ไม่เดินตามสายจูงสหรัฐ! “แบรนด์ดัง” เมินกระแสกดดัน ประกาศไม่ปิดร้านในรัสเซีย เพราะทุกคนยังต้องใช้เสื้อผ้า!?

1611

จากรณีที่นายดิมิโทร คูเลบา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศยูเครน กล่าวระหว่างการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ เมื่อวันจันทร์ (7 มี.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น ระบุว่า “เราต้องการมานานแล้วให้มีการสนทนากันโดยตรงระหว่างประธานาธิบดียูเครนกับวลาดิมีร์ ปูติน เพราะเราทั้งหมดเข้าใจว่า เขาคือคนตัดสินใจขั้นสุดท้ายโดยเฉพาะตอนนี้”

อีกทั้งรมว.ต่างประเทศยูเครนย้ำ “ประธานาธิบดีของเราไม่กลัวอะไรทั้งนั้น รวมถึงการประชุมโดยตรงกับปูติน ถ้าปูตินไม่กลัวเหมือนกัน ก็ให้เขามาประชุม ให้พวกเขานั่งลงแล้วคุยกัน”

 

 

ขณะที่ทางด้านนายกรัฐมนตรีโอลาฟ ชอลซ์ แห่งเยอรมนีกล่าว ในการประชุมคณะรัฐมนตรีด้านความมั่นคงของรัฐบาลกลางของเยอรมนีถึงเรื่อง ความคิดที่จะให้ระงับการนำเข้าพลังงานจากรัสเซียว่า ต้องตัดสินใจอย่างมีสติ การทำเช่นนี้อาจทำให้ความมั่นคงด้านพลังงานของยุโรปตกอยู่ในความเสี่ยง ยุโรปจำเป็นต้องนำเข้าน้ำมันและก๊าซของรัสเซียต่อไป ในขณะนี้ พลังงานของยุโรปสำหรับการผลิตความร้อน แหล่งจ่ายไฟ ไม่สามารถใช้วิธีอื่นได้นอกจากการนำเข้าจากรัสเซีย เยอรมนีพึ่งพาปริมาณก๊าซทั้งหมดจากรัสเซียประมาณ 55 เปอร์เซ็นต์

ส่วนทางฝั่งสหภาพยุโรปนำเข้าผลิตภัณฑ์พลังงานจากรัสเซียหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการนำเข้าก๊าซ 41 เปอร์เซ็นต์, ถ่านหิน 46 เปอร์เซ็นต์, น้ำมัน 27 เปอร์เซ็นต์ ดังนั้น สหภาพยุโรปจึงไม่ควรที่จะคว่ำบาตรด้านพลังงานกับรัสเซียเพื่อตอบโต้ความขัดแย้งในยูเครน และรัฐบาลเยอรมนีกำลังทำงานอย่างหนักร่วมกับพันธมิตร มาเป็นเวลาหลายเดือนแล้ว เพื่อพัฒนาพลังงานทางเลือกแทนพลังงานของรัสเซีย แต่สิ่งนี้ไม่สามารถทำได้ในชั่วข้ามคืน นั่นคือเหตุผลที่เราต้องตัดสินใจอย่างมีสติในการดำเนินการด้านการจัดหาพลังงานกับรัสเซียต่อไป

 

ล่าสุดมีรายงานระบุด้วยว่า จากวิกฤตความสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน ทำให้หลายบริษัททั่วโลกออกมาแสดงจุดยืนและกดดันรัสเซีย ด้วยการประกาศงดให้บริการ ยุติการลงทุน ไปจนถึงถอนตัวออกจากรัสเซีย แต่ บริษัทฟาสต์รีเทลลิง แบรนด์ค้าปลีกที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย และเป็นบริษัทแม่ของ Uniqlo แบรนด์เสื้อผ้าสัญชาติญี่ปุ่น ที่มีหลายสาขากระจายอยู่ทั่วโลกรวมถึงประเทศไทย กลับไม่ได้ทำแบบแบรนด์อื่น เพราะได้ประกาศว่าจะยังคงดำเนินการในรัสเซียต่อไป ซึ่งมีอยู่ทั้งหมด 49 สาขา

โดยสำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า นายทาดาชิ ยาไน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท ฟาสต์รีเทลลิง ระบุในแถลงการณ์ว่า “สงครามไม่ควรเกิดขึ้น ทุกประเทศควรต้องต่อต้านสงคราม ณ เวลานี้ ทั้งทวีปยุโรปต่อต้านสงครามอย่างชัดเจน และแสดงให้เห็นถึงการสนับสนุนยูเครน ในทางกลับกัน ความพยายามที่จะแบ่งแยกโลกออกจากกัน จะยิ่งทำให้เกิดความสามัคคีมากขึ้น เสื้อผ้าเป็นสิ่งที่จำเป็นต่อชีวิต ชาวรัสเซียมีสิทธิที่จะมีชีวิตอยู่เช่นเดียวกับเราทุกคน

ในขณะที่โฆษกของบริษัทฟาสต์รีเทลลิงระบุว่า “บริษัทจะจับตาดูสถานการณ์ต่อไป แต่ยังไม่มีแผนที่จะระงับการให้บริการของเราในขณะนี้”

 

ก่อนหน้านี้บริษัทอินดิเท็กซ์ บริษัทแม่ของซาร่าระบุว่า จะปิดร้านที่มีอยู่หลายร้อยสาขาในรัสเซีย ซึ่งรวมถึงเว็บไซต์ขายสินค้าของบริษัทด้วย ส่วนแบรนด์เอชแอนด์เอ็มประกาศว่าจะระงับการให้บริการในรัสเซียชั่วคราว พร้อมทั้งแสดงความห่วงกังวลต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น นอกจากซาร่าและ H&M แล้ว ลักชัวรี่แบรนด์ต่าง ๆ อย่าง Hermès, Chanel, Louis Vuitton, Gucci, Givenchy, Balenciaga หรือ Saint Laurent ก็ได้ออกมาประกาศปิดร้านและกิจกรรมทางการตลาดชั่วคราวในประเทศรัสเซีย เนื่องจากสถานการณ์ความคัดแย้งที่มีความรุนแรงระว่างรัสเซียและยูเครน