สหรัฐ 10 วันอันตราย?!? มาร์ค ซักเคอร์เบิร์กใหญ่กว่าประธานาธิบดี สยบทรัมป์ยอมแพ้ คาดประกาศกม.อำนาจพิเศษปธน.สู้

2298

สื่อไฮเทคทั้งเฟซบุ๊ก,ทวิตเตอร์ระงับการใช้งานบัญชีของทรัมป์ ซึ่งมีผู้ติดตามมากกว่า 88 ล้านคน เพื่อปิดกั้นการแสดงความเห็นของเขาอย่างถาวร อ้างยุยงใช้ความรุนแรงหลังเกิดจลาจลบุกรัฐสภา ก็เปรียบเหมือนการถูกคุมขังไว้ในโลกเสมือนที่ติดต่อใครไม่ได้ ขณะเดียวกันการเร่งถอดถอนทรัมป์จากตำแหน่งอย่างรีบร้อนไม่ว่าจะอ้างว่าอะไร ก็เหมือนกับทำการรัฐประหารบังคับผู้นำให้ลงจากตำแหน่งก่อนวาระ  เหตุการณ์ครั้งนี้สะท้อนว่า เครื่องมือสื่อสารไฮเทคมีอำนาจกำหนดชัยชนะ เหนือประมุขของประเทศสหรัฐอเมริกา หันมามองรัฐบาลไทยขออย่าประมาท การคุกคามแพร่พิษร้ายล่มชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์จะใช้ช่องทางสื่อสารเหล่านี้อย่างหนัก ท่ามกลางความยากลำบากโควิด-19 ระบาดใหม่ อย่างแน่นอน

ในวันพุธที่ 6 ม.ค.เกิดจลาจล บุกรัฐสภาสหรัฐอเมริกา คำพูดของโจ ไบเดนชี้ว่ากลุ่มผู้สนับสนุนทรัมป์บุกรัฐสภาคือผู้ก่อการร้ายและ ต้องใช้กฎหมายจัดการทรัมป์

“พวกเขาไม่ได้เป็นกลุ่มชุมนุม อย่าได้เรียกพวกเขาว่าผู้ชุมนุม พวกเขาคือม็อบหัวรุนแรง กบฎและ ผู้ก่อการร้าย”“They weren’t protesters. Don’t dare call them protesters. They were a riotous mob, insurrectionists, domestic terrorists,” Biden said.

“ตลอด 4 ปีที่ผ่านมาเรามีประธานาธิปดีที่ดูหมิ่นประชาธิปไตย สถาบันของเรา ต้องใช้กฎหมายจัดการทุกอย่างที่เขาได้ทำมา” “For four years we have had a president who has made his contempt for our democracy, our constitution, the rule of law clear in everything he has done.”

นางแนนซี่ เปโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎร แห่งพรรคเดโมแครตประสานรับทันที “ประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกา ปลุกระดมใช้กำลังอาวุธต่อต้านอเมริกา” “The president of the United States incited an armed insurrection against America,” Pelosi added. 

หมายความว่า ทรัมป์คือผู้นำก่อการร้าย แต่ไม่มีภาพการจับกุมหรือทหารอุ้มทรัมป์ออกจากทำเนียบขาว อย่างที่ไบเดนเคยขู่เอาไว้ก่อนหน้านี้ แต่เป็นทรัมป์ถูกปิดการสื่อสารทุกช่องทางโดยเจ้าของยักษ์เทคอย่าง มาร์ค ซักเคอร์เบิร์กที่เป็นผู้สยบทรัมป์และทำให้ต้องประกาศยอมรับ ว่าจะมีการโอนถ่ายอำนาจในวันที่ 20 ม.ค.อย่างเรียบร้อย แต่ต่อมายืนยันไม่เข้าร่วมพิธีสาบานตนของไบเดน เรื่องราวคงไม่น่าจบราบรื่น ภาพของสหรัฐวันนี้คือ กำลังทหาร 6,200 นายตรึงกำลังรอบสถานที่รัฐสภาท่ามกลางประกาศเคอร์ฟิว 30 วัน นี่หรือประเทศประชาธิปไตย

บิคเทคใหญ่กว่าประธานาธิบดีโยนทรัมป์เข้าคุ๊กโซเชียลมีเดีย

แม้ทรัมป์ยังไม่โดนจับกุมคุมขัง แต่เฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ อิงค์ ปิดปากทรัมป์และพวก ไปเรียบร้อยแล้ว โดยระงับการใช้งานบัญชีผู้ใช้ของเขาเป็นการถาวร  รวมทั้งคนใกล้ชิด และอีกหลายบัญชีที่เป็นผู้สนับสนุนทรัมป์ อ้างว่ามีความเสี่ยงที่จะยุยงปลุกปั่นให้เกิดความรุนแรงอีก หลังจากเกิดเหตุบุกรุกเข้าไปในอาคารรัฐสภาเมื่อวันพุธที่ 6 ม.ค. ตามเวลาสหรัฐฯ ต่อมา กูเกิลแบน พาเลอร์ (Parler แอปจากGoogle Play Store) เพื่อปิดทางไม่ให้ฝ่ายสนับสนุนทรัมป์มีช่องทางสื่อสาร แอปเปิ้ลกำลังพิจารณาแบนParlerแอปเหมือนกัน

การถอดถอนประธานาธิบดีออกจากอำนาจก่อนเวลา จะเรียกอะไรได้ ถ้าไม่ใช่การ””รัฐประหาร” โดยคณะบุคคลที่ไม่เอาทรัมป์ ทุกคนบนโลกใบนี้ รู้ทุกอย่างตามที่ เฟสบุ๊ก ทวิตเตอร์ กูเกิลต้องการให้รู้ ไม่เว้นสื่อมวลชนหลักที่อยู่ภายใต้การกำกับของ ผู้มีอำนาจที่แท้จริงเบื้องหลังการเมืองสหรัฐ ทั้งทรัมป์และคณะผู้อยู่เบื้องหลังทรัมป์ และไบเดนและคณะผู้อยู่เบื้องหลัง ได้ฉีกหน้ากากของ “เสรีภาพประชาธิปไตย”จอมปลอม ที่เขาพร่ำโฆษณาชวนเชื่อมาหลายสิบปีว่า เป็นระบบที่ดีที่สุดในโลก ว่าไม่เป็นความจริง

10วันอันตราย จัดการทรัมป์ด้วยกฎหมายไม่ง่ายต้องใช้เวลา

-แนนซี่ เปโลซีประธานสภาผู้แทนราษฏรเรียกร้องปลดปธน.ทรัมป์ ด้วยบทบัญญัติแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ 25 หรือ The 25th Amendment เปิดทางให้โอนอำนาจให้รองประธานาธิบดี ไม่ว่าจะเป็นการชั่วคราวหรือตลอดไป ทั้งนี้มาตราที่ 4 อนุญาตให้รองประธานาธิบดี และสมาชิกส่วนใหญ่ในรัฐบาล ประกาศว่าประธานาธิบดีทรัมป์ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ต่อไปได้ โดยจะต้องลงนามในจดหมายส่งถึงประธานสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา ระบุว่าประธานาธิบดีไม่สามารถปกครองหรือไม่สามารถ “ปฏิบัติอำนาจหน้าที่ในตำแหน่งได้” เมื่อถึงจุดนี้ นายไมค์ เพนซ์ ก็จะขึ้นดำรงตำแหน่งโดยอัตโนมัติ

 

แต่ทรัมป์สามารถที่จะตอบเป็นลายลักษณ์อักษรและหากเขามีความเห็นแย้ง ก็จะเป็นหน้าที่ของสภาคองเกรสที่จะตัดสินใจ แต่การจะปลดประธานาธิบดีจากอำนาจจะต้องอาศัยเสียงส่วนมาก 2 ใน 3 ทั้งจากวุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎร เรื่องนี้ไมค์ เพนซ์รองปธน.ไม่ตอบสนองแม้ว่าสตีเวน มนูชิน รมว.คลังและไมค์ ปอมเปโอรมว.ต่างประเทศสนับสนุน เรื่องนี้จึงตกไป

สส.-สว.เดโมแครตระดมยื่นถอดถอน-อิมพีชเม้นท์

นางแคทเธอรีน คล้าก สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากรัฐแมสซาชูเซตส์ แกนนำพรรคเดโมแครต กล่าวว่า สภาผู้แทนราษฎรจะดำเนินกระบวนการถอดถอนปธน. ทรัมป์ในวันจันทร์ที่ 11 ม.ค.2564 

นางอิลฮาน โอมาร์ วุฒิสมาชิกหญิงรัฐมินเนโซตาจากพรรคเดโมแครต ออกมาประกาศว่าเธอกำลังร่างคำร้องเพื่อยื่นเรื่องถอดถอนนายทรัมป์ในฝั่งจองวุฒิสภา ซึ่งวุฒิสมาชิกจากพรรคเดโมแครตหลายคนก็สนับสนุน 

จับตา ไม้ตายของทรัมป์ “การประกาศใช้กฎหมายพิเศษ -Insurrection Act” อาจเป็นแรงกดดันให้ไบเดน-เปโลซี และเดโมแครตต้องเร่งนำทรัมป์เข้าคุกจริงให้เร็วที่สุด อะไรก็อาจเกิดขึ้นได้ที่สหรัฐอเมริกา ณ เวลานี้ ที่สำคัญการโอนถ่ายอำนาจคุมกองกำลังทหาร หน่วยความมั่นคง และกองกำลังพิทักษณ์มาตุภูมิยังไม่เรียบร้อย