จอร์จ โซรอส ทนไม่ไหวต้่องโผล่มา แสดงความเห็นในโลกโซเชียล มหาเศรษฐีเชื่อสายฮังกาเรียน-ยิวผู้นี้ โพสต์ลงในโซเชียลส่วนตัวและมูลนิธิโอเพ่นโซไซตี เปรียบปฏิบัติการทางทหารของรัสเซียในยูเครน เหมือนกับการบุกโจมตีกรุงบูดาเปสต์ที่กลุ่มนิยมฮิตเลอร์ยึดครองอยู่ ในปี ค.ศ.1944 ช่วงสงครามโลกครั้งที่2 สร้างความเดือดดาลต่อชาวโซเชียล วิจารณ์ว่าเป็นการสรุปที่แปลกประหลาด หาว่ารัฐบาลยูเครนเป็นพวกนิยมลัทธิฮิตเลอร์
วันที่ 27 ก.พ.2565 สำนักข่าวรัสเซียทูเดย์ รายงานว่า นักลงทุนอภิมหาเศรษฐีและผู้บริจาคทางการเมืองรายใหญ่ จอร์จ โซรอส ได้โพสต์แสดงความเห็นเกี่ยวกับสงครามยูเครน ที่กำลังรบกันดุเดือดในพื้นที่ ดูเหมือนจะดึงความคล้ายคลึงกันระหว่างพวกนิยมขวาจัดหัวรุนแรง กับกองทัพยูเครนสมัยใหม่โดยไม่ได้ตั้งใจในบล็อกโพสต์ ซึ่งเขาเปรียบเทียบความขัดแย้งในปัจจุบันกับการที่กองทัพโซเวียตปิดล้อมกรุงบูดาเปสต์ที่ยึดโดยไว้ด้วยกลุ่มนิยมฮิตเลอร์ในปี ค.ศ. 1944
ในโพสต์ ที่ เผยแพร่บนเว็บไซต์ของเขาเมื่อวันเสาร์ โซรอสเรียกร้องให้โลกยืนหยัดเคียงข้างยูเครน เมื่อพวกเขายืนเคียงข้างเรา ก่อนที่จะให้ความเห็นว่าเป็นความคล้ายคลึงกันที่เห็นได้ชัด ระหว่างปฏิบัติการทางทหารของรัสเซียในยูเครนกับการบุกโจมตีเมืองบูดาเปสต์ โดยกองกำลังโซเวียต
“ตอนนี้ชาวยูเครนผู้กล้าหาญอยู่ในแนวหน้าและเสี่ยงชีวิตในการโจมตีที่ทำให้ฉันนึกถึงการบุกโจมตีบูดาเปสต์ในปี 1944 และการล้อมเมืองซาราเยโวในปี 1993”มหาเศรษฐีรายนี้ตั้งข้อสังเกต
ข้อความดังกล่าวยังปรากฏบนบัญชี Twitter ของ Soros แต่ภายหลังถูกลบออกหลังจากที่ผู้ใช้บางคนถล่มว่าเป็นความคิดที่แปลกประหลาด บล็อกโพสต์ยังคงสามารถเข้าถึงได้บนเว็บไซต์ของโซรอสตั้งแต่เช้าวันจันทร์
เว็บไซต์ Open Society ระบุว่า เป็นสิ่งสำคัญที่ทั้งพันธมิตรข้ามมหาสมุทรแอตแลนติก (สหรัฐอเมริกา แคนาดา สหภาพยุโรป และสหราชอาณาจักร) และนานาชาติจะต้องทำทุกอย่างที่ทำได้เพื่อสนับสนุนยูเครนในช่วงเวลาที่รัสเซียผงาด
โซรอสผู้ก่อตั้งประณามประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซียว่าสั่ง”โจมตีโดยตรงต่ออธิปไตยของรัฐที่ครั้งหนึ่งเคยอยู่ในสหภาพโซเวียต”
กรุงบูดาเปสต์เมืองฮังการีในปี ค.ศ. 1944 ซึ่งถูกยึดครองโดยกองทัพฮิตเลอร์ โดนปิดล้อมด้วยกองทหารโซเวียตเป็นเวลาหลายเดือน ในการสู้รบแบบบ้านต่อบ้านอย่างทรหด โซรอส ซึ่งตอนนั้นอายุ 14 ปี และเป็นคนยิว ในเวลาต่อมาอ้างว่าเขาสามารถเอาชีวิตรอดจากการยึดครองของกลุ่มนิยมฮิตเล่อร์ในเมืองของเขาได้เพียงเพราะครอบครัวของเขาได้รับบัตรประจำตัวคริสเตียน
ประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซียสั่งให้”ปฏิบัติการทางทหารพิเศษ” ในเมือง Donbass ได้กล่าวถึงภารกิจของรัสเซียในประเทศนี้ว่าเป็นหนึ่งใน “การกำจัดลัทธิทหารหัวรุนแรงสุดโต่ง”และ “การทำให้ปลอดทหารต่างชาติ” กองทัพยูเครนได้ปลุกระดมอย่างกว้างขวางในโซเชียลมีเดีย รวมทั้งสื่อตะวันตก ประกาศรับ“อาสาสมัคร” ฝ่ายขวาจัด เช่น กองพันอาซอฟ ซึ่งแสดงตนอย่างชัดเจนสวมเครื่องแบบกองทัพฮิตเลอร์ และเมื่อเร็วๆนี้ได้ทำการเฉลิมฉลองอย่างเปิดเผยในเมืองหลวงของยูเครน
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว Facebook ได้ยกเลิกคำสั่งห้ามในปี 2019 สำหรับการยกย่องกองกำลังกึ่งทหารฝ่ายขวา ซึ่งขณะนี้แผ่อิทธิพลอยู่ดินแดนแห่งชาติยูเครน อย่างไรก็ตาม ยักษ์ใหญ่แห่งโซเชียลมีเดียกล่าวว่า กองทัพจะยังคงถูกห้ามไม่ให้โพสต์หรือเกณฑ์ทหารบน Facebook แต่ล่าสุดบล็อกเว็บไซต์ข่าวรัสเซียและโฆษณาทั้งหมด
ในขณะที่เครมลินกล่าวหาเคียฟว่ากระทำอาชญากรรมล้างเผ่าพันธุ์ต่อประชากร Donbass และได้ส่งหลักฐานไปยังศาลโลกแล้ว ด้านเคียฟโต้กลับคำกล่าวอ้างดังกล่าว โดยกล่าวหาว่ารัสเซียใช้สิ่งนี้เป็นข้ออ้างเพื่อก่อการรุกรานทางทหาร และได้ยื่นอุทธรณ์ต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ยูเครนกล่าวหารัสเซียว่า“วางแผนก่ออาชญากรรมล้างเผ่าพันธุ์ต่อชาวยูเครน แต่ไม่ได้มอบหลักฐานที่เป็นรูปธรรมเกี่ยวกับข้อกล่าวหาแต่อย่างใด
