หลังจากที่วันนี้ (20 เม.ย.) นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) แถลงสถานการณ์ประจำวันว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้น 1,443 ราย
แบ่งเป็น ผู้ติดเชื้อภายในประเทศ 1,441 ราย จากระบบบริการ 1,328 ราย คัดกรองเชิงรุก 113 ราย และเดินทางมาจากต่างประเทศ 2 ราย รวมผู้ป่วยสะสมยืนยัน 45,485 ราย
นายแพทย์ทวีศิลป์ เปิดเผยว่า มีรายงานจากกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) พบผู้ป่วยมีอาหารหนัก 223 ราย และต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ 55 ราย
สำหรับผู้ติดเชื้อในประเทศ 1,441 ราย แบ่งเป็น กรุงเทพมหานคร 349 ราย (จากสถานบันเทิง 54 ราย) ปริมณฑล 218 ราย (จากสถานบันเทิง 5 ราย) และจังหวัดอื่น ๆ 874 ราย (จากสถานบันเทิง 87 ราย) โดยผู้ติดเชื้อโควิด ที่เชื่อมโยงสถานบันเทิง รวมแล้ว 6,020 ราย พบว่ากระจายไปแล้วกว่า 71 จังหวัด ยกเว้น 6 จังหวัด คือ ชัยนาท ปัตตานี นราธิวาส ยะลา สตูล ระนอง
ทั้งนี้ปัญหาของการเกิดการระบาดโควิดระลอกที่ 3 มีคลัสเตอร์กลุ่มใหญ่มาจากแหล่งบันเทิงทองหล่อ และพบว่าเป็นเชื้อสายพันธุ์อังกฤษที่แพร่กระจายเชื้อได้รวดเร็ว แม้ว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจ จะสั่งฟันโทษร้ายแรงกับผู้จัดการร้านผับดังทั้ง 2 แห่งแล้วก็ตาม สถานการณ์ตอนนี้ดูเหมือนว่าจะไม่ค่อยดีขึ้นมากนัก ทั้งจำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ รอบนี้กระจายทั่วทั้งเจ้าหน้าที่รัฐ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ดารา นักร้อง วงการบันเทิง และมีเด็กหลายคนติดเชื้อ อายุน้อยสุดเพียง 2 เดือนเท่านั้น วิกฤตเช่นนี้ไม่เคยเกิดขึ้นในโควิดรอบแรกและรอบสอง ครั้งนี้โรงพยาบาลหลาย ๆ แห่งในกทม. ไม่มีเตียงที่จะรองรับผู้ป่วยได้เพียงพอ ทำให้ต้องมีการจัดสร้างโรงพยาบาลสนาม อย่างในพื้นที่เชียงใหม่ กทม. ปทุมธานี นนทบุรี และยังมีมาตราการจำกัดพื้นที่ความเสี่ยง เพื่องดการรวมตัว ทำกิจกรรม และการทำงานที่บ้านต้องกลับมาอีกครั้ง
นอกจากนี้ปัญหาด้านการฉีดวัคซีนไม่เป็นไปตามแผน หากเทียบกับสถิติประเทศเพื่อนบ้านของไทย อย่างกัมพูชา และลาว ได้ฉีดวัคซีนคืบหน้าไปแล้วกว่า 50 % จนล่าสุดพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้เปิดเผยว่า ขณะนี้ไทยมีวัคซีนโควิดเข้ามาแล้ว 2,117,000 โดส ได้จัดแผนแจกจ่ายไปยังพื้นที่ต่างๆเพิ่มมากขึ้นแล้ว และขอให้เร่งรัดการฉีดให้มากยิ่งขึ้น หากบุคลากรทางการแพทย์ไม่พอขอให้ไปรวบรวมบรรดาหมอ พยาบาลที่มีความสามารถมาช่วยกันฉีด ขณะเดียวกันโรงพยาบาลเอกชนก็พร้อมยินดีช่วยฉีดตรงนี้ ได้มีการหารือกันอยู่แล้วจะทำอย่างไรให้รวดเร็วขึ้น
ทั้งนี้ วัคซีนที่ประมาณการไว้ที่จะเข้ามาและติดต่อไว้ในขณะนี้เรียนให้ทราบ ในวันที่ 24 เม.ย.ซิโนแวคจะเข้ามาอีก 5 แสนโดส เดือนพ.ค.ซิโนแวคเข้ามาอีก 1 ล้านโดส แต่ในส่วนของ 1 ล้านโดสตรงนี้ต้องรอนโยบายของรัฐบาลจีนด้วย เพราะการนำออกจากประเทศจีน ต้องขออนุมัติรัฐบาลจีนก่อน ซึ่งเราหารือกันเป็นประจำอยู่แล้ว
ในส่วนของแอสตราเซเนกาที่ผลิตในประเทศไทย จะเริ่มทยอยส่งตั้งแต่ในเดือนมิ.ย.ประมาณ 4-6 ล้านโดส และเพิ่มจำนวนตั้งแต่เดือนก.ค.ไปจนถึงสิ้นปี 2564 จนครบ 61 ล้านโดส ฉะนั้นบวกกับที่เราจะจัดหาเพิ่มเติมเป็นวัคซีนทางเลือกก็คิดว่าน่าจะเพียงพอ ขณะนี้สถาบันวัคซีนแห่งชาติกำลังเจรจากับไฟเซอร์ ประเทศอังกฤษ มีความเป็นไปได้ส่งให้ได้ช่วงเดือน ก.ค.ถึงสิ้นปี 64 ประมาณ 5-10 ล้านโดส ขณะนี้กำลังรอใบเสนอราคาและเงื่อนไขอยู่ เรามีวัคซีนอีกหลายยี่ห้อด้วยกัน แต่ตนไม่อยากพูดไปล่วงหน้า เพราะอยู่ในขั้นตอนการติดต่ออยู่ รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ
แต่ทางด้านนายอนุทิน ชาญวีรกุล รมว.กระทรวงสาธารณสุข ก็ได้บอกด้วยว่า การเจรจาซื้อวัคซีนนั้น ได้ทยอยดำเนินการแล้ว แต่ไม่มีรายใดรับปากว่าส่งให้ได้ในเดือน พ.ค.นี้ ขณะที่หมอ พยาบาล ป่วยติดเชื้อโควิดกว่า 146 ราย ทำให้ต้องขอความร่วมมือจากนักศึกษาแพทย์เข้ามาช่วยดูแลเคสผู้ป่วยที่อาการไม่หนัก
คำถามของการเกิดคลัสเตอร์กลุ่มใหม่ในครั้งนี้ ก็คือ การปล่อยให้มีการเปิดสถานบันเทิงผิดกฎหมาย ไม่มีมาตรการเว้นระยะห่าง และพบว่าผับย่านทองหล่อหลายร้าน รวมทั้งคริสตัลคลับ ไม่มีใบประกอบการที่ถูกต้องตามกฎหมายด้วย แม้จะมีการสั่งเด้งผกก.ทองหล่อ เพื่อรอการสอบสวน ไม่ได้ไล่ออกจากหน้าที่ ทั้งที่สถานการณ์โควิดบานปลายหนัก เพราะการละเลยของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สังคมจึงมีสิทธิ์ตั้งคำถามว่า อาจจะมีการรับ “ส่วย” เกิดขึ้น ผับถึงเปิดได้ ทั้งที่ผิดกฎหมาย เหมือนที่นายชูวิทย์ เคยแฉไว้ว่า เจ้าของร้านให้สินบนเจ้าหน้าที่ด้วยการเปิดห้องวีไอพีให้ และจัดเอนเตอร์เทรนชุดใหญ่ ทำให้ย้อนนึกถึงโควิดรอบแรกที่มาจากสนามมวย รอบสองมาจากบ่อนการพนัน ดังนั้นจะเห็นว่า นี่คือหน้าที่ภายใต้ความรับผิดชอบของเจ้าหน้าที่รัฐและตำรวจทั้งนั้น
หากตำรวจไม่รู้ว่ามีผับหรือบ่อนเปิดที่ไหนบ้าง ก็ควรต้องถามกลับว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติยังจำเป็นต้องมีหรือไม่? ตอนนี้พบว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาลติดโควิด 140 นาย ต้องกักตัวอีก 489 เพราะอาจจะรับเชื้อมาจากไปสถานที่เสี่ยง
และจากสถานการณ์โควิดลามทุ่ง ทำให้สังคมทวงถามการปฎิรูปตำรวจ จากพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ว่าเมื่อไหร่จะเอาจริงกับการปฏิรูปองค์การตำรวจ โดยผลจากซูเปอร์โพล ยังระบุด้วยว่า ปชช. 98.6% เห็นด้วยว่าช่วงโควิดคือจังหวะเหมาะ ที่นายกฯจะเร่งปฏิรูปตำรวจ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาซ้ำซาก อย่างไรก็ตามวิกฤติโควิดที่ประชาชนทั้งชาติกำลังเผชิญอยู่ในตอนนี้ นอกจากคนปกปิดไทม์ไลน์ ผู้จัดการผับ เจ้าของปาร์ตี้ จะมีความผิดแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ควรได้รับโทษเช่นกัน ที่ละเลยในการปฏิบัติหน้าที่จนเกิดปัญหาบานปลายถึงขนาดนี้
