“หมอวรงค์” เปิดบทสนทนาสุดท้าย กับ “บุญเกื้อ” ชายคนนี้ สู้อย่างจงรัก และตายอย่างภักดี ของจริง!

1080

ตอกย้ำชัด ไม่ธรรมดา!? “หมอวรงค์” เปิดบทสนทนาสุดท้าย กับ “บุญเกื้อ” ชายคนนี้ สู้อย่างจงรัก และตายอย่างภักดี ของจริง!

สืบเนื่องจากกรณีที่ทางด้านของ นายบุญเกื้อ ปุสสเทโว ทีมโฆษกพรรคไทยภักดี ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่าตนเองอาจจะมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่เกิน 10 วัน จึงต้องออกมากล่าวคำอำลาต่อญาติพี่น้องมิตรสหายทุกคนและถือโอกาสนี้ขออโหสิกรรม ไม่เอาโทษต่อกัน เลิกแล้วต่อกันอย่าได้มีเวรกันต่อไปเลย เนื่องจากมะเร็งเยื่อบุช่องท้องเข้าสู่ระยะสุดท้าย

ต่อมาได้มีเพื่อนๆ พี่น้องมากมาย รวมถึงคู่คดีต่างพากันให้กำลังใจ นอกจากนี้ทางด้านของ ณัฏฐา มหัทธนา นักกิจกรรมนักเคลื่อนไหวทางการเมือง ก็ได้ทำการถอนฟ้องคดีที่กำลังไต่สวนกับ นายบุญเกื้อ

โดยล่าสุดในวันที่ 26 ม.ค.65 ทางด้านของ นายแพทย์ วรงค์ เดชกิจวิกรม หัวหน้าพรรคไทยภักดี ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟสบุ๊คส่วนตัวถึงการ พูดคุยกันครั้งสุดท้ายกับ นายบุญเกื้อ โดยมีรายละเอียดว่า

#บุญเกื้อคุยครั้งสุดท้ายกับผม
เมื่อคืนก่อนนอน มาอ่านข่าวเกี่ยวกับวาระสุดท้ายของคุณบุญเกื้อ ทำให้นอนไม่ค่อยหลับ และมาสะดุ้งตื่นนอน ตอนประมาณตีสาม มาไล่เปิดไลน์ที่ผมคุยครั้งสุดท้ายกับเขา ประมาณปลายเดือนธันวาคม 2564

ปกติแล้วผมทราบอาการของคุณบุญเกื้อมาตั้งแต่แรก และทราบมาตลอด เพราะหัวใจของเขาที่ต้องการแสดงออกในการปกป้องสถาบันในวาระสุดท้ายของชีวิต เขาขอผมไว้ว่า ไม่ต้องบอกให้ใครรับรู้
อยากจะนำสิ่งที่เขาไลน์บอกผมครั้งสุดท้ายมาถ่ายทอดให้ทราบ วันนั้นคือวันที่ 22 ธันวาคม 2564 ข้อความดังนี้

“ผมคงจบครับ ทั้งคีโมครบทุกสูตร ทั้งวิธีฉายแสง ดื้อยาหมดแล้ว มะเร็งไม่กลัวแล้ว มีขนาดโตและอักเสบมากขึ้นเริ่มเป็นแผลมีน้ำเหลืองปนเลือด ปวดมากขึ้นจนนอนแทบไม่ได้เลย
ผมบอกอาจารย์หมอที่จุฬาว่า ผมคงไม่ต้องไปทำซีทีสแกนตามนัดแล้ว อาจารย์หมอท่านก็เห็นด้วย เพราะเวลานี้ดูอาการภายนอกด้วยสายตาก็รู้แล้วว่าเอาไม่อยู่ หมอแนะนำให้ไปพบแพทย์ที่เชี่ยวชาญเรื่องปวด…ผมถามอาจารย์ว่าจากอาการพอจะประมาณได้ไหมว่าผมจะอยู่ได้อีกแค่ไหน..ท่านว่าไม่แน่นอน/ตอบไม่ได้
แต่กำลังใจและสุขภาพจิตผมยังปกติดีครับ
จนกระทั่งล่าสุด ที่มีโพสต์ของบุญเกื้อที่ประมาณว่า ไม่เกิน10 วัน

เขาคือลูกผู้ชายที่สู้อย่างจงรักและตายอย่างภักดี ขนานแท้ครับ แสดงออกซึ่งความจงรักภักดี แม้รู้ว่ามีอะไร ไม่ปกติในร่างกายและไม่ยอมให้ใครรับรู้ เขาพูดกับผมส่วนตัวมาตลอดว่า ขออุทิศชีวิตที่เหลือต่อสู้กับพวกที่คิดร้ายต่อสถาบันอย่างเต็มที่