แกะรอยลต.ซ่อม “พปชร.” แพ้หลุดลุ่ย เหตุไม่ชู “พล.อ.ประยุทธ์”! อุ้มธรรมนัส-ขายประวิตร?
จากกรณีที่จังหวัดชุมพร ได้รายงานว่าภายหลังผลคะแนนการเลือกตั้งซ่อมเขต 1 ชุมพร อย่างไม่เป็นทางการ ทำให้สังคมจับตาการเมืองนับจากนี้ โดยในการเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ปรากฎว่า นายอิสระพงศ์ มากอำไพ หรือ “เลขาตาร์ท” ผู้สมัครหมายเลข 1 จากพรรคประชาธิปัตย์ ได้รับเลือกตั้ง เฉือนเอาชนะ คู่แข่งจากพรรคพลังประชารัฐ นายชวลิตร อาจหาญ หรือ“ทนายแดง” เกือบ 2 หมื่นคะแนน
ทั้งนี้โดยหมายเลข 1 นายอิสระพงษ์ สังกัดพรรคประชาธิปัตย์ ได้คะแนน 49,014 คะแนน ผู้สมัครหมายเลข 2 ร.ต.ท.สมชาย แพ่งยงยุทธ สังกัดพรรคไทยศรีวิไลย์ ได้คะแนน 507 คะแนน ผู้สมัครหมายเลข 3 นายวรพล อนันตศักดิ์ สังกัดพรรคก้าวไกล ได้คะแนน 3,582 คะแนน ผู้สมัครหมายเลข 4 นายชวลิต อาจหาญ สังกัดพรรคพลังประชารัฐ ได้คะแนน 32,281 คะแนน ผู้สมัครหมายเลข 5 พ.ต.อ.ทศพล โชติคุตร์ สังกัดพรรคกล้า ได้คะแนน 7,492 คะแนน
อย่างไรก็ตาม ทีมข่าวเดอะทรูธ ได้นำผลเลือกตั้งซ่อมล่าสุดนี้ ไปเทียบกับผลการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขต 1 จังหวัดชุมพร เมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2562 ก็จะพบว่ามีความน่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง เมื่อคะแนนเสียงของพรรคประชาธิปัตย์และพลังประชารัฐเพิ่มขึ้น
พรรคประชาธิปัตย์ นายชุมพล จุลใส ได้ 42,683 คะแนน , พรรคพลังประชารัฐ นายชวลิต อาจหาญ ได้ 32,219 คะแนน และพรรคอนาคตใหม่ นายชาญวิทย์ ใจสว่าง ได้ 10,347 คะแนน
ในขณะผลคะแนนเลือกตั้งซ่อมเขต 6 จังหวัดสงขลาอีกด้วย ซึ่งผลปรากฏว่า ผลการนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการของสงขลา เขต 6 หมายเลข 1 น.ส.สุภาพร กำเนิดผล พรรคประชาธิปัตย์ ชนะ ได้ถึง 45,576 คะแนน หมายเลข 2 นายธิวัชร์ ดำแก้ว พรรคก้าวไกล ได้ 5,427 คะแนน หมายเลข 3 นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ พรรคพลังประชารัฐ ได้ 40,531 คะแนน หมายเลข 4 นายพงษธร สุวรรณรักษา พรรคกล้า ได้ 1,350 คะแนน หมายเลข 5 นางภัทรวี ศรีศักดา พรรคพลังสังคม ได้ 123 คะแนน
ซึ่งก็มีข้อสังเกตที่น่าสนใจว่า นอกจากสถานการณ์ภายในพรรคพลังประชารัฐ ที่ผ่านมานั้น แทบจะตัดขาดจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม อย่างสิ้นเชิง ซึ่งในการลงพื้นที่หาเสียงและบนเวที
ปราศรัย แกนนำของ “พลังประชารัฐ” อย่าง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรค ซึ่งก่อนหน้านี้ ได้มีกระแสว่า มีความขัดแย้งกับพลเอกประยุทธ์ ก็ได้มีการชู พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค ในการลงพื้นที่หาเสียงครั้งนี้ ซึ่งหลายคนอาจจะเคยสังเกตเห็นว่า ในการเลือกตั้งซ่อมทั้ง 2 เขต พรรคพลังประชารัฐ ขึ้น Backdrop หลังเวที มีแต่รูปพลเอกประวิตร ไม่มีรูปพลเอกประยุทธ์
ในทางกลับกัน ส.ส.ภาคใต้ของพรรคบางคน รู้ดีว่า กระแสของ “ประยุทธ์” ยังขายได้ และยังมีประชาชนยังสนับสนุนเป็นจำนวนมาก ซึ่งเมื่อวันที่ 14 มกราคม ในโค้งสุดท้ายของการเลือกตั้ง ในจังหวัดชุมพร ก็ยังมีการยกเครดิตให้กับ พลเอกประยุทธ์ โดยบอกว่า เวลานี้ไม่มีใครเป็นนายกฯ ได้ดีกว่า ลุงตู่ หรือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เช่นเดียวกับ “ประชาธิปัตย์” ที่มักจะได้ยินการปราศรัยของแกนนำหลายคน สวมบทโหน “นายกฯลุงตู่” เช่น การปราศรัยเน้นย้ำบทบาทของ นายชุมพล จุลใส ที่สนับสนุน พลเอกประยุทธ์มาตั้งแต่แรก และหาเสียงเชียร์ลุงตู่มันสวนทางกันกับพรรคพลังประชารัฐ
นอกจากนี้ เมื่อวานนี้ (16 มกราคม) พลโท นันทเดช เมฆสวัสดิ์ อดีตหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ ศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ(ศรภ.) โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กถึงกรณีผลการเลือกตั้งทั้ง 2 เขต โดยบอกว่า