ระยะนี้ประเด็นร้อนที่สุดในระดับสากล ไม่พ้นเรื่องความสัมพันธ์จีน-ไต้หวันที่ตึงเครียดหนัก ทำทั่วโลกวิกตกความขัดแย้งจะลุกลามเป็นสงครามที่จะลากดึงมหาอำนาจเผชิญหน้า จะพากันพังไปทุกฝ่าย ล่าสุดนักวิเคราะห์การเมืองโลกเปิดประวัติผู้นำไต้หวันว่า เป็นหุ่นเชิดของสหรัฐไว้ชนจีน ดำเนินยุทธวิธีเป็นโมเดลเดียวกับที่ทำกับฮ่องกง-ไทย-เมียนมา จากรูปแบบสงครามพันทางสู่การสร้างเงื่อนไขความรุนแรง เพื่อจัดตั้งรัฐบาลหุ่นเชิดปกป้องผลประโยชน์สหรัฐอย่างเต็มที่
แองเจโล จูลิอาโนAngelo Giuliano นักวิเคราะห์การเมืองโลกชาวอเมริกันโพสต์ลงเฟซบุ๊กส่วนตัว แฉชัดๆว่า ที่แท้ไช่ อิง เหวินประธานาธิบดีไต้หวันคนปัจจุบันคือเด็กปั้นซีไอเอ หุ่นเชิดของสหรัฐ โดยเปิดประวัติและการเคลื่อนไหวของของเธอจากวิกิลีกย่อๆดังนี้คือ
ปี 1984 คาดว่าไช่ อิงเหวินได้รับปริญญาดุษฎีบัณฑิต แต่เธอตีพิมพ์ PHD ของเธอในปี 2019 เท่านั้น หลังจากถูกกดดัน ปรากฏว่าเป็นวิทยานิพนธ์เขียนร่วมและไม่ต้องการเปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผู้ดูแลวิทยานิพนธ์
2005 : เข้าสู่แวดวงการเมือง เป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติ
2005 : วิกิลีกส์ : แอบเข้าพบเอไอที สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐฯในประเทศไต้หวัน โดยไม่ได้เปิดเผยทางสาธารณะ
2016 : เธอได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีของไต้หวันโดยใช้ประโยชน์จากการสร้างความกลัวจีน หลังจากการปฏิวัติร่มของฮ่องกงและขบวนการทานตะวันที่สนับสนุนโดยสหรัฐฯ ปลุกระดมคนรุ่นใหม่ต้านจีน
2020: เธอได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีของไต้หวันอีกครั้งโดยใช้ประโยชน์จากการจลาจลในฮ่องกง ที่สนับสนุนโดยสหรัฐฯ ในเรื่องการสร้างความกลัวต่อจีน
เธอทำงานอย่างใกล้ชิดกับกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ตั้งแต่ปี 2005 เป็นอย่างน้อย ขณะที่เธอไม่มีตำแหน่งผู้บริหารทางการเมือง เธอได้รับการดูแลเป็นอย่างดีจากสหรัฐ ให้เป็นเครื่องมือต่อต้านผลประโยชน์ของไต้หวันและจีน
จากข้อมูลดังกล่าวเท่ากับว่า ไช่ อิง เหวินได้รับการบ่มเพาะแนวความคิดประชาธิปไตยตะวันตกแบบสหรัฐ และปฏิเสธภูมิหลังความเป็นจีนมาตั้งแต่เป็นวัยรุ่น เมื่อก้าวเข้าสู่การเมือง ได้ปฏิเสธเจตจำนงค์รวมชาติของพรรคก๊กมินตั๋งร่วมกับพรรคคอมมิวนิสต์จีนอย่างชัดแจ้ง
การประกาศเป็นริเบอรัลเต็มตัวในนามพรรคประชาธิปไตยใหม่ ซึ่งก็ไม่ต่างจากที่ เยาวชนฮ่องกง เยาวชนในประเทศไทยและเมียนมา เกิดกระแสเกลียดชังรากเหง้าแห่งประชาชาติของตน ต้องการเป็นแบบอเมริกาพร้อมเป็นทาสอย่างหลับหูหลับตา
นี่คือผลของยุทธวิธี การใช้สงครามพันทางที่สหรัฐฯ เตรียมการมาเป็นระยะเวลานาน สหรัฐหวังตั้งรัฐบาลหุ่นเชิดของตนทั้งในไต้หวัน ประเทศไทยและเมียนมา เพื่อล้างบางอิทธิพลของจีนในทุกมิติ ทั้งเศรษฐกิจ การเมือง การทหาร
ถ้าถามว่าสหรัฐทำไปทำไม คำตอบนั้นเรียบง่ายเพราะ สหรัฐฯต้องการกำจัดคู่แข่งครองความเป็นจ้าวโลกเบ็ดเสร็จของตนเอง รากเหง้าความคิดประชาธิปไตยแบบสหรัฐคือ ทุนนิยมสามานย์ที่ “ผู้ชนะได้ครอบครองทุกสิ่ง” หรือเดอะวินเนอร์เทคออล (The winner take all) เมื่อจีนซึ่งถูกมองว่า เป็นคนป่วยแห่งเอเชียในอดีต พลิกกลับกลายเป็นยักษ์เศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง และแซงหน้าสหรัฐทั้งทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี ได้รับการยอมรับจากนานาประเทศทั่วโลกเป็นอย่างมาก แม้ต้องเผชิญความยากลำบากของการระบาดใหญ่ไวรัสโควิด-19 ทำสหรัฐหวาดหวั่น
ความกลัวที่จะถูกแซงหน้าไม่ใช่เรื่องของศักดิ์ศรี แต่เป็นเรื่องของผลประโยชน์ที่กลุ่มชั้นนำของสหรัฐและพันธมิตรเคยได้รับ เพื่อสร้างความมั่งคั่งร่ำรวยในขอบเขตทั่วโลกต้องถดถอยลง เพราะมีมหาอำนาจทางเลือกใหม่อย่างจีนเกิดขึ้น
จับตาดูไต้หวันที่กลายเป็นหนึ่งในโมเดลต้านจีน สูตรสำเร็จของสงครามพันทางที่สหรัฐใช้ได้ผลมาแล้วในทุกภูมิภาค แต่ล้มเหลวที่ฮ่องกง และกำลังดำเนินอยู่อย่างเข้มข้นทั้งในประเทศไทยและเมียนมา
