หวังช่วยโจร!! “เจี๊ยบ -โรม ก้าวไกล” กดดันศาล จี้ต้องปล่อยผู้ต้องขัง ลดโควิด ความจริงอยากให้แกนนำ 3 กีบได้ออกจากเรือนจำด้วย!?

1575

หลังจากที่ทางด้านนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม (รมว.ยธ.) พร้อมด้วย ว่าที่ ร.ต.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการ รมว.ยธ. นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ร่วมแถลงข่าวกรณีผู้ต้องขังติดเชื้อโควิด-19 ในเรือนจำหลายแห่ง ไปแล้วนั้น

ต่อมาทางด้านร.ต.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม (ยธ.) เปิดเผย ถึงปัญหาสถานการณ์ผู้ต้องขังติดเชื้อโควิด19 ในเรือนจำหลายแห่งว่า ขณะนี้ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้ขออนุมัติงบประมาณจากสำนักงบประมาณจำนวน 411,653,300 บาท เพื่อนำมาจัดซื้อยาฟาวิพิราเวียร์ และยาฟ้าทลายโจร สำหรับบรรเทาเยียวยาควบคุมการแพร่ระบาดและรักษาอาการผู้ต้องขังเบื้องต้น ซึ่งได้จัดแยกเป็นกลุ่มพบเชื้อไม่มีอาการ หรือสีเขียว กลุ่มมีอาการแต่ไม่รุนแรงไม่มีโรคแทรกซ้อน หรือสีเหลือง และกลุ่มอาการรุนแรงต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ สีแดง ซึ่งมีจำนวนไม่มาก และรพ.ของกรมราชทัณฑ์พร้อมรับมือดูแลผู้ต้องขังอย่างเต็มที่

ทั้งนี้ยังมีการเปิดเผยว่า มาตรการที่จะลดการแพร่เชื้อในเรือนจำ ศาลจะพิจารณาลดการคุมขัง ขณะที่ทางด้านนายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เปิดเผยถึง 5 แกนนำที่ยังไม่ได้รับการปล่อยตัวว่า ขณะนี้ที่ศูนย์ทนายกำลังดูเรื่องประกันตัวจะมี นายอานนท์ นำภา, นายภาณุพงศ์ หรือไมค์ จาดนอก, นายชูเกียรติ หรือจัสติน แสงวงค์ และ 2 ผู้ต้องหาคดีทุบรถ ผู้ต้องขังภายหลังศาลมีคำสั่งยกคำร้องขอไต่สวนประกันนายภาณุพงศ์ แกนนำคณะราษฎร

โดยให้เหตุผลว่า ทางเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครได้มีหนังสือขอให้งดเบิกตัวผู้ต้องขังแม้โดยระบบการสื่อสารผ่านทางไกลเพื่อควบคุมการเคลื่อนย้ายผู้ต้องขัง จำกัดการแพร่ระบาดของโรคในพื้นที่เรือนจำและเลื่อนไต่สวนนายชูเกียรติออกไป

ทางทีมทนายก็กำลังพิจารณาว่าจะยื่นคำร้องขอไต่สวนผ่านคอนเฟอเรนซ์ในรายที่สามารถไต่สวนได้ โดยจะพยายามประสานทางเรือนจำ เนื่องจากขณะนี้นายอานนท์และนายนายภาณุพงศ์ ถูกเบิกตัวไปรักษาอาการอยู่ที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ เราก็จะดำเนินการประสานไปทั้งทางโรงพยาบาลและเรือนจำว่าจะขออนุญาตให้ไต่สวนคอนเฟอเรนซ์ที่โรงพยาบาลจะสามารถทำได้หรือไม่

เพราะทั้งทางนายอานนท์ที่อยู่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ และนายชูเกียรติที่อยู่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ล้วนอาการดีขึ้นและกำลังจะหาย สามารถไต่สวนได้ ส่วนนายภาณุพงศ์เพิ่งเข้าไปรักษาตัวแต่ถ้าสถานที่ควบคุมตัวใครมีความสะดวก เราจะขอให้ศาลไต่สวนผ่านคอนเฟอเรนซ์ทันที

ล่าสุดทางด้าน ส.ส.พรรคก้าวไกล ทั้งนางอมรรัตน์ อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล และนายรังสิมันต์ โรม ได้ออกมาโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ถึงแนวทางที่พรรคได้เสนอต่อกระทรวงยุติธรรม ว่าต้องการให้ศาลทำได้จริง ตามที่ปรากฎเป็นข่าว ว่าจะปล่อยตัวผู้ต้องขัง เพื่อลดความแออัดในเรือนจำ โดยนายรังสิมันต์ โรม กล่าวว่า “[ศาลเตรียมพิจารณาปล่อยผู้ถูกขังที่ยังไม่พิพากษา เพื่อลดการระบาดในเรือนจำ… พูดแล้วก็ขอให้ทำจริง]”

ก็ถือเป็นแนวทางที่ดีจากทางศาลยุติธรรม และเมื่อได้พูดออกมาแล้ว ผมก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้เห็นการปฏิบัติจริงเกิดขึ้นในเร็ววัน ไม่ใช่ว่าผัดวันประกันพรุ่งจนกระแสซาลงไป กว่าจะรู้ตัวอีกทีก็ติดโควิดในคุกกันถ้วนหน้าโดยที่ไม่มีใครได้ออกมา

ผมอยากให้ศาลได้ตระหนักว่าทุกวันนี้นอกจากโทษอาญา 5 ประเภทในระบบกฎหมาย คือริบทรัพย์สิน, ปรับ, กักขัง, จำคุก และประหารชีวิต ในทางปฏิบัติเรากำลังมีโทษประเภทใหม่แล้วนั่นคือการปล่อยให้ติดโควิดในเรือนจำ ซึ่งการใช้อำนาจของศาลมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งที่จะชี้ชะตาคนบริสุทธิ์จำนวนมากว่าพวกเขาจะได้รักษาเนื้อรักษาตัวอย่างดีที่สุดในโลกภายนอก หรือต้องทนเสี่ยงชีวิตอยู่ภายในที่คุมขังที่ไม่ได้มาตรฐาน บางทีถ้าบรรดาผู้พิพากษาแต่ละท่านได้ลองแวะเวียนไปรับรู้ไปสัมผัสวิถีชีวิตที่เป็นจริงภายในเรือนจำบ้างสัก 1 – 2 เดือน น่าจะช่วยให้พวกท่านสามารถวินิจฉัยเรื่องต่าง ๆ โดยคำนึงถึงปัจจัยของชีวิตมนุษย์ได้ดียิ่งขึ้น

รวมทั้ง “เจี๊ยบ ก้าวไกล” ที่แสดงความเห็นว่า เป็นแนวทางที่พรรคเคยเสนอไปแล้ว ว่าต้องมีการปล่อยตัวผู้ต้องขัง โดยมีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นว่าควรจะมาตั้งนานแล้ว แต่พบว่า การเรียกร้องให้ศาลปล่อยตัวในครั้งนี้ ทางพรรคก้าวไกลอาจจะไม่ได้มุ่งหวังช่วยผู้ต้องขังทุกคน เพราะมีการกล่าวถึงเฉพาะเหล่าแกนนำม็อบเท่านั้น ที่ระบุว่า หวังว่าเพื่อนเราจะเข้าเกณฑ์ได้รับการปล่อยตัว