ท่ามกลางความไม่แน่นอนของการระบาดโควิด-19 ว่าจะสิ้นสุดลงเมื่อไร แต่เมื่อมีวีคซีนแล้วทั่วโลก บรรยากาศทางเศรษฐกิจจึงเริ่มขยับและฟื้นตัว เป็นโอกาสดีที่รัฐบาลไทยได้ตกลงขยายความร่วมมือกับรัสเซีย ซึ่งเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจขนาดใหญ่ เป็นตลาดแลกเปลี่ยนสินค้า ความรู้ บริการที่สำคัญต่อภูมิภาคแห่งนี้ ตลอดจนเป็นโอกาสพัฒนาแลกเปลี่ยนเทคโนโลยีก้าวล้ำหน้า และนวัตกรรมใหม่ๆ ที่นอกเหนือไปจากมหาอำนาจฝั่งตะวันตกอื่นๆ เป็นการสร้างดุลยภาพแห่งการเติบโตที่ถูกต้อง
นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2564 ว่า ครม. เห็นชอบบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการขยายความร่วมมือทางการค้าและเศรษฐกิจระหว่างกระทรวงพาณิชย์ของราชอาณาจักรไทย และกระทรวงการพัฒนาเศรษฐกิจของสหพันธรัฐรัสเซีย ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ ซึ่งบันทึกความเข้าใจฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อยกระดับและกระชับความสัมพันธ์ รวมถึงขยายความร่วมมือด้านเศรษฐกิจที่จะเป็นประโยชน์ระหว่างไทยและรัสเซีย โดยดำเนินการเพื่อบรรลุความเข้าใจร่วมกัน ดังนี้
1.พัฒนามาตรการที่มีประสิทธิภาพเพื่อเพิ่มกิจกรรมทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศ เช่น เพิ่มความหลากหลายและส่งเสริมการค้าสินค้าที่ใช้เทคโนโลยีสูงและสินค้านวัตกรรม สินค้าที่มีมูลค่าเพิ่มสูง สินค้าเกษตรและสินค้าเกษตรแปรรูป รวมถึงช่วยเหลือภาคธุรกิจในการแสวงหาสินค้าเฉพาะกลุ่มและตลาดใหม่
2.ติดตามการเปลี่ยนแปลงของการค้าระหว่างสองประเทศ เพื่อเตรียมคำแนะนำในการกำจัดอุปสรรคทางการค้า รวมถึงการพัฒนาข้อเสนอที่สำคัญในการยกระดับความสัมพันธ์การค้าและเศรษฐกิจ
3.สร้างสภาพแวดล้อมทางการแข่งขันที่เท่าเทียมระหว่างผู้ส่งออกและผู้นำเข้าของทั้งสองฝ่าย รวมถึงการอำนวยความสะดวกของสินค้าและบริการในการเข้าถึงของตลาดทั้งสองฝ่ายอย่างไม่เลือกปฏิบัติ
4.เพิ่มเติมมาตรการเพื่อสร้างความตระหนักรู้ของภาคเอกชนเกี่ยวกับโอกาสความร่วมมือที่เป็นประโยชน์ร่วมกันและอำนวยความสะดวกในการแลกเปลี่ยนข้อมูลสำคัญด้านต่างๆ อาทิ
1)กฎหมายเกี่ยวกับการกำกับดูแลกิจกรรมทางเศรษฐกิจต่างประเทศ 2)มาตรการสนับสนุนสำหรับบริษัทส่งออกที่สนใจจดทะเบียนในประเทศทั้งสองฝ่าย 3)วิธีการสนับสนุนรวมถึงกลไกในการส่งเสริมผลิตภัณฑ์ของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมในตลาด 4)ข้อมูลเศรษฐกิจพิเศษ ศูนย์นวัตกรรม วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี และพื้นที่การรวมกลุ่มอุตสาหกรรมที่ดำเนินการในประเทศ 5)ความเป็นไปได้ในการจัดกิจกรรมของภาคธุรกิจ เช่น การศึกษาดูงาน ประชุมสัมมนา จับคู่ธุรกิจ การนำเสนอสินค้า เพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์และเผยแพร่แนวปฏิบัติต่อกัน 6)โอกาสความร่วมมือในด้านต่างๆ เช่น ด้านนวัตกรรม ปัญญาประดิษฐ์ และเศรษฐกิจดิจิทัล ด้านความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างภูมิภาค รวมถึงระหว่างอาเซียนและสหภาพเศรษฐกิจยูเรเซีย และด้านอื่นๆ ที่อยู่ในความสนใจร่วมกัน
มากไปกว่านั้น ในการประชุมคณะอนุกรรมการด้านการค้าและความร่วมมือทางเศรษฐกิจไทย-รัสเซีย ที่ผ่านมา ทั้งสองฝ่ายได้เห็นชอบตั้งเป้าหมายเพิ่มมูลค่าการค้าเป็น 1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในปี 2566 และมีการหารือถึงการส่งเสริมความร่วมมือรายสาขาที่แต่ละประเทศมีศักยภาพ อาทิ
1)การเกษตร ไทยเสนอให้รัสเซียพิจารณานำเข้าสินค้าเกษตรและยางพาราของไทย
2)อุตสาหกรรม สนับสนุนให้มีการจัดประชุมคณะทำงานร่วมด้านการพัฒนาอุตสาหกรรมระหว่างไทย-รัสเซีย
3)เทคโนโลยี รัสเซียสนใจจะร่วมมือในสาขาเทคโนโลยีขั้นสูง กับกระทรวงการอุดมศึกษาของไทย ในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ความร่วมมือทางวิชาการ เช่น Quantum Engineering, Terahertz, Exoskeleton, DNA and Data Storage, Artificial Photosynthesis และ Nano Robotic
4)ความร่วมมือระหว่างภาคธุรกิจ ส่งเสริมกิจกรรมภาคธุรกิจผ่านแฟลตฟอร์มออนไลน์มากขึ้นเช่นจับคู่ธุรกิจออนไลน์และ Visual Trade Fair
5) ความร่วมมือระดับพหุภาคีและภูมิภาค ไทยขอให้รัสเซียสนับสนุนการเจรจา FTA ระหว่างไทย-สหภาพเศรษฐกิจยูเรเซีย
6)การเงินการธนาคาร รัสเซียขอให้ไทยสนับการใช้บัตรเครดิต MIR CARD เพื่ออำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวรัสเซีย
7)การท่องเที่ยว เร่งฟื้นฟูการท่องเที่ยวหลังสถานการณ์โควิด-19