จากที่ ดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการต่างประเทศ กล่าวถึงการหารือสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครน ท่าทีและเป้าหมายของไทยคือ อยากจะเห็นปัญหายุติ และเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นช่วงปลายเดือนนี้นั้น
ทั้งนี้นายดอน ย้ำว่า ถ้าจะให้ยุติผู้ที่เกี่ยวข้องโดยตรงจะต้องเจรจา ซึ่งมีการเจรจากันอยู่ ขณะเดียวกัน มีหลายประเทศและหลายฝ่ายที่มีความเห็นตรงกันว่าอยากช่วยให้เรื่องนี้ยุติโดยเร็ว เพราะถ้ายืดเยื้อไปจะกระทบกันหมด กระทบตั้งแต่เรื่องเงินเฟ้อ ของแพง ทุกๆอย่างที่มันโยงกันไปหมด ฉะนั้น อะไรที่เราทำได้ อะไรที่จะช่วยลดผลกระทบของประเทศไทยเราจะทำเป็นอันดับแรก
“ขณะนี้ดูวันต่อวัน เพราะเหตุการณ์เพิ่งเกิดมา 10 กว่าวัน และมีผลกระทบสูง แต่ผลกระทบที่สูงกว่านั้นคือ สถานการณ์บานปลาย ไม่มีใครต้องการเห็นสิ่งเหล่านี้ ไม่ว่าประเทศไหนก็ตาม ยกเว้นอาจจะมีบางกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากเรื่องเหล่านี้”
เมื่อถามถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้รับเชิญจากสหรัฐอเมริกาให้ไปประชุมสุดยอดพิเศษของสหรัฐอเมริกา และผู้นำเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) ในวันที่ 28-29 มีนาคม ที่กรุงวอชิงตัน จะไม่มีผลกระทบต่อความสัมพันธ์ของไทยกับรัสเซียใช่หรือไม่
โดย นายดอน กล่าวว่า ไม่ เพราะเรื่องนี้เกิดขึ้นก่อนที่จะมีปัญหาเหมือนในปัจจุบัน เราคุยกันในหลักการแล้วว่าจะมีการพูดคุยกันระหว่างผู้นำสหรัฐฯกับผู้นำในประเทศอาเซียน และพล.อ.ประยุทธ์ ได้ตอบรับไปเข้าร่วมการประชุมตั้งแต่ต้นแล้ว ไม่มีอะไร เราต้องช่วยกันทำให้ประชาชนใช้ชีวิตอยู่ได้แม้ได้รับผลกระทบทั้งจากเรื่องสินค้าและเรื่องต่างๆ มากมายจากความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครน
อย่างไรก็ตามเมื่อถามถึงการดูแลคนรัสเซียและยูเครนในประเทศ นายดอน กล่าวว่า ต้องช่วยกันดูแล เพราะคนทั้งสองประเทศได้รับความเดือดร้อน ไม่ใช่เฉพาะฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง เมื่อมีปัญหาเราต้องดูแล ส่วนจะดูแลอย่างไรนั้น ต้องดูในความจำเป็นที่เขาต้องการ อย่างเช่น คนรัสเซียจะมีปัญหาเรื่องเครดิตการ์ดใช้ไม่ได้ เพราะถูกอายัด ต้องดูว่าจะต้องทำอย่างไร ต้องดูแลในส่วนนี้ เพราะคนไม่มีเงินจะมีปัญหาเรื่องที่พักและอาหาร ต้องมาแยกแยะกันอีกว่ากลุ่มไหนเป็นกลุ่มไหน
ล่าสุดวันนี้ 09 มีนาคม 2565 นายไพศาล พืชมงคล อดีตกรรมการผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรี (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ) ได้แชร์แบนเนอร์ข่าวดังกล่าว พร้อมโพสต์ข้อความด้วยว่า
“ด่วนมาก!!!! รัฐมนตรีต่างประเทศแถลงว่าพลเอกประยุทธ์ จะไปประชุมที่สหรัฐปลายเดือนนี้ ซึ่งสหรัฐนัดประเทศอาเซียนไปประชุมเกี่ยวกับยุทธศาสตร์อินโดแปซิฟิก
พลเอกประยุทธ์ ได้ลงนามเข้าร่วมพันธมิตรกับสหรัฐ ในยุทธศาสตร์อินโดแปซิฟิกเมื่อปี 2562 ซึ่งสหรัฐได้ประกาศยุทธศาสตร์นี้เพื่อการต่อต้านจีน # ยูเครน2 # ชักศึกเข้าบ้าน”
ต่อมาเมื่อข้อความของนายไพศาล เผยแพร่ออกไปสู่โลกโซเชียลฯ ก็ทำให้มีคนเข้ามาร่วมแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก ซึ่งมีความคิดเห็นทั้งเห็นด้วยและคัดค้านการไปเยือนสหรัฐของนายกรัฐมนตรี เช่น
“ขี้ข้าเมกา ชักศึกเข้าบ้าน”
“คุณนกเขา จัดชุมนุมประท้วงการเดินทางไปร่วมประชุมฯของลุงตู่ เพื่อให้มีข้ออ้างงดการเดินทางเข้าร่วมประชุมครับ”
“ไปได้ครับเขาเชิญมาถือว่าให้เกียรติ เมกาเคยช่วยเราไม่ต้องเสียค่าปฏิกรรมสงครามหลังWW2 มิตรภาพยังจำเป็น แต่กับจีนเราถือเป็นเหมือนญาติที่ดีทิ้งกันไม่ลงหรอก”
“หางโผล่พวกขายชาติ”
“อ่านดีดีค่ะอย่าใจเร็วด่วนเชื่อ”
“ไม่กระทบความสัมพันธ์รัสเซียแน่นอนอยู่แล้วเพราะเรื่องนี้ต่อต้านจีน มันจะหนักกว่าอีก”
“สถานการณ์แบบนี้ หากผู้นำประเทศไปจะถือว่าเลือกข้างชัดเจน ผลกระทบจะตามมาแน่นอนไม่มากก็น้อย ควรหลีกเลี่ยง หากขัดไม่ได้ควรให้ผู้อื่นไปแทนจะเหมาะกว่านะครับ”
“ให้นางเหยียบเรือสองแคมไปเถอะคะ”
“ไปประชุมกับมันทำไม, ไปฟังคำมันหรือ, อยู่อย่างนี้เราปลอดภัย”
“คิดดีๆนะ, ไอ้ไบกลิ้งกลอกจะตายไป”
