อิหร่านขู่เพิ่มสมรรถนะยูเรเนียม?!? ตอบโต้มหาอำนาจตะวันตกคว่ำบาตรไม่เลิก ขณะอิสราเอลเสริมกองเรือติดขีปนาวุธ

1919

สถานการณ์ขัดแย้งในตะวันออกกลาง อิสราเอล-สหรัฐ-อิหร่าน เพิ่มความตึงเครียดยิ่งขึ้น เมื่อรัฐสภาอิหร่านผ่านความเห็นชอบเสริมสมรรถนะยูเรเนียมเพิ่มเป็น ร้อยละ 20 ขณะที่กองทัพอิสราเอลทำพิธีต้อนรับเรือติดตั้งขีปนาวุธ คอร์เวตต์ ซาร์-6 ลำแรกที่ซื้อจากเยอรมนีและจะรับมอบอีก 15 ลำต้นปี 2564 นอกจากนี้ไมค์ ปอมเปโอ รมว.กระทรวงการต่างประเทศ ยังเดินสายควงเนทันยาฮแห่งอิสราเอลเยือนซาอุดิอารเบียอย่างลับๆแบบรู้กันทั้งโลก ปฏิบัติการยั่วยุอิหร่านครั้งนี้อาจสำเร็จเพราะอิหร่านสุดจะทน จับตาใครจะกดปุ่มสงครามเชิงพื้นที่

ความแค้นที่ตอกย้ำซ้ำซ้อน

ปี พ.ศ.2553-2555 นักวิทยาศาสตร์ชั้นนำของอิหร่านถูกฆ่า ไป 4 ราย หลังจากนั้นก็ถูกทยอยฆ่าไปเรื่อยๆ ทุกครั้งที่นักวิทยาศาสตร์ของตัวเองโดนฆ่า อิหร่านก็จะชี้ไปที่เจ้าประจำ ‘มอสสาด’ และ ‘ซีไอเอ’

ต้นปี 2563 สหรัฐส่งโดรนสังหารนายพลสุไลมานี ผู้นำทหารกองกำลังปฏิวัติอิสลามและล่าสุด

ลอบสังหารนายมอห์เซน ฟาครีซาเดห์ นักวิทยาศาสตร์นิวเคลียร์คนสำคัญของอิหร่าน ใกล้กรุงเตหะราน เมื่อวันที่ 27 พ.ย.ที่ผ่านมา ครั้งนี้ทางการอิหร่านพุ่งเป้าไปที่อิสราเอล ศัตรูคู่อาฆาต ว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังปฏิบัติการลอบสังหาร พร้อมประกาศจะตอบโต้อย่างสาสม                             

อยาตอลลาห์ อาลี คาเมนี ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน ให้คำมั่นว่า การลอบสังหารนาย ฟาครีซาเดห์ จะได้รับการตอบโต้อย่างสาสม และโครงการด้านนิวเคลียร์ของฟาครีซาเดห์ จะได้รับการสานต่อ  เช่นเดียวกับ ประธานาธิบดีฮัสซัน โรฮานี ของอิหร่าน ออกแถลงการณ์ที่กล่าวหาว่า อิสราเอลได้ทำตัวเป็นทหารรับจ้างของสหรัฐฯ ด้วยการลอบสังหารนายฟาครีซาเดห์ พร้อมยืนยันว่า การเสียชีวิตของนายฟาครีซาเดห์ จะได้รับการแก้แค้นในเวลาที่เหมาะสม สำหรับนายฟาครีซาเดย์ นั้นถูกสำนักงานข่าวกรองของชาติตะวันตก อิสราเอล และ  ชาวอิหร่านพลัดถิ่น ระบุว่า เป็นผู้ริเริ่มโครงการอาวุธนิวเคลียร์ของอิหร่าน จนถูกเรียกขานว่าเป็น “บิดาแห่งนิเคลียร์อิหร่าน”

นายจอห์น เบรนแนน อดีตผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองกลางสหรัฐฯ ให้ความเห็นว่าการสังหารนักวิทยาศาสตร์นิวเคลียร์คนสำคัญของอิหร่าน คือ พฤติการณ์แบบอาชญากร อีกทั้งยังเสี่ยงที่จะถูกตอบโต้รุนแรง และเกิดความขัดแย้งระดับภูมิภาครอบใหม่

อิหร่านขู่เสริมนุกเพิ่มถ้าตะวันตกไม่เลิกคว่ำบาตรเศรษฐกิจ

วันที่ 3 ธ.ค. บีบีซีรายงานกระแสวิตกกังวลสถานการณ์ในอิหร่าน หลังสภาผู้พิทักษ์อิหร่านลงมติเห็นชอบให้ผ่านร่างกฎหมายฉบับใหม่ มีสาระสำคัญว่าด้วยการกดดันให้ชาติยุโรปพี 5 + 1 ที่ร่วมลงนามในความตกลงนิวเคลียร์เมื่อปี 2558 เร่งผ่อนคลายมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจต่ออิหร่านภายในเวลา 2 เดือน ไม่เช่นนั้นรัฐบาลอิหร่านจำเป็นต้องยกระดับเสริมสมรรถนะยูเรเนียมเพิ่มเป็น ร้อยละ 20 สูงกว่าข้อห้ามที่ร้อยละ 3.67

สำนักข่าวฟาร์สระบุว่า “วันนี้ประธานสภาได้เรียกร้องอย่างเป็นทางการในจดหมายถึงประธานาธิบดีเพื่อให้บังคับใช้กฎหมายฉบับใหม่” ภายหลังประธานาธิบดีฮัสซัน เราฮานี กล่าวว่าไม่เห็นด้วยเพราะจะสร้างความเสียหายให้ทางการทูต ความเคลื่อนไหวนี้เกิดขึ้นหลังเหตุลอบสังหารนายมอห์เซน ฟาครีซาเดห์ หัวหน้านักวิทยาศาสตร์นิวเคลียร์ เมื่อ 27 พ.ย. ซึ่งเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐ อเมริการะบุว่า ทางการอิสราเอลอยู่เบื้องหลัง ขณะที่อิสราเอลปฏิเสธ นอกจากนี้ยังมีกรณีส่อเพิ่มความตึงเครียด หลังกองทัพอิสราเอลทำพิธีต้อนรับเรือติดตั้งขีปนาวุธ คอร์เวตต์ ซาร์-6 ลำแรกที่ซื้อจากเยอรมนี

นายมาจิด ทักฮ์ต์ ราวานชี เอกอัครราชทูตอิหร่านประจำสหประชาติ ได้ส่งจดหมายถึงนายอันโตนิโอ กูเตร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ ว่า มาตรการเสี่ยงอันตรายต่างๆ โดยสหรัฐฯ และอิสราเอลต่อประเทศอิหร่าน โดยเฉพาะอย่างย่ิงในช่วงเวลาที่รัฐบาลสหรัฐฯ ชุดปัจจุบันยังคงบริหารประเทศก่อนจะหมดวาระนั้น สาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่านมีสิทธิ์ที่จะใช้มาตรการที่จำเป็นทุกอย่างในการปกป้องประชาชนและผลประโยชน์ของเรา

สหรัฐ-อิสราเอล เคลื่อนไหวรับกันเป็นปี่-ขลุ่ย

-เกิดเหตุนายฟาคริซาเดห์โดนลอบสังหาร  รัฐบาลอิสราเอลก็ยกระดับมาตรการการรักษาความปลอดภัยในสถานเอกอัครราชทูตอิสราเอลทั่วโลกจากระดับธรรมดาเป็นระดับสูง และสั่งเตรียมพร้อมทางทหารขั้นสูงที่ชายแดนเวสต์แบงก์

-ขณะที่สหรัฐฯส่งเรือบรรทุกเครื่องบิน ‘ยูเอสเอส นิมิตซ์’ ไปอ่าวเปอร์เซีย คุ้มกันถอนทหารอเมริกัน 2,500 นาย ออกจากอิรักและอัฟกานิสถาน กำหนดเส้นตายในวันที่ 15 มกราคม 2564 หลังนักวิทย์ระดับสูงอิหร่านถูกลอบสังหารโหด

-ในทางการทูต สื่อในตะวันออกกลาง ‘Middle East Eye’ เผยว่ารัฐบาลอิสราเอลได้กำลังผลักดันให้รัฐบาลทรัมป์จัดการต่อโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน ด้วยการโจมตีถล่มเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ที่สำคัญของอิหราน ทว่าเจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน มกุฎราชกุมารแห่งซาอุดีอาระเบียซึ่งได้ทรงพบปะหารืออย่างลับๆ กับนายกรัฐมนตรี เบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล และนายไมค์ ปอมเปโอ รมว.ต่างประเทศสหรัฐฯเมื่อวันอาทิตย์ที่ 22 พ.ย.นั้น ทรงไม่เห็นด้วยที่จะใช้แผนนี้ต่ออิหร่าน

-กองทัพเรืออิสราเอลทำพิธีต้อนรับเรือติดตั้งขีปนาวุธ คอร์เวตต์ ซาร์-6 ลำแรกที่ซื้อจากเยอรมนี และคาดจะรับเพิ่มอีก 15 ลำในช่วงต้นปี 2564k ผู้บัญชากองทัพเรืออิสราเอลกล่าวว่า เป็นการตอบโต้ที่รัสเซียส่งเรือติดขีปนาวุธ “ยัคฮอนท์” ให้อิหร่าน และอิหร่านสร้างจรวดคาลิจ ฟาร์ซึ่งอิสราเอลเชื่อว่า ส่งไปหนุนกองกำลังฮิสบุลเลาห์ที่ต่อต้านอิสราเอลอยู่ย่านฉนวนกาซ่า