จากกรณีที่กลายเป็นประเด็นร้อนชั่วข้ามคืน หลังจากที่ “พิมรี่พาย” หรือ พิมรดาภรณ์ เบญจวัฒนะพัชร์ แม่ค้าออนไลน์ฝีปากกล้า และยังเป็นยูทูปเปอร์ชื่อดัง โดยเจ้าตัวมีชื่อเสียงมาจากการขายสินค้าออนไลน์ และยังนำเงินไปช่วยเหลือคนยากอยู่บ่อยครั้ง จนได้รับคำชื่นชมอย่างล้นหลามในโลกโซเชียล
และเมื่อวันที่ 9 ม.ค. 2564 ชื่อของพิมรี่พาย ติดเทรนด์ทวิตเตอร์อันดับ 1 ในประเทศไทย หลังจากที่เจ้าตัว ได้เดินทางไปหมู่บ้านแม่เกิบ อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่ และตัดสินใจควักเงินจำนวนส่วนตัว จำนวน 5 แสนกว่าบาท ไปติดตั้งไฟฟ้าโซลาเซลล์และมอบทีวีให้เด็ก ๆ
โดยพิมรี่พาย ยังบอกอีกว่า ต่อไปนี้ให้เปิดทีวีดูได้ตลอด ในนี้มีอาชีพมากมาย เพื่อที่เด็ก ๆ จะได้มีความฝันในการประกอบอาชีพต่าง ๆ ในอนาคต
ขณะที่ในเวลาต่อมา ได้มีบางคนนำประเด็นนี้ มาใช้หมิ่นพระเกียรติของในหลวงรัชกาลที่ 9 เริ่มต้นด้วยมีการแชร์ข้อความจากผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ที่โพสต์ข้อความว่า “พิมรี่พายขึ้นดอยครั้งเดียวเด็กมีไฟฟ้าใช้ แต่…ขึ้นดอยมา 70 ปี …// ไม่พูดดีกว่า” ต่อมาเมื่อมีตรวจสอบ พบว่าเป็นบัณฑิตจากมหาวิทยาลัยเอกชนชื่อดังแห่งหนึ่ง
ส่วนทางด้าน ปู จิตรกร คอลัมนิสต์ชื่อได้ ได้โพสต์เฟซบุ๊กถึงเรื่องนี้ ระบุว่า “ประเด็นคือ พิมรี่พาย สื่อสารขั้นต้นด้วยข้อมูลที่คลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง สร้างซีนดราม่าตามถนัดแบบซุป’ตาร์ออนไลน์ แล้วมันไปกระทบกับคนอื่นหรือหน่วยงานที่เขาดูแลอยู่ในพื้นที่ค่ะ ทำให้ข้อเท็จจริงมันบิดเบือนไปไม่น้อย เรื่องการให้และการช่วยนั้น ไม่ใช่ปัญหา ประเด็นอยู่ตรงนี้ ไม่งงนะคะคุณๆ ความดียังคงเป็นความดี แต่การพูดที่เกินหรือไม่ครบตามข้อเท็จจริง มันสร้างผลกระทบกับคนอื่นเขา จึงถูกท้วงติงตรงนี้ #เห็ดนางฟ้าทำให้ขอนไม้ผุ ส่วนพวกที่เอาเรื่องนี้มาแซะสถาบันนั้น เป็นสันดานเหี้xๆ ของมัน ไม่เกี่ยวกับพิมรี่พาย จบค่ะ ”
ทำให้ทางด้าน พิมรี่พาย ได้ออกเคลื่อนไหวผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว แล้วโพสต์ข้อความเพื่อขอจบดราม่าทั้งหมดแบบสั้น ๆ บอกว่า คนทำบุญ ไม่มีใครคิดไม่ดีหรอก น้องเจ้าของโพสต์ และพิมต่างมีเจตนาที่จะทำบุญด้วยใจ ทำบุญแล้วรับบุญกันทั่วหน้า กล่าวสาธุพร้อมกันแล้วแยกย้าย สุขสันต์วันเด็ก ”
และล่าสุด พิมรี่พาย ได้ไลฟ์สดชี้แจงถึงประเด็นดราม่าที่เกิดขึ้นอีกครั้ง โดยสรุปใจความได้ดังนี้
เริ่มแรกมีคนเข้ามาคอมเมนต์ในไลน์ แล้วบอกว่า “สงสารพี่พิม” ซึ่งเธอบอกว่าไม่ต้องมาสงสาร ตนไม่ใช่คนน่าสงสาร ชีวิตดีขนาดนี้ สวยขนาดนี้ เสื้อผ้าอาภรณ์เยอะขนาดนี้ ลูกเต้าบริวารอยู่สบายขนาดนี้ สงสารผิดคนแล้ว
และเธอเองได้ขอบคุณทุกคนที่ให้ความสนใจ พร้อมบอกว่า ไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องราวใหญ่โตขนาดนี้ และหลังจากปล่อยคลิปตัวเธอเองก็ตกตะกอนความคิดพอสมควร ทั้งจากคนที่มีทั้งคนชื่นชอบเธอและจากคนที่เห็นต่าง
พิมรี่พายเล่าว่า อาชีพของเธอเป็นอาชีพที่ต้องสร้างภาพให้ลูกค้าเห็น แต่จะเลือกสร้างแบบเหี้X หรือสร้างแบบดี ซึ่งเธอเลือกที่จะสร้างคอนเทนต์แบบคืนสู่สังคม
ด้วยชีวิตปูมหลังที่เติบโตมาในสังคมพ่อค้าแม่ค้า เพราะพ่อแม่ขายข้าวแกง เคยไม่มีเงินไปโรงเรียน ต้องเอาข้าวแกงไปขายครู ถึงจะได้เงินกินขนม เธอจึงโตมากับความคิดที่ว่า ‘จะเอาของไป ก็เอาตังค์มา’และเริ่มขายของออนไลน์เมื่อ 2-3 ปีที่แล้ว เมื่อได้เงิน 1 ล้านบาทแรก เธอเอาเงินจำนวนนี้ไปวางที่เท้าพ่อและบอกพ่อว่าเรามีเงินล้านแล้ว พ่อลูบหัวและส่งเงินคืนให้ บอกว่าเงินของลูก ให้ลูกเอาไปใช้
เมื่อมีเงินก็เริ่มใช้ชีวิตเปลี่ยนไป ทั้งเรื่องความเป็นอยู่และการกิน เมื่อก่อนเคยกินได้ไม่เกินวันละ 60 บาท พอมีเงินเลยสั่งกับข้าวเต็มโต๊ะ เช็คบิลทีละหมื่นครึ่งหมื่น แต่กินไม่เคยหมด นั่นเป็นจุดที่ทำให้คิดได้ว่า เรามีเงิน 60 บาท หรือมีเงินล้าน เราก็กินได้แค่อิ่ม ส่วนพ่อแม่ ลูกเต้า บริวาร เราก็จุนเจือหมดแล้ว จึงอยากเอาเงินที่เหลือไปตอบแทนสังคม เลยเลิกทำคอนเทนต์บ้า ๆ บอ ๆ หันมาทำคอนเทนต์ความดีแทน
ในชีวิตของพิม คือจะยึดหลักกตัญญูต่อพ่อแม่และผู้มีพระคุณ คอนเทนต์จึงยึดหลักกตัญญูต่อแผ่นดินบ้านเกิดเมืองนอน การที่ผู้หญิงคนหนึ่งมองโลกใหม่ ไม่ด่ากราด ไม่ทำคอนเทนต์บ้า ๆ บอ ๆ ตนผิดอะไร ถ้าจะผิดก็ผิดที่ไม่ได้ประสานเจ้าหน้าที่ที่ดูแลพื้นที่ก่อน
ส่วนคนที่เห็นต่าง อยากให้ลองมองถึงเจตนาของตน แค่อยากทำความดี แค่อยากตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน มั่นใจว่าไม่ได้มีเจตนาอะไรที่ไม่ดี พร้อมฝากไปถึงคนที่รักพิมรี่พายว่า “ไม่ต้องกลัว ไม่ต้องสงสาร ไม่ต้องให้กำลังใจ ไม่ต้อง saveพิมรี่พาย มั่นใจว่าทำความดี ไม่ได้ทำอะไรผิด เจตนาดี
ส่วนเด็ก ๆ ที่มีเธอเป็นแบบอย่าง พิมรี่พายบอกว่า “ไม่หวั่นไหวกับการทำความดี จะทำต่อ พี่พิมสนับสนุนให้พวกน้อง ๆ ทำความดี อย่ากลัวว่าทำความดีแล้วโดนด่า อย่าท้อในการทำความดี พี่พิมเองก็จะทำความดีต่อไป ไม่มีทางหวั่นไหวแน่นอน” และพิมรี่พายยังบอกย้ำด้วยว่าไม่มีผู้ใหญ่ที่ไหนมารังแกเธอทั้งนั้น
สำหรับคนที่บอกว่าเสนอหน้าเอาของไปให้เขา เขาชอบหรือเปล่าก็ไม่รู้ พิมรี่พายบอกว่า “เสือXอีสัx เขาไม่เอาเขาทิ้งเอง เขาไม่เอาเขาก็โยนทิ้ง”
นอกจากนี้ยังบอกทิ้งท้ายอีกว่า ดราม่าอะไรกัน เอาไปโยงทำไม เอาไปเป็นเครื่องมือความสนุกให้คนทะเลาะกันทำไม เอาไปโยง here อะไรนักหนา แล้วอย่างนี้คนที่ทำความดีเขาจะทำต่อได้มั้ย เงินก็หาเอง แจกเอง ไม่ต้องสอน
ก่อนจะมีคอมเมนต์เข้ามาว่าเธอตั้งใจบิดเบือนสังคมให้เข้าใจผิด พิมรี่พาย ได้ชี้แจงว่า ให้กลับไปดูคลิปใหม่ เธอไม่ได้เป็นคนพูด เรื่องราวถูกเล่าโดยภาพและคนในพื้นที่ และก่อนที่จะเริ่มขายของ พิมรี่พายยืนยันว่าเธอจะทำอาชีพตัวเองต่อ และจะเดินหน้าทำความดีต่อ คอนเทนต์ความดีที่เตรียมไว้ยังมีอีกเยอะเป็นหน้ากระดาษ
“ทำบุญแผ่นดินเกิดมีข้อครหา ปักธงทำบุญโปรตุเกส ตุรกีไปเลย” นี่คือคำพูดที่เจ้าตัวได้กล่าวทิ้งท้ายปิดไลฟ์ชี้แจงดราม่าร้อนเอาไว้
