ไพศาลเตือนทหาร-ตร.ระวังแก๊งกาเหว่าก่อรุนแรง ขณะอานนท์โพสต์เอง ให้ม็อบตอบโต้ตามสมควร?

2357

สืบเนื่องจากกรณีที่ มีประชาชนชาวเมียนมาที่อาศัยอยู่ในประเทศไทยจำนวนหนึ่ง เดินทางมารวมตัวกันเพื่อแสดงสัญลักษณ์เรียกร้องการก่อรัฐประหารที่เกิดขึ้นในประเทศเมียนมา ที่บริเวณหน้าสถานครราชทูตเมียนมา เขตยานนาวา โดยแนวร่วมกลุ่ม WeVo นำโดยนายปิยรัฐ จงเทพ หรือโตโต้ มาร่วมอ่านแถลงการณ์ต่อต้านการรัฐประหารในพม่า

และวันดังกล่าว บริเวณโดยรอบสถานทูตมีตำรวจ สน.ยานนาวา ร่วมกับตำรวจ บก.น.6 และตำรวจควบคุมฝูงชนกว่า 40 นายวางกำลังโดยรอบ เพื่อดูแลความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกด้านการจราจร พร้อมกับนำแผงเหล็กกั้นโดยรอบสถานทูต ห้ามผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าไปในพื้นที่ และนำรถควบคุมผู้ต้องขังหนึ่งคันมาจอดไว้บริเวณด้านหน้าสถานทูต ส่วนการจราจรนั้นเจ้าหน้าที่ให้ทำการปิดสองช่องทางจากฝั่งทางเท้า บีบเหลือช่องทางการจราจรเพียงสองช่องทางเท่านั้น

หน่วยควบคุมฝูงชนได้เข้าควบคุมพื้นที่บริเวณที่มีการชุมนุมหน้าสถานทูตเมียนมา เบื้องต้นกลุ่ม wevo ได้พยายามตั้งแนวเพื่อตั้งรับเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่เพียง 5 นาทีก็สามารถดันผู้ชุมนุมไปจนถึงบริเวณ BTS ช่องนนทรีได้ ขณะนั้นได้เกิดเสียงคล้ายประทัดยักษ์ และมีกลุ่มควันขึ้นมาจำนวน 2 ครั้ง ส่งผลให้ประชาชนที่มาร่วมชุมนุมกระจายตัวออกไป ขณะที่กลุ่มการ์ดและประชาชนบางส่วนได้ขว้างปาสิ่งของ เช่น รั้ว หลอดไฟ ขวดแก้ว และกรวยจราจร ตอบโต้เจ้าหน้าที่ที่มาควบคุมพื้นที่ ก่อนกลุ่ม wevo ได้ถอยออกมาจนถึงสี่แยกแล้วประกาศสลายตัว

เกี่ยวกับเรื่องนี้ ล่าสุด นายไพศาล พืชมงคล อดีตกรรมการผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรี (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Paisal Puechmongkol ว่า จากกรณี ม็อบชุมนุมประท้วงพม่าเมื่อวานนี้!!! 1. ตอนแรกออกข่าวว่าเป็นชาวพม่าในประเทศไทยจัดชุมนุมประท้วง แต่พอเอาเข้าจริงก็เป็นเรื่องแหกตา เหมือนเดิม เพราะผู้จัดชุมนุมก็คือขบวนการกาเหว่าของเรานี่แหละ ฉวยโอกาสชุมนุมอ้างว่าประท้วงพม่า แต่กลับด่ารัฐบาลไทยเฉยเลย!!!

2. เป็นการชุมนุมประท้วงที่ก่อความรุนแรงเป็นครั้งที่ 2 โดยใช้ระเบิดปิงปองและทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจบาดเจ็บมากถึง 14 คน ดังนั้นจากนี้ไปเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารจะต้องใช้ความระมัดระวังเพิ่มขึ้น อย่าไปดูแคลนว่าที่เขาขู่ว่าจะทำ “สงครามจรยุทธในเมือง” นั้น เป็นการพูดเล่นลอย ๆ เขาทำจริงครับ!!! และนักล่าอาณานิคมหลงยุค เขาก็พยายามผลักดันกันอยู่ จะต้องเตรียมรับมือให้ดี!!!

3. ผู้ที่ดูแลรับผิดชอบงานต่างประเทศ ที่ไม่ได้ขายตัวขายชาติ ควรเปิดการติดต่อยกระดับความร่วมมือ กับพันธมิตรรัสเซียจีนอิหร่าน และกลุ่มองค์การความร่วมมือแห่งเซี่ยงไฮ้ให้พร้อมไว้ เพื่อถ่วงดุลกับพวกที่กำลังสมรู้กับนักล่าอาณานิคมหลงยุค ในการครอบงำแทรกแซงและยึดครองประเทศไทยให้ทันท่วงที

4. ต้องจัดตั้ง “ขบวนการเสรีไทยใหม่” ขึ้น เพื่อพิทักษ์รักษาชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ไว้ให้ดำรงคงอยู่เป็นนิรันดร์

จับตาพวกล่าอาณานิคมหลงยุค!!! เชื่อมโยงการต่อต้านรัฐบาลทั้งไทยและพม่า เข้าเป็นขบวนเดียวกัน!!! ขบวนการกาเหว่า เป็นเจ้ากี้เจ้าการในการต่อต้านการรัฐประหารในพม่า ตามแนวทางที่นักล่าอาณานิคมหลงยุค ขับเคลื่อนอยู่ในขณะนี้!!! การเคลื่อนไหวในพม่ายังขยับไม่ออก ในขณะที่รัฐบาลใหม่พม่าได้จัดประชุมคณะรัฐมนตรีครั้งแรกแล้วเมื่อวานนี้!!! คนชักใยม็อบต่อต้านพม่าและไทยก็คือพวกล่าอาณานิคมหลงยุคชุดเดียวกันนี่เอง!!!

ขณะที่เรื่องนี้เอง ทางด้านนายอานนท์ นำภา ก็ได้มีการโพสต์ข้อความว่า เอาหล่ะ จะขอเล่าข่าวร้ายให้ฟัง ความจริงก็ไม่เชิงเป็นข่าวร้ายเสียทีเดียว แต่เป็นข่าวที่พวกเราราษฎรควรจะต้องรับรู้รับทราบร่วมกัน

เมื่อช่วงปรายเดือนที่ผ่านมา มีตำรวจไปขอออหมายจับคดี 112 แต่ศาลไม่ออกให้เพราะเห็นว่าพวกเรายังคงทำตามเงื่อนไขคือ ได้รับหมายเรียกก็ไปตามหมาย ถ้าไปไม่ได้ก็จะมีหนังสือเลื่อนมอบให้ทนายความนำไปมอบพนักงานสอบสวน แต่มีคนไม่พอใจ เขาอยากให้ศาลขังพวกเราที่ออกมาพูดเรื่องเกี่ยวกับสถาบันกษัตริย์ทั้งหมด ขังเพื่อไม่ให้พวกเราออกมาพูดเรื่องที่ไม่ดีเกี่ยวกับสถาบันกษัตริย์

มิตรสหายท่านหนึ่งเล่าว่า ตอนนี้ศาลถูกกดดันอย่างหนักและอาจจะแบกรับความกดดันนี้ไม่ไหว ล่าสุดญาติของ… และเป็นคนสนิท ได้ออกมาเรียกร้องให้ศาลขังราษฎรด้วยมาตรา 112 แม้จะไม่มีการพิจารณาคดีก็ตาม นั่นคือ ถ้ามีคนไปแจ้งความก็จะไม่ให้ประกัน ขังไปเรื่อย ๆ โดยไปกดดันศาลว่าศาลไม่ควรไปให้สิทธิประกันตัว และยุยงให้คนไปดำเนินคดีกับศาลอีกต่างหาก

เราจะตีความปรากฏการณ์นี้อย่างไร จะให้เราตีความว่านี่คือการส่งข้อความอ้อม ๆ จาก…. ผ่านทางญาติคนนั้นได้หรือไม่ ถ้าใช่ นี่ก็ถือเป็นการใช้อำนาจนอกรัฐธรรมนูญอีกครั้งซึ่งครั้งนี้เป็นการกดดันไปที่ศาลโดยตรง

มิตรสหายเล่าต่อไปอีกว่า หลังจากนี้ ถ้ามีการออกหมายจับราษฎรด้วยมาตรา 112 และไม่ให้ประกันตัว ก็ให้เข้าใจว่า ศาลได้แบกภาวะความกดดันนี้ไม่ไหวแล้ว
เล่ามาถึงจุดนี้ ผมคงไม่โกรธศาล เพราะท่านคงรับภาวะกดดันนี้ไม่ไหวจริง ๆ

จากปรากฏการณ์ทั้งหมดในช่วงนี้ ทั้งการใช้ความรุนแรงจากตำรวจในการจับกุมและการขยายวงการแจ้งข้อหา การเล่นงานคนที่ยืนข้างฝ่ายราษฎรอย่างหนักหน่วง ก็เพราะเขามองว่าฝ่ายราษฎรไม่สามารถแสดงพลังกดดันในช่วงนี้ได้ เขาประเมินแล้วว่า ช่วงนี้พวกเราไม่สามารถชุมนุมกดดันที่มีพลังขนาดใหญ่เหมือนปีที่แล้วได้