UN-ฮิวแมนไรตส์วอตช์ กร้าวประณามเมียนมารัฐประหาร จี้ปล่อยซูจี

1907

จากที่สื่อต่างประเทศหลายสำนักรายงานข่าวว่า ช่วงเช้าตรู่ เมียว ยุนต์ โฆษกพรรคพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย หรือ เอ็นแอลดี (NLD) เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวของรอยเตอร์ทางโทรศัพท์ว่า อองซาน ซูจี ที่ปรึกษาแห่งรัฐ, อู วินมิ่นท์ ประธานาธิบดีเมียนมา และผู้นำคนอื่น ๆ ได้ถูกควบคุมตัวโดยกองทัพเมียนมา

โดยระบุว่า “ผมต้องการจะบอกกับประชาชนของเราว่าอย่าตอบโต้อย่างผลีผลาม และผมต้องการให้พวกเขาทำตามกฎหมาย” เมียว ยุนต์ กล่าวโดยเรียกร้องให้สมาชิกพรรคทำตามกฎหมาย และอย่ากระทำการใด ๆ ที่หุนหันพลันแล่น

การจับกุม อองซาน ซูจี เกิดขึ้นในช่วงที่กำลังเกิดความตึงเครียดระหว่างรัฐบาลพลเรือนกับกองทัพเมียนมา ท่ามกลางกระแสข่าวว่าอาจเกิดการรัฐประหารโดยกองทัพเพื่อล้มรัฐบาล โดยอ้างข้อกล่าวหาว่ามีการทุจริตเลือกตั้งเมื่อเดือนพฤศจิกายน ปี 2563 ซึ่งพรรคของนางซู จี ได้รับชัยชนะถล่มทลาย

พรรคเอ็นเอลดี สามารถคว้าชัยในการเลือกตั้งทั่วไปที่มีขึ้นเมื่อเดือนพฤศจิกายนเป็นสมัยที่สอง และสามารถคว้าที่นั่งในรัฐสภาไปทั้งหมด 396 ที่นั่งจากทั้งหมด 498 ที่นั่ง ทำให้มีสิทธิ์ในการจัดตั้งรัฐบาล ท่ามกลางข้อกังขาว่ามีการทุจริตการเลือกตั้งและมีประชาชนบางส่วนถูกตัดสิทธิ์การลงคะแนนเสียง

ต่อมา สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า สหรัฐอเมริกา ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้กองทัพเมียนมา ปล่อยตัวเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาล ซึ่งรวมไปถึงนางออง ซาน ซูจี ที่ถูกควบคุมตัวไปก่อนหน้านี้ พร้อมทั้งเตือนด้วยว่าจะดำเนินการตอบโต้กับผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง

โดยเจน ซากี โฆษกทำเนียบขาว ระบุว่า “สหรัฐอเมริกาคัดค้านทุกความพยายามที่จะขัดขวางผลการเลือกตั้ง หรือ ขัดขวางกระบวนการเปลี่ยนผ่านสู่ประชาธิปไตย และสหรัฐจะดำเนินการกับผู้ที่อยู่เบื้องหลังการกระทำดังกล่าว”

“เราเรียกร้องให้กองทัพและทุกฝ่ายยึดมั่นในหลักการประชาธิปไตยและหลักนิติธรรม และปล่อยตัวผู้ที่ถูกควบคุมตัวในวันนี้” ซากี ระบุ และว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐได้รับรายงานสถานการณ์ในเมียนมาแล้ว

ด้านเจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่นแถลงว่า รัฐบาลยังไม่มีแผนอพยพพลเมืองออกจากเมียนมา ขณะที่สถานทูตญี่ปุ่นแจ้งเตือนพลเมืองให้เก็บตัวอยู่แต่ในที่พักอาศัย ปัจจุบันมีชาวญี่ปุ่นอาศัยอยู่ในเมียนมาราว 3,500 คน และแม้สถานการณ์ในตอนนี้คาดว่าจะยังไม่มีผลกระทบโดยตรงต่อประชาชนทั่วไป แต่ทางสถานทูตก็ย้ำเตือนให้ชาวญี่ปุ่นใช้ความระมัดระวัง

“เราขอให้ประชาชนเก็บตัวอยู่ในที่พักอาศัย และงดออกไปภายนอกเว้นแต่จะมีธุระจำเป็น” ประกาศจากสถานทูตที่เผยแพร่ผ่านเว็บไซต์กระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่นระบุ

ล่าสุด มีรายงานเพิ่มเติมว่า สหประชาชาติ (ยูเอ็น) ออกแถลงการณ์ ถึงกรณีรัฐประหารในประเทศเมียนมา โดยระบุว่า อันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการองค์การสหประชาชาติหรือ UN ออกแถลงการณ์ประณามการกระทำของกองทัพเมียนมา ที่ก่อการยึดอำนาจ และบุกจับกุมตัวนางออง ซาน ซู จี ที่ปรึกษาแห่งรัฐ พร้อมด้วยประธานาธิบดี อู วิน มยิน และผู้นำทางการเมืองอีกหลายคนช่วงเช้ามืดวันนี้ (1 กุมภาพันธ์) ซึ่งเป็นวันเปิดการประชุมสภาผู้แทนราษฎร

แถลงการณ์ระบุว่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ส่งผลเสียอย่างร้ายแรงต่อการปฏิรูปประชาธิปไตยของเมียนมา โดยผลเลือกตั้งทั่วไปเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ซึ่งพรรคเอ็นแอลดี ของนางซูจี เป็นฝ่ายชนะ ถือเป็นการสะท้อนถึงเจตจำนงค์ของชาวเมียนมา พร้อมเรียกร้องให้กองทัพเมียนมาเคารพเจตจำนงค์ของประชาชนและยึดมั่นในบรรทัดฐานประชาธิปไตย ที่แก้ไขปัญหาต่าง ๆ ผ่านการพูดคุยอย่างสันติ

ทางด้านสมัชชาความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ มีกำหนดการประชุมสถานการณ์ในเมียนมา วันพฤหัสบดี(4 กุมภาพันธ์) นี้  แต่คาดว่ากรณีการยึดอำนาจที่เกิดขึ้น อาจทำให้ต้องเลื่อนจัดการประชุมฉุกเฉินให้เร็วขึ้น

ขณะเดียวกัน นายแบรด อดัมส์ ผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชียขององค์การเฝ้าระวังสิทธิมนุษยชน หรือ ฮิวแมนไรตส์วอตช์ เรียกร้องให้กองทัพเมียนมาปล่อยตัวนางซูจี และผู้นำทางการเมืองคนอื่น ๆ ที่ถูกควบคุมตัวอย่างผิดกฎหมายในทันที โดยไร้เงื่อนไข พร้อมประณามการกระทำของกองทัพเมียนมา ว่าเป็นการดูหมิ่นการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยและสิทธิของประชาชนในการเลือกรัฐบาลของตน ขณะที่แสดงความกังวลต่อความปลอดภัยของกลุ่มนักเคลื่อนไหวและผู้ที่วิพากษ์วิจารณ์กองทัพซึ่งอาจถูกจำคุก พร้อมเตือนว่ากองทัพเมียนมาต้องรับผิดชอบในผลการกระทำของตน

อย่างไรก็ตาม คณะรัฐประหารเมียนมาสั่งปิดด่านท่าขี้เหล็ก ฝั่งตรงข้าม อ.แม่สาย จ.เชียงราย พร้อมตัดการสื่อสารของประชาชนในพื้นที่ ขณะที่ความเป็นอยู่โดยทั่วไปยังไม่มีอะไรตึงเครียด ด้านพ่อค้าชายแดนหวังจะไม่ปิดยาว

หลังผู้นำทหารของเมียนมา ที่นำโดย พลเอก Min Aung Hlaing ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ก่อการปฏิวัติยึดอำนาจการปกครอง ในช่วงที่กำลังจะมีการถ่ายโอนอำนาจจากรัฐบาลใหม่หลังการเลือกตั้ง ซึ่งชัยชนะตกเป็นของพรรคเอ็นแอลดีพรรคการเมืองที่มีอองซานซูจีเป็นผู้นำ

ที่ชายแดนไทย-เมียนมา ทางด้านอ.อแม่สาย จ.เชียงราย เช้าวันนี้ (1ก.พ.2564) ในช่วงเช้า ๆ การขนส่งสินค้าระหว่างแม่สายกับท่าขี้เหล็กซึ่งทำกัน ณ จุดผ่านแดนถาวรแม่สาย สะพานข้ามแม่น้ำสายแห่งที่ 2 ยังคงดำเนินการกันอยู่ตามปกติ  แต่ต่อมาเวลาประมาณ 09.30 น. เจ้าหน้าที่ของทางการท่าขี้เหล็กได้ทำการปิดด่านพรมแดนตามคำสั่งคณะปฏิวัติ ขณะที่แม่ทัพภาคที่ 3 ได้สั่งการให้หน่วยทหารในพื้นที่จังหวัดที่มีพรมแดนติดต่อกับเมียนมา ส่งกำลังตรึงชายแดนเพื่อรับมือกับทุกสถานการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นได้

ในขณะที่สถานการณ์ในตัวจังหวัดท่าขี้เหล็กนั้น จากการตรวจสอบในช่วงเช้าพบว่าเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายทำหน้าที่กันตามปกติ แต่ก็รอฟังคำสั่งจากคณะปฏิวัติว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไรหรือไม่ ในขณะที่การใช้ชีวิตของประชาชนไม่ได้มีการเข้มงวดมากนัก มีเพียงแต่การตัดสัญญาณสื่อสารเท่านั้น อย่างไรก็ตามหากด่านพรมแดนปิดไม่มีการขนส่งสินค้าเกิดขึ้น ประชาชนในเมืองท่าขี้เหล็ก ซึ่งพึ่งพาสินค้าจากแม่สายมีผลกระทบอย่างแน่นอน ในขณะที่การส่งออกสินค้าจากประเทศไทย ซึ่งมีมูลค่าเฉลี่ย

เดือนละประมาณ 1,000 ล้านบาทก็จะหายไป สร้างความเดือดร้อนให้กับผู้ประกอบการนำเข้าและส่งออกสินค้าไทย รวมทั้งบรรดาเจ้าของรถตู้ที่มีอาชีพรับจ้างขนส่งสินค้าไปท่าขี้เหล็กในพื้นที่แม่สายที่มีมากกว่า 200 คันอย่างแน่นอน

ขณะที่ ทางด้าน พล.ท.อภิเชษฐ์ ซื่อสัตย์ แม่ทัพภาคที่ 3 (มทภ.3) กล่าวถึงสถานการณ์ตามแนวชายแดน ไทย-เมียนมาว่า ขณะนี้ได้สั่งการใหัติดตามสถานการณ์ในเมียนมา หลังมีข่าวอองซาน ซูจี ถูกควบคุมตัว

โดยพล.อ. Min Aung Hlaing (มิน อ่องหล่าย) ผู้บัญชาการทหารสูงสุดเมียนมาได้ออกประกาศแถลงการณ์ยืนยันกองทัพก่อรัฐประหาร ยึดอำนาจปกครองขากรัฐบาลพลเรือน ซึ่งทางชายแดนไทย-เมียนมามีกองกำลังทหารไทยตรึงกำลังอยู่แล้ว ในการป้องกันการลักลอบข้ามแดนผิดฎหมายในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 หากประชาชนจากเมียนมาทะลักข้ามเขตไทยเข้ามาก็จะถูกควบคุมตัว แต่เบื้องต้นคาดว่า คงไม่ถึงขั้นทะลักข้ามมายังฝั่งไทย ตนกำชับทุกหน่วยในพื้นที่ชายแดนให้ดูแลเข้มงวด

เมื่อถามว่า มีความกังวลว่าชนกลุ่มน้อยตามแนวชายแดนอาจมีการดำเนินการหลังจากที่ทหารเมียนมายึดอำนาจครั้งนี้ พล.ท. อภิเชษฐ์ กล่าวว่า แม้ว่าที่เมียนมาจะมีการรัฐประหาร แต่ก็คงจะไม่ส่งผลต่อชนกลุ่มน้อยตามชายแดน เพราะที่ผ่านมาก็มีการเจรจาสันติภาพกับฝ่ายทหาร แต่ชะงักไปในช่วงสถานการณ์โรคติดต่อจากเชื้อไวรัสโควิด-19

“ยืนยันว่าไม่ต้องกังวลชาวเมียนมาจะไหลทะลักข้ามมายังฝั่งประเทศไทย เพราะเรามีกำลังเจ้าหน้าที่ในการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ตามแนวชายแดนอย่างเข้มงวดอยู่แล้ว” แม่ทัพภาคที่ 3 กล่าว

ทั้งนี้ รายข่าวจากฝ่ายความมั่นคง เปิดเผยว่า สถานการณ์ชายแดนไทยและเมียนมาฝั่งจ.กาญจนบุรียังคงเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ในส่วนของทหารทางพล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ยังไม่ได้มีการสั่งการให้เพิ่มเติมกำลังพลบริเวณกองกำลังชายแดนแต่อย่างใด เพราะได้มีการเสริมกำลังไปแล้วตั้งแต่สถานการณ์โควิด-19 แพร่ระบาด และมีปัญหาแรงงานต่างด้าวลักลอบเข้ามาในประเทศไทย แต่ก็ได้มีการกำชับให้เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ทั้งจุดผ่านแดนต่าง ๆ โดยเฉพาะเส้นทางธรรมชาติ ที่มีชุดตรวจเฝ้าระวังพิเศษของทหารทำหน้าที่ตลอด 24 ชั่วโมง