เอกชัยบ้าหม้าย?? โวยฉีดวัคซีนแล้วสบายดี สงสัยฉีดน้ำเปล่าให้ ! ฝากถึง ปชป. ทำไมไม่ออกจากพรรคร่วมรบ.?
จากกรณีที่เป็นกระแสดราม่า ถึงวลีเด็ดของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่พูดคำว่า “นะจ๊ะ” ในการแถลงข่าวเมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2564 โดยการแถลงข่าววันนั้น พล.อ.ประยุทธ์ พูดคำว่า นะจ๊ะ หลายคำ รวมถึงมีท่าทีผ่อนคลาย หัวเราะ สนุกสนาน จนทำให้ถูกวิจารณ์ว่า แต่ละวันมีผู้เสียชีวิตและติดเชื้อสูงมาก แต่ผู้นำยังอารมณ์ดีได้ บางช่วงชู 2 นิ้วให้นักข่าวด้วย ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์เป็นจำนวนมาก ซึ่งคำว่า นะจ๊ะ กลายเป็นแฮชแท็กยอดนิยมในทวิตเตอร์ ในเวลาต่อมา
ล่าสุดเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2564 ทางด้านเอกชัย ศรีวิชัย นักร้องลูกทุ่งชื่อดัง ได้มีการอัดคลิปวิดิโอ และได้ออกมาเปิดเผยว่าเมื่อไม่นานมานี้ได้ไปฉีดวัคซีนป้องกันโควิด ยี่ห้อซิโนฟาร์มกับทางบริษัทมาแล้ว ซึ่งไม่มีผลข้างเคียงเหมือนคนอื่น เพราะในตอนแรกนั้นมีความกังวลมาตลอดจากการติดตามข่าวตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา
ซึ่งในตอนนี้ตนกำลังรู้สึกเศร้าเรื่องครอบครัวของเป็ด เชิญยิ้ม ที่ต้องสูญเสียแม่ไป และพ่อก็ยังอยู่ในโรงพยาบาล เพราะติดโควิด นี่เป็นเรื่องที่โหดร้าย โดยตนได้โทรไปให้กำลังพี่เป็ดแล้ว เวลาเห็นเขาโพสต์แต่ละอย่างก็รู้สึกใจไม่ค่อยดี ในตอนนี้ตนก็ให้แม่ของตนอยู่แต่ในบ้านไม่ให้ออกไปไหน
ก่อนที่จะมาพูดถึงเรื่องการทำงานของรัฐบาล และนายกรัฐมนตรีว่า ประชาชนเดือดร้อนกันทั้งประเทศขนาดนี้ นายกยัง “นะจ๊ะ” และตั้งคำถามว่านายกเป็นอะไร ทำไมปัญหาแก้ไม่เคยถูกจุด ไม่เคยแก้อะไรได้เลย พูดไปเรื่อย ด้านรัฐมนตรีสาธารณสุขก็เหมือนกันนี่เป็นช่วงที่จะได้แสดงความสามารถ แต่ก็ไม่ทำอะไร พร้อมทั้งบอกว่าการที่จะทำให้ถูกใจทุกคนนั้นเป็นไปไม่ได้หรอกตนรู้ดี แต่ก็สามารถทำให้คนส่วนมากพอใจมันก็ทำได้อยู่
พร้อมตั้งคำถามว่า “ตอนนี้คนด่านายก ด่ารัฐมนตรี ขนาดไหนแล้วอ่านหนังสือไม่ออกกันหรืออย่างไร แต่ละคน คนรอบข้างที่คอยประจบประแจงไม่เตือนกันบ้างหรือ ว่าตอนนี้บ้านเมืองมันเป็นยังไง คนตายวันละ 40-50 คน ไม่รู้สึกรู้สาอะไรกันเลยใช่มั้ย? แล้วถ้าเป็นญาติตัวเองบ้างละ?”
“โอเค ไม่ได้มีคนติดแค่ประเทศเรา เข้าใจได้ แต่วิธีการจัดการ วิธีการดูแลประชาชน มันควรจะดีกว่านี้มั้ย? ไม่เคยโทษตัวเองเลย มีแต่โทษคนอื่น คนอื่นผิดหมด แกก็เอาแต่พูดว่า เหนื่อย ๆ แล้วทำไมไม่ออกไปซะ ไม่มีใครห้ามเลย” พร้อมทั้งกล่าวว่าตนจำได้ว่าครั้งแรกที่นายกมานั้นบอกว่ามาเพื่อแก้ปัญหา แต่ตอนนี้สถานการณ์บ้านเมืองก็ไปไกลมากแล้ว
ทังนี้ ยังมีการกล่าวถึงพรรคร่วมรัฐบาลอย่างพรรคประชาธิปัตย์ว่า สถานการณ์บ้านเมืองขนาดนี้แล้วทำไมไม่ออกจากพรรคร่วมรัฐบาลเสียที แต่ก็ไม่ออกไง แล้วตอนหาเสียงก็บอกว่าจะไม่ร่วมกับรัฐบาล ความจริงตนก็ไม่อยากยุ่งเรื่องการเมืองมากนัก แต่ในตอนนี้ตนกำลังวิพากษ์วิจารณ์การทำงาน ตนมีสิทธิ์
เพราะการแก้ปัญหาที่ผ่านมานั้นดูปัญญาอ่อนมาก อาทิ การปิดแคมป์คนงาน เป็นต้น ทั้งยังฝากถึงรัฐบาลว่าทางรัฐบาลกับหมอนั้นพูดไม่เคยตรงกันเลย ทำไมไม่นัดกันก่อนเวลาจะพูด ก่อนจะตัดพ้อว่า “เห้อ พูดไปก็เท่านั้น” และก็ได้กล่าวว่าตนนั้นก็ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคน และกล่าวว่าเรื่องที่สำคัญที่สุดนั่นก็คือการดูแลตนเองให้ดีที่สุด