เปิดตัว ส.ส.ก้าวไกล แม่ยกคนใหม่ใช้ตำแหน่ง ประกันตัวการ์ดวีโว่ก่อเหตุหน้าสถานทูตเมียนมา!?!

ส.ส.แม่ยก พรรคก้าวไกลคนใหม่ ใช้ตำแหน่ง ประกันตัวการ์ดวีโว่ ก่อเหตุปะทะจนท.หน้าสถานทูตเมียนมา!?!

จากกรณีที่กลุ่มครณะราษฎร ได้ออกมาชุมมนุมเรียกร้องให้ปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ และมีการเคลื่อนไหวโจมตีสถาบันมาโดยตลอด มีการชุมนุมโดยผิดกฎหมาย ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินหลายครั้ง ทำให้เหล่าแกนนำและผู้ชุมนุมถูกจับกุมหลายครั้ง ซึ่งหลายครั้งที่ถูกจับกุมนั้น ทางพรรคก้าวไกล ก็ได้มีการใช้ตำแหน่ง ส.ส.ประกันตัวผู้ต้องหาหลายครั้ง

ล่าสุดที่ได้มีการชุมนุมที่บริเวณหน้าสถานทูตเมียนมา ที่มีการชุมนุมของกลุ่มแรงงานชาวเมียนมาเพื่อต่อต้านรัฐประหาร โดยทางกลุ่มคณะราษฎรได้เข้าร่วมชุมนุมนำโดยเพนกวิน พริษฐ์ และรุ้ง ปนัสยา และกลุ่มการ์ดวีโว่ พร้อมกับทางด้านนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า และน.ส.พรรณิการ์ วานิช ได้ร่วมชุมนุมในครั้งนี้ด้วย ทั้งนี้ การชุมนุมที่หน้าสถานทูตเมียนมา ได้เกิดเหตุกลุ่มการ์ดวีโว่ปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทางกลุ่มผู้ชุมนุมได้ใช้ข้าวของต่างๆ ขว้างปาใส่เจ้าหน้าที่ และขณะที่ตำรวจเคลื่อนขบวนบีบเข้ากระชับพื้นที่ ก็เกิดเสียงคล้ายระเบิดดังขึ้น มีเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชน บาดเจ็บ 2 นาย ขณะเดียวกัน ตำรวจได้ควบคุมตัวผู้ชุมนุมได้ 3 คน พร้อมเดินหน้ากระชับพื้นที่ไปบนถนนสาทร ผลักดันผู้ชุมนุมไปจนถึงสถานีรถไฟฟ้าสุรศักดิ์จนเกิดการขว้างปาสิ่งของใส่เจ้าหน้าที่และมีการขว้างระเบิดควันสีใส่ตำรวจด้วย

ศาลอาญากรุงเทพใต้ ถ.เจริญกรุง 63 พนักงานสอบสวน สน.ยานนาวา ได้นำตัวนายปัณณพัทธ์ จันทนางกูล อายุ 19 ปี และ นายเกียรติศักดิ์ พันธ์เรณู อายุ 20 ปี ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมจากกรณีเกิดเหตุชุลมุนกลางถนนสาทร หลังกลุ่มการ์ด wevo (วีโว่) ร่วมชุมนุมต้านการรัฐประหารในประเทศเมียนมา ที่หน้าสถานทูตเมียนมาในประเทศไทย จนมีตำรวจได้รับบาดเจ็บ 14 นาย มาฝากขังครั้งแรก เป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 2 – 13 ก.พ. นี้ เนื่องจากยังต้องสอบพยานอีก 5 ปาก และรอผลการตรวจสอบพิมพ์มือผู้ต้องหา

ต่อมา การ์ดวีโว่ 2 รายได้รับการปล่อยตัว โดยศาลพิจารณาแล้วอนุญาตปล่อยชั่วคราว ตีราคาประกันคนละ 50,000 บาท โดยใช้ตำแหน่งอาจารย์เคท ครั้งพิบูลย์ หรือ นายคฑาวุธ ครั้งพิบูลย์ อาจารย์คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ และ น.ส.สุทธวรรณ สุบรรณ ณ อยุธยา หรือ มิ้นท์ ส.ส.นครปฐม พรรคก้าวไกล เป็นหลักประกัน ทั้งนี้ น.ส.สุทธวรรณ เคยใช้ตำแหน่งประกันตัว แอดมินเพจคณะราษฎร คดีปฏิทินเป็ดผิด ม.112มาแล้ว

ซึ่งก็เป็นที่ตั้งข้อสังเกตว่า ในการประกันตัวการ์ดวีโว่ในครั้งนี้ ก็มี ส.ส.พรรคก้าวไกล จ.นครปฐม มาประกันตัว แต่ส.ส.คนดังกล่าวไม่ใช่นางอมรรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล ที่ก่อนหน้านี้ ได้ใช้ตำแหน่งส.ส. ประกันตัวแกนนำมาโดยตลอด ทำให้เกิดการตั้งข้อสงสัยเป็นวงกว้างว่า การประกันตัวผู้ต้องหาโดยใช้ตำแหน่ง ส.ส. นั้น ไม่มีขีดจำกัดเลยหรืออย่างไร สามารถที่จะทำการประกันตัวเมื่อไหร่ก็ได้ กี่คนก็ได้ หรือในฐานความผิดใดก็ได้ใช่หรือไม่

ทางด้านของ นายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ได้โพสต์ข้อความที่หลายๆท่านอาจจะไม่ทราบ ว่าการใช้ตำแหน่ง ส.ส. ในการประกันตัวผู้ต้องหานั้น ก็มีการจำกัดในส่วนของวงเงินด้วยเช่นกัน โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

#สื่อมวลชนตำรวจอัยการศาลและประธานสภาสนใจตรวจสอบหน่อย
เห็นสสบางคนบางพรรคเป็นข่าววิ่งประกันตัวผู้ต้องหาทั้งคดีผิดพรบชุมนุมคดีหมิ่น112คดียิงM79ฯลฯกันนับสิบคดี
สสใช้ตำแหน่งประกันตัวให้ผู้ต้องหาหลายสิบคนวงเงินประกันแตกต่างกันบางคนศาลตีวงเงินประกันถึง300,000บาท
ตรวจดูข้อกฎหมายและหลักเกณฑ์การใช้ตำแหน่งประกันตัวแล้ว สส1คนประกันได้ไม่เกิน1ล้านบาท
สงสัยว่าน่าจะเกินวงเงินประกันไปแล้วหรือไม่
ปีใหม่นี้ช่วยตรวจสอบกันทีครับ

ทั้ง ส.ว.สมชาย ยังได้ลงภาพของ ข้อกฎหมาย และหลักเกณฑ์การใช้ตำแหน่งข้าราชการทางการเมือง ในตำแหน่ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรประกันตัว พบว่า จะสามารถประกวนได้ไม่เกินวงเงิน 1 ล้านบาท ซึ่ง จากที่รวมคดีทั้งหมดนั้น น่าจะเกินไปแล้วหลายเท่านัก จึงจี้ให้มีการตรวจสอบ เป็นการเร่งด่วน

นอกจากนี้ยังมีประชาชนจำนวนมากได้เข้ามาแสดงความคิดเห็นถึงการใช้ตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ของกลุ่มพรรคก้าวไกลในการประกันตัวให้กับกลุ่มผู้ชุมนุมว่าเหมือนสนับสนุนให้เหิมเกริม โดยคิดว่าทำอะไรผิด ก็มี ส.ส. มาประกัน รวมถึงยังได้แสดงความคิดเห็นในเชิงข้อเสนอว่า สมควรปรับเปลี่ยน การให้สิทธิ์ใช้ตำแหน่ง ส.ส.ให้สามารถประกันตัวผู้อื่นได้ มาเป็นเพียงแค่ไว้ใช้กับตนเองผู้มีตำแหน่งทางการเมืองเท่านั้น เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบในปัจจุบัน ที่มี ส.ส.นักประกัน คอยช่วยเหลือสนับสนุนผู้กระทำความผิดนั่นเอง

ต่อมา นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล หรือ เจี๊ยบ คอนถม ส.ส.พรรคก้าวไกล จ.นครปฐม ได้ทวีตข้อความผ่านทวิตเตอร์ว่า
“ข้อครหาเรื่องใช้ตำแหน่งประกันผู้ต้องหาคดีการเมืองนั้นไม่เคยสนใจ
วงเงินประกันยังไม่เกินที่กม.กำหนด เพราะที่ผ่านมาบางคดีใช้เงินสดประกันไม่ได้ใช้ตำแหน่ง และบางคดีที่ไม่ส่งฟ้องก็ได้วงเงินกลับคืนมา
ไม่สามารถยอมรับคดีปิดปากยัดเยียดข้อหาร้ายแรงต่อผู้ออกมาเรียกร้องสังคมที่ดีกว่าได้”

ต่อมามีได้ทำการตรวจสอบวงเงินคดีต่างๆที่ ส.ส.เจี๊ยบใช้ตำแหน่งประกันตัวผู้ต้องหามาทั้งหมดนั้นพบว่า ส.ส.เจี๊ยบนั้นได้ใช้ตำแหน่งประกันไปทั้งหมด 3 คดีแล้ว โดยคดีแรกคือ คดีความของเยาวชนอายุ16 ผู้ต้องหาความผิดฐานร่วมกันหมิ่นประมาท ดูหมิ่นหรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี ตาม ป.อาญา มาตรา 112 และข้อหาอื่นๆ จากการร่วมชุมนุมกับกลุ่มราษฎร 2563 เมื่อวันที่ 29 ต.ค. ที่ผ่านมา ที่หน้าวัดพระแม่อุมาเทวี (วัดแขก) สีลม โดยไม่มีการระบุวงเงินประกันที่ชัดเจน แต่มีข้อมูลระบุว่า ผู้ต้องหาได้ยื่นขอปล่อยชั่วคราว โดยใช้ตำแหน่ง ส.ส.ของนางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ยื่นศาลพิจารณาคำร้องขอปล่อยชั่วคราวแล้ว อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวตั้งแต่ชั้นสอบสวนและชั้นพิจารณาของศาลชั้นต้น หากผิดสัญญาปรับ 12,000 บาท ใช้ตำแหน่งประกัน

คดีต่อมา คือ คดีของนายยงยุทธ หรือชินจัง บุญดี อายุ 32 ปี มือยิง M79 ใส่ม็อบกปปส. ผู้ต้องหาตามหมายจับ ในความผิดฐาน ร่วมกันพยายามฆ่า,ทำให้เกิดระเบิดจนน่าจะเป็นอันตรายแก่บุคคลอื่นหรือทรัพย์สินของผู้อื่น,มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต,มียุทธภัณฑ์ไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต” โดยจับกุมได้ในรีสอร์ทแห่งหนึ่งใน จ.เพชรบูรณ์ ก่อนควบคุมตัวส่ง สน.ทุ่งสองห้อง พื้นที่เกิดเหตุสอบสวนดำเนินคดี ซึ่ง ส.ส.เจี๊ยบ ได้ใช้ตำแหน่ง ส.ส.ยื่นคำร้องขอประกันตัว โดยตีราคาประกัน 3 แสนบาท พร้อมกำหนดเงื่อนไขห้ามยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน ก่อนปล่อยตัวชั่วคราวออกไป

และคดีสุดท้ายในวันที่ 31 ธ.ค.63 เวลาประมาณ 21.00 น. ส.ส.เจี๊ยบได้ใช้ตำแหน่งประกัน ศาลอนุญาตปล่อยชั่วคราวระหว่างสอบสวน วงเงินประกันจำนวน 300,000 บาท แอดมินเพจเฟซบุ๊กคณะราษฎร คดี ม.112 ดังนั้น วงเงินประกันรวมของตำแหน่ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรนั้น ได้ไม่เกิน 1,000,000 บาท ซึ่ง ส.ส.เจี๊ยบได้ใช้วงเงินประกันที่ระบุชัดเจนไปกว่า 600,000 บาท ซึ่งในการประกันตัวครั้งล่าสุด ในคดีก่อความรุนแรงที่หน้าสถานทูตเมียนมา ก็เป็น ส.ส.จากพรรคก้าวไกล ที่ประกันตัวการ์ดวีโว่ โดยเป็นส.ส.นครปฐม จากพรรคก้าวไกล แต่ไม่ใช่เจ๊เจี๊ยบ เจ้าเก่า

ซึ่งที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่า พรรคก้าวไกล จะมีการเคลื่อนไหวไปในแนวทางเดียวกันกลุ่มม็อบไม่ว่าจะเป็นข้อเรียกร้องหรือให้การสนับสนุนการชุมนุมของม็อบ พร้อมทั้งคอยช่วยเหลือในเรื่องของคดีความมาโดยตลอด จนทำให้นายณฐพร โตประยูร อดีตที่ปรึกษาประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน ยื่นคำร้องให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) พิจารณาวินิจฉัยกรณีพรรคก้าวไกล มีการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ(พ.ร.ป.) ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 จากกรณีการแสดงความเห็นทางการเมือง การเข้าร่วมกับผู้ชุมนุม และการประกันตัวผู้ต้องหาในคดีชุมนุมทางการเมือง ถือเป็นการกระทำการ หรือส่งเสริม สนับสนุนให้ผู้ใดกระทำการอันเป็นการก่อกวนหรือคุกคามความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน

รวมทั้งกรณีพรรคก้าวไกลยื่นร่างแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา ในฐานความผิดเกี่ยวกับการหมิ่นประมาททั้งหมด รวมถึงมาตรา 112,ร่างแก้ไข พ.ร.บ.การกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2560, และร่างแก้ไข พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ พ.ศ. 2558 ตลอดจนการลงมติเห็นชอบร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมฉบับ ไอลอว์ ซึ่งการกระทำของพรรคก้าวไกล ถือเป็นการกระทำที่เป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข อันเป็นความผิดตาม พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 มาตรา 45 และมาตรา 92 (2) (3) จึงขอให้ กกต.พิจารณาวินิจฉัย และเสนอเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรค

ล่าสุดทางด้าน นายศุภณัฐ อภิญญาณ หรือ “ดร.นิว” นักวิจัยภายใต้สถาบันวิจัย MAST Center และ คณะวิศวกรรมชีวการแพทย์ University of Arkansas ประเทศสหรัฐอเมริกา โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กถึงกรณีของพรรคก้าวไกลที่ช่วยประกันตัวเหลาแกนนำที่ทำผิดกฎหมาย โดยระบุข้อความว่า

#ถลกหนังพรรคก้าวไกล
นอกจากประเทศไทย มีประเทศไหนในโลกที่ ส.ส.สามารถใช้ตำแหน่งประกันตัวผู้ต้องหาได้บ้าง?
ทำไมพรรคก้าวไกลและคณะก้าวหน้าจึงไม่เคยเรียกร้องให้มีการปฏิรูปเพื่อลดอำนาจของนักการเมืองบ้าง?

เพื่อนชาวอเมริกันได้เล่าให้ฟังว่า ส.ส.สหรัฐอเมริกาไม่สามารถใช้ตำแหน่งประกันตัวผู้ต้องหาได้ เพราะนักการเมืองไม่ได้มีสิทธิพิเศษถึงขั้นที่จะสามารถประกันตัวผู้ต้องหา และนักการเมืองไม่สมควรที่จะเข้ามาวุ่นวายกับกระบวนการยุติธรรม นอกจากประเทศไทย มีประเทศไหนในโลกที่ ส.ส.สามารถใช้ตำแหน่งประกันตัวผู้ต้องหาได้บ้าง? ทำไมพรรคก้าวไกลและคณะก้าวหน้าจึงไม่เคยเรียกร้องให้มีการปฏิรูปเพื่อลดอำนาจของนักการเมืองบ้าง?

เมื่อเป็นเรื่องที่เอื้อประโยชน์ต่อตนเองและลัทธิพวกพ้อง พรรคก้าวไกลกลับมองข้ามความเป็นอำมาตย์ของตนเอง แล้วตักตวงผลประโยชน์เหล่านั้นโดยไม่ได้สนใจเปรียบเทียบกับบริบทในต่างประเทศ แถมมีเจตนาปกป้องผู้ต้องหาเฉพาะที่ถือลัทธิความเชื่อเดียวกับตนเท่านั้น ซึ่งล้วนแต่มีพฤติกรรมสร้างความแตกแยกและบ่อนทำลายความมั่นคงของสถาบันพระมหากษัตริย์ ในขณะเดียวกันพรรคก้าวไกลกลับยัดเยียดความขัดแย้งให้กับสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างน่ารังเกียจ สนับสนุนการปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์แบบบิดเบือนในทำนองเดียวกับม็อบ โดยไม่ได้อ้างอิงหลักการหรือความเป็นจริงใดๆ ทั้งๆที่สถาบันพระมหากษัตริย์เป็นกำลังของประชาชน บำบัดทุกข์บำรุงสุขแก่อาณาราษฎรมาโดยตลอด อีกทั้งยังวางรากฐานของชาติและระบอบประชาธิปไตยมาตั้งแต่ต้น จึงไม่จำเป็นต้องปฏิรูป

นักการเมืองต่างหากที่ต้องได้รับการปฏิรูป เพราะเป็นผู้ที่ประชาชนเลือกเข้ามาให้ใช้อำนาจอธิปไตยของประชาชนในการบริหารราชการแผ่นดิน ประเทศชาติจะเจริญรุ่งเรืองหรือตกต่ำลงล้วนขึ้นอยู่กับนักการเมืองเป็นสำคัญ การปฏิรูปนักการเมืองจึงเป็นเรื่องที่สมเหตุสมผลและมีความจำเป็นอย่างยิ่งยวด เพื่อป้องกันไม่ให้นักการเมืองทำตัวเป็นมาเฟียการเมือง เข้ามาแสวงหาผลประโยชน์ แทนที่จะเข้ามารับใช้ประชาชน แต่กลับทำตัวเป็นนายของประชาชน หรือรับใช้นายทุนเจ้าของพรรคการเมือง แล้วเข้ามาแทรกแซงกิจการความมั่นคงของชาติและเบียดเบียนประโยชน์สุขของประชาชนทั้งประเทศ

ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา พรรคก้าวไกลเคลื่อนไหวประสานกับคณะก้าวหน้าและม็อบอย่างเป็นเนื้อเดียวกัน แม้พรรคก้าวไกลจะแอบอ้างคำว่า “ประชาชน” แต่ก็ไม่ได้รับใช้ประชาชน หากแต่รับใช้ลัทธิความเชื่อเฉพาะกลุ่มของตน การใช้ตำแหน่ง ส.ส. ประกันตัวผู้ต้องหาแบบอำมาตย์ไม่อายชาวโลก ก็ประกันตัวแต่ผู้ต้องหาที่เป็นกลุ่มก้อนในขบวนการลัทธิเดียวกันเท่านั้น โดยไม่ได้สนใจประโยชน์สุขของประชาชนทั่วไปแต่อย่างใด แม้พรรคก้าวไกลจะแอบอ้างคำว่า “ประชาธิปไตย” แต่ก็สนใจแต่ความต้องการของลัทธิตัวเอง โดยไม่ได้ฟังเสียงของประชาชน ยังคงเป็นส่วนหนึ่งของขบวนการป่วนชาติในรัฐสภาร่วมกับคณะก้าวหน้าและม็อบนอกรัฐสภา

พรรคก้าวไกลจึงไม่ใช่พรรคของประชาชน โดดเดี่ยวจากประชาชน ไปทำสิ่งที่ประชาชนไม่ต้องการ เฉไปทำเรื่องที่ไม่ใช่ประโยชน์ของประชาชน ไม่ได้ช่วยแก้ไขปัญหาของประเทศชาติและประชาชน ไม่ได้สร้างประชาธิปไตย มัวแต่หมกมุ่นอยู่กับการบ่อนทำลายความมั่นคงของสถาบันพระมหากษัตริย์ วุ่นวายกับการแก้ไข ม.112 ที่ไม่ได้เป็นผลดีต่อความมั่นคงของชาติและความผาสุขของประชาชนทั่วไป มีแต่การปั่นกระแสแหกตาประชาชนเพื่อปลุกระดมร่วมกับม็อบ ตลอดจนร่วมชุมนุมสร้างความแตกแยกและบ่อนทำลายความมั่นคงของชาติ แล้วก็ใช้ตำแหน่ง ส.ส.แทรกแซงกระบวนการยุติธรรม ช่วยเหลือแต่พวกเดียวกันในขบวนการเดียวกันทั้งสิ้น ไม่ได้ช่วยเหลือประชาชนทั่วไปตามที่แอบอ้าง

#พรรคก้าวไกลมีไว้ทำไม เปลืองภาษีของประชาชนไม่พอ ยังสร้างความแตกแยกในสังคมอีกต่างหาก

#ปฎิรูปนักการเมืองที่รุ่นเรา