เปิดลึก เบื้องหลังรัฐสภาผ่านบัตร2ใบฉลุย เหตุสว.พลิกนาทีสุดท้ายก่อนลงมติ?
จากที่วันนี้ 10 กันยายน 2564 มีการประชุมร่วมกันของรัฐสภา ครั้งที่ 6 สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง การลงมติร่างรัฐธรรมนูญ แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ..) พุทธศักราช …. (แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 83 และ 91) วาระที่สาม ในการประชุมร่วมกันของรัฐสภา
ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์ที่รัฐธรรมนูญระบุเอาไว้ มาตรา 256 ที่ระบุว่า ต้องมีคะแนนเสียง เห็นชอบ ด้วยในการที่จะให้ออกใช้เป็นรัฐธรรมนูญมากกว่ากึ่งหนึ่งของจํานวน ส.ส. ส.ว. เท่าที่มีอยู่ รวมถึงมีเสียง ส.ส.ฝ่ายค้านไม่น้อยกว่า ร้อยละ 20 คือ จำนวน 45 คน และมีส.ว.ให้ความเห็นชอบ ไม่น้อยกว่า 1ใน 3 คือ 84 คนด้วย
ล่าสุดผลการลงมติของรัฐสภา ผลการลงคะแนนปรากฎว่าได้ ที่ประชุมมีมติให้ความ “เห็นชอบ” ทั้งในส่วนของส.ส.ที่ได้เสียงเกินกึ่งหนึ่ง เสียงจากส.ว.ที่ล่าสุดเกินจำนวน1ใน3หรือ84เสียง รวมถึงเสียงจากพรรคฝ่ายค้าน 20% หรือ 45 ตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดไปเป็นที่เรียบร้อย จึงถือว่าที่ประชุมให้ความ “เห็นชอบ” รัฐธรรมนูญฉบับแก้ไข
นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่า การลงมติ พบว่าพรรคพลังประชารัฐ พรรคเพื่อไทย และพรรคประชาธิปัตย์ ต่างออกเสียง “เห็นชอบ” ส่วนพรรคภูมิใจไทย และพรรคก้าวไกล รวมถึงพรรคขนาดเล็กส่วนใหญ่ “งดออกเสียง”
ขณะที่ในส่วนของส.ว.โดยเฉพาะสายที่มีความสนิทสนมกับพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกและรมว.กลาโหม และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ไม่เว้นแม้แต่ พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา ส.ว. และน้องชายพล.อ.ประยุทธ์ต่างลงมติเป็นไปในทิศทางเดียวกันคือ “เห็นชอบ” ขณะที่5ผบ.เหล่าทัพที่เป็นส.ว.โดยตำแหน่งพบว่าไม่ลงมติใดๆ
สำหรับขั้นตอนต่อไป เมื่อร่างรัฐธรรมนูญ แก้ไขเพิ่มเติมผ่านวาระสามแล้ว ให้นายกรัฐมนตรี รอไว้ 5 วัน ถ้าหากไม่มีสมาชิกรัฐสภายื่นศาลรัฐธรรมนูญ ก็ให้นำร่างรัฐธรรมนูญ แก้ไขเพิ่มเติม ขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อม ภายใน 20 วันต่อไป
ซึ่งก่อนหน้านี้ ทีมข่าวเดอะทรูธ ได้นำเสนอมุมมองในการแก้ไขรัฐธรรมนูญในวาระ 3 ที่ทางด้าน นายวันชัย สอนศิริ สมาชิกวุฒิสภา ได้เปิดเผยผ่านที่ประชุมร่วมว่า ตั้งแต่การพิจารณาวาระ 2 มีสัญญาณอยู่แล้วถ้าวันนั้นไม่มีการปรับปรุงแก้ไขในบางบทหรือบางมาตรา เชื่อว่าอาจจะไม่ผ่านการพิจารณาในวันนั้น ทางกมธ.แก้รัฐธรรมนูญจึงมีการปรับปรุงแก้ไขกันในตอนเช้าก่อนที่จะเริ่มการประชุม ถือเป็นสัญญาณหนึ่ง และอีกประการหนึ่งก่อนที่จะมีการลงคะแนนสังเกตได้ว่า สว.งดออกเสียงเป็นจำนวนมาก แม้ว่าส.ว.ส่วนหนึ่งจะไม่ลงคะแนน เขาก็ชนะอยู่แล้ว เพราะเป็นการใช้เสียงข้างมากปกติ ดังนั้น สว.ส่วนใหญ่จึงวางท่าทีแบบกลางๆ ไว้ และตัดสินใจอีกครั้ง
ในขณะเดียวกัน มีการระบุถึงกระแสว่า ขณะนี้สว.สายพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กับ สว.สายพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ ได้พยายามชี้แจง อธิบายถึงข้อดี ข้อเสีย ของบัตรเลือกตั้ง 2ใบ เพื่อให้สว.ส่วนใหญ่หันมาสนับสนุนความคิดของฝั่งตนเอง โดยรายงานระบุอีกว่า สว.ที่อยู่สายนายกฯ พยายามคัดค้านบัตร2ใบ ในขณะสายบิ๊กป้อม เสนอให้ใช้ตามที่แก้รัฐธรรมนูญ ก็คือกลับไปใช้บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ
นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่า มีการประชุมกันช่วงเช้าก่อนลงมติ ปรากฏว่า สว.กลุ่มที่เคยคัดค้านบัตรสองใบ ได้มีท่าทีพลิก เปลี่ยนมาสนับสนุน บางคนลงคะแนนงดออกเสียงด้วย ซึ่งการพลิกของสว.ในครั้งนี้ จึงทำให้ที่ประชุมรัฐสภามีมติเห็นชอบรัฐธรรมนูญฉบับแก้ไขนี้