“ปิยบุตร” ลากปมแก้รธน. ไปสู่สงครามกลางเมือง พบโพสต์ปลุกระดมหลายครั้ง ดร.นิว แฉ หวังเลียนแบบฝรั่งเศส?

2460

“ปิยบุตร” ลากปมแก้รธน. ไปสู่สงครามกลางเมือง พบโพสต์ปลุกระดมหลายครั้ง ดร.นิว แฉ หวังเลียนแบบฝรั่งเศส?

จากกรณีวันที่ 17 มี.ค. ที่ประชุมรัฐสภาลงมติ คว่ำร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ วาระ 3 ต่อมานายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า ก็ได้ปลุกระดมล่าชื่อ เสนอให้แก้รายมาตรา ขจัดอุปสรรคแก้รัฐธรรมนูญ ยุบศาลรัฐธรรมนูญ – ยุบ ส.ว. – ยกเลิกแผนยุทธศาสตร์ชาติ – จัดประชามติยกเลิก รธน. 60 แล้วทำใหม่ทั้งฉบับ

ทั้งนี้ยังได้โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์อีกว่า เห็นการประชุมรัฐสภาวันนี้แล้ว เรามารณรงค์เข้าชื่อเสนอร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม 1.ยุบวุฒิสภา ใช้สภาเดียว 2. ปฏิรูปศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระ 3.ยกเลิกแผนยุทธศาสตร์ชาติ ทั้งหมดนี้เพื่อ “จัดการเครื่องกีดขวางการแก้รัฐธรรมนูญ จัดการนั่งร้านระบอบสืบทอดอำนาจคณะรัฐประหาร”

ล่าสุดทางด้าน ดร.ศุภณัฐ อภิญญาณ หรือ ดร.นิว นักวิจัยภายใต้สถาบันวิจัย MAST Center และ คณะวิศวกรรมชีวการแพทย์ University of Arkansas ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้โพส์ข้อความกรณีนายปิยบุตร เคลื่อนไหว หลังรัฐสภามีมติคว่ำร่างแก้รัฐธรรมนูญ วาระ 3 โดยระบุข้อความว่า

ปิยบุตรเสนอ “ความรุนแรง” หวังเลียนแบบสงครามกลางเมืองฝรั่งเศส?
ความเคลื่อนไหวล่าสุดหลังวาระ3 ปิยบุตรเสนอ “สงครามกลางเมืองในฝรั่งเศส” ครั้งการปฏิวัติคอมมูนปารีส เผยเหตุผลว่าทำไมที่ผ่านมาปิยบุตรถึงชี้นำการรื้อถอนสถาบันการเมืองเดิมทิ้ง มุ่งหวังที่จะสร้างสถานการณ์เลียนแบบ
เป็นอย่างที่คาดไว้มาโดยตลอดว่าปิยบุตร แสงกนกกุล น่าจะเป็นแกนนำตัวจริงที่อยู่เบื้องหลังม็อบ ยุยงปลุกปั่นอยู่หลังม่านโซเชียลมีเดียอย่างอำมหิต เพราะปิยบุตรจมปลักดักดานอยู่กับคอมมูนปารีสและความรุนแรงในประวัติศาสตร์ฝรั่งเศสอย่างโงหัวไม่ขึ้น เป็นที่มาของ RT ค้อนเคี้ยวคอมมิวนิสต์ ตลอดจน REDEM ประชาชนนารวม ที่กำลังเคลื่อนไหวไปสู่ความรุนแรงมากยิ่งขึ้นในปัจจุบัน
กิโยตินแห่งความป่าเถื่อนของ REDEM กับการเสนอสงครามกลางเมืองของปิยบุตรในระยะเวลาอันใกล้เคียงกัน คงไม่ใช่เรื่องบังเอิญ ประชาชนชาวไทยจะอดทนกับปิยบุตรที่คอยยุยงปลุกปั่นสร้างความรุนแรงได้อีกนานแค่ไหน?
#ปิยบุตรนารวม #ปิยบุตรคอมมูนปารีส
ซึ่งก่อนหน้านี้ ย้อนไปเมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2564 ดร.ศุภณัฐ ก็เคยได้โพสต์ข้อความในทำนองเดียวกันนี้มาแล้ว โดยระบุข้อความว่า
ปิยบุตรกำลังยกระดับความขัดแย้งทางรัฐธรรมนูญไปสู่สงครามกลางเมืองใช่หรือไม่?
ดูเหมือนว่า นายปิยบุตร แสงกนกกุล จะมีแผนจุดประเด็นสร้างความแตกแยก ยกระดับความขัดแย้งทางรัฐธรรมนูญไปสู่สงครามกลางเมือง หวังหลอกใช้มวลชนเป็นเครื่องมือล้มล้างศัตรูทางลัทธิความเชื่อของเขา โดยการอ้างวาทกรรมอำนาจปฐมสถาปนารัฐธรรมนูญ เพื่อยกเลิกรัฐธรรมนูญ 2560 แล้วจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่อย่างไร้ข้อจำกัด ซึ่งอาจเป็นภัยต่อระบอบการปกครองและรูปแบบของรัฐในปัจจุบัน
ทั้งหมดแสดงให้เห็นว่านายปิยบุตรมีความเห็นผิดอย่างร้ายแรง ไม่ได้เข้าใจปัญหาของชาติ ว่าปัญหาที่แท้จริงของชาติ คือ ปัญหาการสร้างประชาธิปไตย ไม่ใช่ปัญหาการสร้างรัฐธรรมนูญ ตราบใดที่ยังสร้างประชาธิปไตยไม่แล้วเสร็จ รัฐธรรมนูญที่เกิดขึ้นก็จะนำมาซึ่งปัญหาความขัดแย้งและความแตกแยกแบบไม่รู้จบ แต่นายปิยบุตรก็ยังดันทุรังที่จะนำความขัดแย้งทางรัฐธรรมนูญกลับมาเป็นวิกฤตปัญหาครั้งใหม่ของชาติ ทั้งๆที่ความขัดแย้งทางรัฐธรรมนูญมีแต่จะนำไปสู่ความแตกแยกและความรุนแรง ซึ่งอาจยกระดับไปสู่สงครามกลางเมืองได้ในที่สุด
ตลอดระยะเวลาเกือบ 90 ปี ประเทศไทยถูกครอบงำโดยลัทธิรัฐธรรมนูญของคณะราษฎร ที่หลอกลวงประชาชนให้หลงผิดว่า รัฐธรรมนูญเป็นตัวประชาธิปไตย โดยที่คณะราษฎรไม่ได้สร้างประชาธิปไตยและทำอำนาจอธิปไตยให้เป็นของปวงชน ด้วยเหตุนี้ประเทศไทยจึงเต็มไปด้วย นักสร้างรัฐธรรมนูญ นักแก้รัฐธรรมนูญ และนักฉีกรัฐธรรมนูญ แต่ขาดแคลนนักสร้างประชาธิปไตย แล้วแบบนี้จะมีประโยชน์อะไร? หากเรามีรัฐธรรมนูญแต่ไม่เคยมีประชาธิปไตย ตลอดจนไม่เคยมีรัฐธรรมนูญประชาธิปไตยที่เป็นผลผลิตของการสร้างประชาธิปไตยอย่างถูกต้อง ซึ่งยืนยันอำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชนอย่างแท้จริง ไม่ใช่แค่เพียงในกระดาษ
โดยทั่วไปการสร้างรัฐธรรมนูญที่เป็นประชาธิปไตยเป็นผลสำเร็จของการสร้างประชาธิปไตย รัฐธรรมนูญประชาธิปไตยจึงเกิดขึ้นจากความสำเร็จของการสถาปนาระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตย เพื่อกำกับและรักษาไว้ซึ่งระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตยที่เกิดขึ้น อย่างไรก็ดีการสร้างรัฐธรรมนูญจำเป็นต้องเป็นไปตามหลักวิชา สอดคล้องกับอัตลักษณ์ของชาติและโครงสร้างของรัฐตามรูปแบบของระบอบการปกครอง ไม่ใช่อยู่ๆจะอ้างวาทกรรมอำนาจปฐมสถาปนารัฐธรรมนูญขึ้นมาล้มล้าง แล้วเขียนขึ้นมาใหม่ตามใจชอบแบบมั่วๆอย่างไร้ข้อจำกัด
แทนที่จะเสนอการสร้างประชาธิปไตยอย่างสันติตามความต้องการอันแท้จริงของประชาชน แล้วจึงสร้างรัฐธรรมนูญที่เป็นประชาธิปไตยขึ้นมา โดยการฟื้นฟูประชาธิปไตยตามแนวทางที่ถูกต้องของสถาบันพระมหากษัตริย์ ทำอำนาจอธิปไตยให้เป็นของปวงชนอย่างแท้จริงตามเจตนารมณ์ของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว เพื่อนำไปสู่สันติภาพและประโยชน์สุขของปวงชน แต่นายปิยบุตรกลับถือลัทธิรัฐธรรมนูญที่เป็นเผด็จการตัวจริงเสียงจริง กอดแนวทางผิดของคณะราษฎรไว้อย่างเหนียวแน่น แล้วเสนอการสร้างรัฐธรรมนูญผ่านวาทกรรมอำนาจปฐมสถาปนารัฐธรรมนูญอย่างไร้ข้อจำกัด อันจะนำมาซึ่งความขัดแย้งและความแตกแยกครั้งใหญ่ นำไปสู่ความรุนแรงและสงครามกลางเมือง
นายปิยบุตรจะสำเร็จความใคร่ทางวิชาการหลอกลวงประชาชนต่อไปอีกนานแค่ไหน? ไม่อายตัวเองบ้างหรืออย่างไร?
พร้อมที่จะตอบคำถามของประชาชนแล้วหรือยังว่า THE KING CAN DO NOTHING เอามาจากไหน หรือ สำเร็จความใคร่ทางวิชาการขึ้นมาเอง?
อย่างไรก็ตาม หลายคนได้ตั้งข้อสังเกตว่า กระบวนการความคิดของนายปิยบุตร ที่ต้องการที่สร้างความรุนแรงเลียนแบบฝรั่งเศสนั้น มีมานานแล้ว โดยมีความมุ่งหวังที่จะสร้างสถานการณ์เลียนแบบ ทำให้เกิดความรุนแรงและสร้างความแตกแยกขึ้นในประเทศใช่หรือไม่ แต่สิ่งหนึ่งที่คนไทยเรียกร้องมาตลอด ก็คือ ให้ปิยบุตรออกมานำม็อบเอง ทำไมถึงไม่ทำ?