มีแผน? ส.ว.แฉซ้ำ “ปิยบุตร” ตั้งใจ ไม่ให้ร่าง รธน.ผ่าน เพื่อปลุกไฟม็อบ เดินเกมข้างถนน!?

1762

สืบเนื่องจากกรณีที่รัฐสภา มีการประชุมร่วมรัฐสภา ครั้งที่ 2 สมัยสามัญประจำปีครั้งที่สอง เพื่อพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ….ฉบับภาคประชาชน ที่มีนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ทำหน้าที่ประธานการประชุม

โดยเมื่อเวลา 23.20 น. วันที่ 16 พ.ย. 64 นายเสรี สุวรรณภานนท์ ส.ว. ได้อภิปรายว่า ไม่ขัดข้อง หากประชาชนจะเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญมา หากเสนอมาโดยสุจริต ไม่มีอะไรแอบแฝง เราพร้อมพิจารณา แต่ผู้ที่เสนอมา การเสนอที่มีเนื้อหาสาระในประเด็นต่างๆ ที่เกิดขึ้นนั้น กระทบกับองค์กรต่างๆ กล่าวหาใช้ถ้อยคำรุนแรง ทำให้เห็นเสนอข้อมูล เนื้อหารัฐธรรมนูญเหล่านี้กระทบกระแทกคนไปทั่ว แสดงให้เห็นว่า ต้องการสร้างความขัดแย้ง สร้างสถานการณ์ให้ไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ เพราะจะมีผลทางการเมืองมาก จะได้ประโยชน์หลายอย่าง อย่างน้อยที่สุด ถ้อยคำเป็นภาษาทางกฎหมาย ตนเองก็เป็นนักกฎหมาย นักกฎหมายที่ไหนอ่านก็รู้เท่าทัน

เจตนาที่เสนอ ประสงค์อะไร หมายความว่าอย่างไร คือ ประสงค์ไม่ให้สภารับร่างรัฐธรรมนูญ โดยผลอย่างน้อยที่สุด ก็สร้างความชอบธรรมให้ตัวเอง ประชาชนจะรู้สึกไม่ดีกับสภา ส.ว.มีส่วนได้เสีย หวงอำนาจ ไม่ต้องการออกจากตำแหน่ง ไม่ต้องการเปลี่ยนแปลง กำลังสร้างแพะรับบาปในสิ่งที่ประสงค์จะให้เกิดขึ้น ผลที่ตามมา หากเป็นบุคคลอื่นเสนอมา จะไม่คิดอะไรเลย แต่ท่านที่เสนอร่างนี้มาเคยเจ็บช้ำน้ำใจ ถูกศาลรัฐธรรมนูญตัดสินยุบพรรคการเมือง ตัดสิทธิ์ทางการเมือง และมีกลุ่มลูกศิษย์ที่ให้ข้อมูลผิด ๆ จนถูกคดีความ

“ท่านกำลังสร้างบรรยากาศด้อยค่าของศาลรัฐธรรมนูญ ศาลปกครอง ศาลยุติธรรม ศาลทั้งหลาย ที่กำลังพิจารณา พรรคหนึ่งกำลังถูกพิจารณา สร้างความขัดแย้งให้เกิดขึ้นเสียก่อน หากศาลตัดสินยุบพรรค ตัดสิทธิ์จริง ท่านก็มีเหตุที่จะปรับปรุง เพราะเห็นว่าศาลตัดสินไม่ถูกต้อง เป็นการดิ้นเฮือกสุดท้าย ที่พูดไม่ได้จินตนาการ ที่สภาพูดเรื่องนี้ ก็เห็นอยู่ โอกาสที่จะผ่านมันยาก กล่าวหา ส.ว.ซีกรัฐบาลหลายเรื่อง ทุกคนก็ร่วมพิจารณาว่าจะให้ผ่านวาระ 1 หรือไม่ แต่ท่านสร้างสถานการณ์ ให้เกิดการปะทะ แล้วจะไม่ได้มีเจตนาให้รัฐธรรมนูญตกได้อย่างไร เป็นการสร้างสถานการณ์จากพรรคซีกหนึ่งสร้างมา เข้ามาหาโอกาส วิพากษ์วิจารณ์ พูดกระแทกแดกดัน พูดถึงนายกฯ รัฐบาล คสช.ลดความน่าเชื่อถือให้ประชาชนได้ยินได้ฟัง เรากำลังพิจารณาว่าจะรับวาระ 1 หรือไม่ สิ่งเหล่านี้เป็นการสร้างสถานการณ์ขึ้นมา เพื่อให้สภาฯ ไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ”

ขณะที่นายประเสริฐพงษ์ ศรนุวัตร์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ลุกขึ้นประท้วงว่า สิ่งที่ผู้อภิปรายนั้น เป็นการใส่ร้าย ขอให้เตือน ส.ว.ท่านนี้ด้วย นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ทำหน้าที่ควบคุมการประชุม กล่าวว่า เมื่อพูดถึงองค์กรภายนอก ก็ได้ใช้ถ้อยคำรุนแรง โดยที่องค์กรเหล่านั้น ไม่ได้มาชี้แจง

ต่อมานายเสรี สุวรรณภานนท์ ส.ว. ได้ชี้แจงต่ออีกว่า “ร่างรัฐธรรมนูญที่เสนอ มีปัญหาโดยเนื้อหาตัวร่าง หากไม่ผ่านสภา ไม่ใช่ความผิดสภา ส.ว.แต่ที่ไม่ผ่านเพราะเนื้อหาของท่านมีเจตนาจะไม่ให้ผ่าน และเนื้อหาที่เสนอมานั้น เป็นการแทรกแซงศาล องค์กรอิสระ ลดกระบวนการ ขั้นตอนการตรวจสอบในระบบรัฐสภา ร่างรัฐธรรมนูญที่เสนอมานั้น เป็นร่างที่ใช้โอกาส หาพื้นที่ในสภา ที่โกรธ เคียดแค้น แสดงออก เพื่อหวังเรียกมวลชน หากรัฐธรรมนูญจะตกไม่ผ่าน ไม่ใช่คนอื่น เป็นสิ่งที่ท่านเขียนทั้งสิ้น อย่ามาโทษกัน เป็นสิ่งที่ท่านสร้างมาทั้งนั้น ร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้มีปัญหา ไม่หวังจะให้นำกลับไปแก้ ไปดูหน้าสุดท้าย ก่อนจะจบ ก็ไปวนเวียนจะไปแก้ไขหมวด 2 พระมหากษัตริย์ แล้วจะให้เราไว้วางใจได้อย่างไร เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในอนาคต เราไม่ได้อคติ ไม่ชอบ ไม่มีความรู้สึกเกรงกลัว ถ้าผ่านไปแล้ว ส.ว.จะพ้นหน้าที่ ไม่เคยคิด ไม่เคยมี ร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ไม่ผ่านเพราะเนื้อหาของท่านเองที่เสนอมา และมีเจตนาแต่แรกไม่ให้ผ่าน เอาผลพวงไม่ผ่าน ไปต่อยอดสร้างมวลชนนอกสภา ขอให้เห็นแก่เด็กนอกสภา อย่าไปใช้เขาเป็นเครื่องมือเลย”

และในเวลา 00.10 น.นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า ได้ชี้แจงว่า ได้ฟังผู้อภิปราย นึกว่าเป็นการอภิปรายไม่ไว้วางใจผู้เสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ นายเสรีที่อภิปรายกล่าวหา ใช้ถ้อยคำรุนแรง ก็เทียบไม่ได้ถ้อยคำปรารภในรัฐธรรมนูญ 2560 กระบวนการยื่นแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่ริเริ่ม ได้ชื่อ ก็ทำตามช่องทางรัฐธรรมนูญทั้งหมด

นอกจากนี้ในเฟซบุ๊กของ นายปิยบุตร แสงกนกกุล ยังได้โพสต์ข้อความทำนองว่า รู้ดีว่าร่างรธน. จะไม่ผ่านแน่นอน โดยระบุว่า “การเข้าชื่อโดยประชาชนเสนอร่างกฎหมาย เป็นเพียงเศษเสี้ยวเดียวที่ให้ปวงชนชาวไทยซึ่งรัฐธรรมนูญเป็นผู้ทรงอำนาจสูงสุดและเป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตย ได้แสดงออกซึ่งการใช้อำนาจได้บ้าง นอกจากการรอเลือกตั้งใหม่อย่างเดียว

ในเมื่อสิ่งนี้มันเป็นเศษเสี้ยวที่ประชาชนได้ใช้ ประชาชนก็ขอใช้บ้าง แม้พี่น้องหลายท่านจะรู้ว่าอนาคตของร่างฯ นี้อาจจะไม่ผ่าน แต่ก็พยายาม ความพยายามแบบนี้หรือคือการล้มล้างการปกครอง?

ทุกคนมีแต่เพียงอยากทำให้ประเทศไทยดีขึ้น อยากจะทำให้คนไทยอยู่ร่วมกันได้ในความคิดเห็นที่แตกต่าง

ผมขอความสนับสนุนจากเพื่อนสมาชิกทั้งสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาทุกท่าน มาร่วมกันลงมติรับหลักการในวาระที่หนึ่ง มาร่วมกันเปิดประตูแห่งความหวัง เปิดประตูแห่งการปฏิรูป เปิดประตูแห่งการสร้างพื้นที่ปลอดภัยตามระบบเพื่อแก้ไขปัญหา ร่วมกันเปิดประตูแห่งการแสวงหาฉันทามติ”