“อดีตทูตนริจโรจน์” แฉญี่ปุ่นป้อง “ปวิน” โยงนายใหญ่สหรัฐ เลี้ยงไว้เป็นหุ่นเชิด หมดประโยชน์ถีบหัวส่ง!

1991

จากกรณีที่นายนริศโรจน์ เฟื่องระบิล อดีตเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัวถึงกรณีที่ชนะคดีแอดมินเพจตลาดหลวง ในข้อหาหมิ่นประมาท โดยระบุข้อความว่า

ในที่สุดความยุติธรรมที่ผมรอคอยก็สิ้นสุดลง ในวันนี้ ศาลจังหวัดสมุทรปราการได้ตัดสินให้ผม (โจทก์) ชนะคดีที่แอดมินเพจตลาดหลวง (จำเลย) ได้กระทำการหมิ่นประมาทผมในหลายวาระ โดยศาลได้พิพากษาให้จำเลยชำระเงิน 1,000,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 5 ต่อปี ของต้นเงินดังกล่าวนับแต่วันฟ้อง (ฟ้องวันที่ 16 ส.ค. 2564) เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์

ถ้ากระทรวงการคลังปรับเปลี่ยนอัตราโดยตราเป็นพระราชกฤษฎีกาเมื่อใด ก็ให้ปรับเปลี่ยนไปตามนั้น แต่ทั้งนี้ต้องไม่เกิน 7.5 ต่อปีตามคำขอ และให้จำเลยโฆษณาผลคำพิพากษาในสังคมออนไลน์เฟซบุ๊กผ่านบัญชีของจำเลยโดยตั้งค่าเผยแพร่เป็นสาธารณะเป็นเวลา 15 วันติดต่อกัน โดยหากมีค่าใช้จ่ายในการโฆษณาให้จำเลยเป็นชำระ กับให้จำเลยใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์ โดยกำหนดค่าทนายความ 7,000 บาท

สำหรับติ่งลูกเพจที่เคยหมิ่นประมาทผม นั้น บางคนที่มาขอขมา ขออภัยแต่แรก เช่น นักร้องคนหนึ่ง ก็ถือว่ารอดตัวไป แต่รายอื่นๆ ที่เหลือซึ่งนิ่งเฉย ไม่เคยติดต่อขอโทษ ขอขมา ผมก็ต้องดำเนินคดีทางกฎหมายต่อไป ส่วนใครที่สมรู้ร่วมคิดจนทำให้เกิดการหมิ่นประมาทผมไม่ว่าในทางตรงหรือทางอ้อม ซึ่งผมทราบว่าเป็นใคร / กลุ่มใด ถ้ากฎหมายจัดการไม่ถึง ก็ขอให้ได้รับเวรตามกฎแห่งกรรมต่อไปด้วย

ต่อมา อดีตทูตนริจโรจน์ ก็ได้โพสต์ข้อความต่อว่า ลองติดต่อสอบถามไปที่ศาลจังหวัดสมุทรปราการนะครับว่าที่โดนผมฟ้องแล้วแพ้คดีน่ะเป็นใคร ชื่ออะไร ? หมิ่นประมาทผมกี่กรรม กี่วาระ ใช้คำพูดหยาบคายและข้อมูลบิดเบือนอย่างไร ? และที่ผมเอาหลักฐานข้อมูลต่างๆไปหักล้างคำหมิ่นประมาทนั้นมีรายละเอียดอย่างไรที่ทำให้ผมชนะคดี !

จะได้กระจ่างซะทีว่าที่ศาลตัดสินให้ชดใช้ตามที่ผมเรียกร้องค่าเสียหายไปนั้นสมควรหรือไม่ ? ใครจะอยู่ ใครจะไป ผมไม่ทราบ ไม่ใช่ธุระกงการอะไรของผม ? ผมทราบแต่ว่าคนที่แพ้คดีผมจะมีคดีเป็นชนักติดหลังติดตัวตลอดไป และสามารถโดนยึดทรัพย์ได้แค่นั้นเอง ถ้าไม่มีเงินจ่ายค่าเสียหาย !!!!! ส่วนตัวผมก็ไม่ได้ต้องการอะไรมากไปแค่ว่า “ผมชนะคดี” แล้วเท่านั้น หมายเหตุ ส่งให้ทนายดูแล้วว่าหมิ่นศาลหรือไม่
ทั้งนี้ อดีตท่านทูตยังได้โพสต์ข้อความถึงกรณีที่มีแกนนำรายหนึ่ง ที่ได้หนีไปพร้อมเงินบริจาคว่า

เข้าไปเม้นท์โดยยกสำนวนไทยว่า “ เงินง้างได้ดั่งใจ” โดยไม่ได้ระบุชื่อใครเลย ในโพสท์ที่เกี่ยวกับแกนนำม๊อบคนนึงที่เรียนเก่ง แต่สุดท้ายหนีไปพร้อมเงินบริจาค มีคนเข้ามาต่อว่านี่เป็นการเหยียด ! เพื่อนๆคิดว่าอย่างไรครับ ? เดี๋ยวนี้ยกสำนวนไทยก็ไม่ได้แล้วหรือ !!?? ในขณะที่พวกเชียร์เด็กแกนนำหาว่าผมเหยียด แต่เด็กคนนั้นหอบเงินบริจาคหนีไปจริงๆ !! แปลกที่ไม่แตะ ไม่พูดว่าเด็กโกงสักคำ !!!
พร้อมกับเปิดเผยว่า มีคนถามผมว่า ถ้าจำเลยซึ่งอยู่ต่างประเทศยังโอหัง และยังด่าผมต่อไป จะทำยังไง ? ก็ไม่ยังไงครับ ถ้าไม่หยุดด่า ผมก็ไม่หยุดฟ้องดำเนินคดี ต่อให้ฟ้าสีทองผ่องอำไพ เขาก็จะได้กำไรจากคดีที่ผมฟ้องเป็นชนักติดหลังไปตลอด ผมเฉยๆนะ ผมไม่เหนื่อย ผมเกษียณแล้ว ดีเสียอีกจะได้มีอะไรทำสนุกๆ ส่วนพวกติ่งลูกเพจ อยากร่วมสนุกด้วยก็ยินดีครับ
และมีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความคิดเห็นต่อว่า ต้นสังกัดที่ญี่ปุ่นเขาปกป้องกันครับ เพราะเป็นพันธมิตรกับสหรัฐฯนายใหญ่ เขาคงไม่กล้าทำอะไร เขาก็เลี้ยงมันเอาไว้เป็นหุ่นเชิดบ่อนทำลายประเทศไทยต่อไป จนกว่ามันจะหมดประโยชน์นั่นแหละ ถึงจะถูกถีบหัวส่ง