยู่โดยผ่านธนาคารรัสเซีย 2 แห่งที่งดเว้นการคว่ำบาตร
จีนมองว่าเป็นมาตรการเห็นแก่ตัวของสหรัฐที่บีบให้ยุโรปต้องคว่ำบาตรรัสเซียให้หนัก โดยไม่คำนึงว่าประชาชนสหรัฐและยุโรปต้องลำบากแค่ไหนกับผลกระทบที่จะตามมา ถ้ายุโรปยังเดินรอยตามสหรับเท่ากับสูญเสียความเป็นเอกราชของตัวเอง
ด้านดมิทรี บิริเชฟสกี้(Dmitry Birichevsky) ผู้อำนวยการ หน่วยงานความร่วมมือทางเศรษฐกิจ กระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย กล่าวว่ารัสเซียกำลังดำเนินการตอบโต้ในวงกว้างต่อการคว่ำบาตรที่จะรวดเร็วและรู้สึกได้ในพื้นที่อ่อนไหวที่สุดของตะวันตก ขณะที่อเล็กซานเดอร์ โนวัค รองนายกฯ รัสเซียส่งสัญญาณ หรือจะให้รัสเซียปิดนอร์ดสตรีม1??
วันที่ 10 มี.ค.2565 สำนักข่าวโกลบัลไทมส์เผยแพร่บทความระบุว่า สหรัฐฯเดินหน้าบังคับขู่เข็ญ จีนให้ร่วมคว่ำบาตรรัสเซียไม่สำเร็จ เพราะจีนได้ชี้แจงจุดยืนของตนว่าความขัดแย้งรัสเซีย-ยูเครนไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยการคว่ำบาตร และจะต้องมีการเจรจา และเตือนไปถึงยุโรปว่า สหรัฐใช้กลวิธีที่เห็นแก่ตัวกัดเซาะเอกราชของสหภาพยุโรป
จ้าว ลี่เจียน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน กล่าวเน้นย้ำเมื่อวันพุธระหว่างการแถลงข่าวว่า จีน “คัดค้านอย่างแข็งขันต่อการคว่ำบาตรฝ่ายเดียวโดยไม่มีกฎหมายระหว่างประเทศรองรับ การคว่ำบาตรบ่อยครั้งจะไม่ทำให้เกิดสันติภาพหรือความปลอดภัยที่ใดอย่างแท้จริง
หลี่ ไห่ตง ศาสตราจารย์ นักเศรษฐศาสตร์จากสถาบันความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ,มหาวิทยาลัยการต่างประเทศจีนในกรุงปักกิ่ง(Li Haidong, a professor from the Institute of International Relations at the China Foreign Affairs University in Beijing)กล่าวว่า สหรัฐฯห้ามใช้พลังงานของรัสเซีย และยุยงให้ประเทศในยุโรปปฏิบัติตามอย่างแข็งขัน เป็นกลวิธีที่มีการไตร่ตรองไว้นานแล้ว โดยต้องการแทนที่บทบาทของรัสเซียในหลายประเทศในยุโรปในฐานะผู้ขายพลังงานรายใหญ่ ไม่เพียงแต่เพื่อประโยชน์ของบริษัทน้ำมันและก๊าซธรรมชาติของสหรัฐเท่านั้น แต่ที่สำคัญกว่านั้นคือการผูกมัดผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจของยุโรปไว้กับสหรัฐอย่างแน่นหนาด้วยตัวของมันเอง ดังนั้นยุโรปจะเป็น แหล่งรายได้หลักของสหรัฐฯ และเป็นฐานเชื่อมโยงยุทธศาสตร์อินโด-แปซิฟิก
วัตถุประสงค์เหล่านั้นถูกซ่อนอยู่เบื้องหลังการที่สหรัฐฯ ออกมาโวยวายต่อปฏิบัติการทางทหารของรัสเซียในยูเครน แต่การห้ามนำเข้าพลังงานของรัสเซียในสหรัฐฯ ไม่รวมถึงยูเรเนียม ซึ่งสหรัฐฯอาศัยอย่างมากในการป้อนแก่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ แต่ล่าสุดรัสเซียได้ออกก.ม.ห้ามส่งออกและนำเข้าสินค้าบางประเภทจนถึงสิ้นปี อาจทำให้สหรัฐกระอักได้ ถ้านั่นหมายถึงการหยุดส่งแร่ยูเรเนียมแก่สหรัฐ
สหภาพยุโรปจัดหาก๊าซราว 40% และ 27 เปอร์เซ็นต์ของน้ำมัน จากรัสเซียขณะที่สหรัฐฯ สั่งซื้อก๊าซจากรัสเซียและน้ำมันราว 7% ของทั้งหมด
หากสหรัฐรุกเร้ากดดันรัสเซียไม่หยุด รัสเซียย่อมมีสิทธิ์ตอบโต้กลับ และการใช้มาตรการขั้นสูงสุดถึงขั้นปิดท่อก๊าซนอร์ดสตรีม1 จะส่งผลร้ายแก่ยุโรปอย่างสาหัส เพราะไม่สามารถหาทดแทนได้ในช่วงเวลาฉุกเฉิน
ที่ผ่านมารัสเซียเร่งดำเนินการเพื่อชดเชยผลกระทบจากการคว่ำบาตร โดยเปลี่ยนการส่งออกพลังงานจากตะวันตกไปยังประเทศทางตะวันออก เช่น จีนและอินเดีย ซึ่งจะทำให้โครงสร้างการค้าของรัสเซียกับจีนและอินเดียมีความสมดุลมากขึ้น
เหลียน เว่ยเหลียง(Lian Weiliang) เจ้าหน้าที่จากคณะกรรมการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติ กล่าวระหว่างการแถลงข่าวเมื่อเร็วๆ นี้ว่า ท่ามกลางสถานการณ์วิกฤตยูเครน ต้นทุนการนำเข้าน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติของจีนจะเพิ่มขึ้นในระดับหนึ่ง แต่โดยทั่วไปผลกระทบนั้นอยู่ภายใต้การควบคุม
