เนชั่น เรทติ้งร่วงกราว จากอันดับ 8 ลงไป 13 ต่างจาก “TOP NEWS” ปรากฎการณ์ช่วยชาติ!?!

6023

เนชั่น เรทติ้งร่วงกราว จากอันดับ 8 ลงไป 13 ต่างจาก TOP NEWS ปรากฎการณ์ช่วยชาติ เหมือนช่องปล่อยไอน้ำของกาต้มน้ำร้อนให้ประชาชน!?!

จากที่แฟนข่าวหลายคนตั้งตารอคอยรายการข่าวเข้มข้น จากทาง “TOP News” วันนี้ TOP News เริ่มประเดิมออกอากาศเป็นวันแรก ในเวลา 06.00 น.ที่ผ่านมา เริ่มด้วยรายการ “ข่าวมีคม” ที่มี สันติสุข มะโรงศรี กับ ตะวันรุ่ง เตี๋ยประดิษฐ์ เป็นผู้ดำเนินรายการ ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีรายการอื่น ๆ ที่น่าสนใจอาทิรายการ “เช้าข่าวเข้ม” ดำเนินรายการโดย กนก รัตน์วงศ์สกุล กับ ธีระ ธัญไพบูลย์ “ข่าวเที่ยงตรง” ดำเนินรายการโดย อัญชะลี ไพรีรัก และ วิทเยนทร์ มุตตามระ “ข่าวเป็นข่าว” ดำเนินรายการโดย อัญชะลี ไพรีรัก และ สันติสุข มะโรงศรี ทุกวันจันทร์ – ศุกร์​ เวลา 18.10 – 19.50 น. และ ช่วงค่ำ “เล่าข่าวข้น” ดำเนินรายการโดย กนก รัตน์วงศ์สกุล และ ธีระ ธัญไพบูลย์

โดยเช้าแรกของการออกอากาศที่ประเดิมรายการโดย “ข่าวมีคม” นั้น มีผู้รับชมไลฟ์สดผ่านทางแฟนเพจเฟซบุ๊ก “TOP News” มากถึง 13,000 คนรับชม มียอดแชร์ไลฟ์ดังกล่าวมากถึง 5,000 แชร์ อีกทั้งทุบสถิติ​ยอดคนดูสด​ 17,000 คน นั้นถือว่าเป็นยอดคนดูไลฟ์ผ่านช่องยูทูบที่สูงมาก​ สำหรับช่องใหม่ที่มีคน​ Subscribe(ติดตาม) ประมาณ​ 70,000 คน​เท่านั้น และต่อมาด้วยรายการของ “เช้าข่าวเข้ม” ดำเนินรายการโดย กนก รัตน์วงศ์สกุล กับ ธีระ ธัญไพบูลย์ ซึ่งออกอากาศต่อกันนั้น ก็มีผู้รับชมมากถึง 10,000 คน

โดยในรายการเช้าข่าวเข้ม ดำเนินรายการโดย “กนก รัตน์วงศ์สกุล” กับ “ธีระ ธัญไพบูลย์” ได้มีประชาชนจำนวนมากเข้ารับชมรายการผ่านไลฟ์ อยู่ที่ประมาณ 1 หมื่นคน ในขณะที่เวลาเดียวกันนั้นทางด้านของ NationTV 22 ก็ได้ทำการไลฟ์ผ่าน เพจ NationTV 22 โดยเป็นรายการ “เนชั่นทันข่าวเช้า” โดยมีประชาชนรับชมอยู่ที่ประมาณ 167 คน ซึ่งเกิดความแตกต่างกันอย่างชัดเจน

ซึ่งเป็นการตอกย้ำคำพูดครั้งเมื่อ นายสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม ได้เคยเน้นย้ำและกล่าวไว้เสมอว่า อุดมการณ์ในการก่อตั้งสถานีข่าวแห่งนี้ เรายึดมั่นใน 3 สถาบันหลัก คือ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ซึ่งถือเป็นแนวทางทำงานเพื่อนำไปเผยแพร่ข่าวสารความจริงในทุกแง่มุมสู่สาธารณะ โดยเฉพาะในช่วงที่สังคมไทยกำลังเผชิญกับข่าวสารมากมายที่มีลักษณะปลุกปั่นความคิด เพื่อผลประโยชน์ส่วนตนและกลุ่มการเมือง

อย่างไรก็ตาม ก็ได้มีการเปรียบเทียบเรทติ้งของช่องเนชั่นทีวี ประจำสัปดาห์ 25-31 มกราคม 2564 เนชั่นทีวีได้ร่วงลงมาอยู่อันดับที่ 13 จากอันดับที่ 8 จากสัปดาห์ที่ 12-18 ตุลาคม 2563 ซึ่งก็ทำให้เกิดการสิพากษ์วิจารณ์เป็นจำนวนมาก ถึงบทบาทของเนชั่นทีวีที่กำลังดิ่งลงอย่างเห็นได้ชัด

ทางด้าน พลโท นันทเดช เมฆสวัสดิ์ อดีตหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ ศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ (ศรภ.) ก็ได้โพสต์ข้อความถึงกรณีเหตุการณ์ สถานการณ์ต่างๆที่กำลังเกิดขึ้นในประเทศไทย โดยหนึ่งในนั้น ก็คือ TOp NEWS โดยระบุข้อความว่า
2-3 เดือนต่อไปนี้รัฐบาลไทยกำลังเจอปัญหาอะไรบ้าง เรื่องมันแยะมาก เอาแค่ขำๆ ครับ
1. โควิด-19 และผลกระทบทางเศรษฐกิจจากโควิด ( หนักมากกว่าที่คิด )
2. การอภิปรายไม่ไว้วางใจ (หมูหวาน)
3. ม็อบปลดแอกต่างๆ (เหมือนถูกแมลงวันตัวเล็กๆ ตอม ไม่ปัดก็ไม่ได้)
4. แก๊ง 3 กีบ (เหมือนถูกแมลงวันหัวเขียวตอม ไม่ปัดยิ่งไม่ไหวเลย)
5. การโกงของข้าราชการ (เหมือนสายสมที่เรารู้ว่ามีอยู่แต่จับต้องไม่ได้)
6. โจรใต้ (โจรการเมืองแถมมาคู่กับม็อบปลดแอก)
7. เลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. (หนักพอสมควรถ้าแพ้ฝ่ายค้าน)
8. เลือกตั้งเมืองคอน ( ถ้าส่งชุดเดิม ปชป.แพ้ )
9. การจับแล้วปล่อย (ปมด้อยของกระบวนการยุติธรรม)
10. การรัฐประหารในเมียนมา (ตัวอย่างที่ควรทำ)
11. การค้าของ CP (ทำในประเทศไทยได้ประเทศเดียว)
12. สยามไบโอไซเอนซ์ (จะต้องมีคนติดคุกเพราะโง่แล้วอวดฉลาด)
13. เรื่องลุงพล (ละครน้ำเน่าของทีวีหลายช่อง)
14. นิคมอุตสาหกรรมจะนะ (ประเทศเพื่อนบ้านไม่ชอบ)
15. ม็อบวีโว่ (ต้องใช้กฎหมายจริงๆ) ส่วนม็อบพม่าต้องถามว่าเอาเสื้อทีม
มาจากไหน
16. ไมค์ รุ้ง เพนกวิน (จุดจบมาเร็วกว่าที่คิด)
17. TOP TV ( ปรากฏการณ์ ช่วยชาติ เหมือนช่องปล่อยไอน้ำของกาต้มน้ำร้อนสำหรับประชาชน)
ฯลฯ


อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้าน้้น สนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม เน้นย้ำว่า อุดมการณ์ในการก่อตั้งสถานีข่าวแห่งนี้ เรายึดมั่นใน 3 สถาบันหลัก คือ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ซึ่งถือเป็นแนวทางทำงานเพื่อนำไปเผยแพร่ข่าวสารความจริงในทุกแง่มุมสู่สาธารณะ โดยเฉพาะในช่วงที่สังคมไทยกำลังเผชิญกับข่าวสารมากมายที่มีลักษณะปลุกปั่นความคิด เพื่อผลประโยชน์ส่วนตนและกลุ่มการเมือง

TOP News มั่นใจว่าการยึดมั่นในหลักอุดมการณ์ดังกล่าว คือส่วนสำคัญในการทำให้องค์กรผ่านอุปสรรคไปยืนอยู่แถวหน้าในวงการสื่อสารมวลชนได้อย่างแน่นอน บนความเชื่อมั่นของผู้บริโภคข่าวสารที่ติดตาม TOP News มาตั้งแต่ต้น จนเกิดปรากฏการณ์เกินความคาดหมาย เพราะเพียงวันแรกของการเปิดเพจเฟซบุ๊ก TOP News มียอดผู้ติดตามถึง 1 แสนคนเราจึงตั้งใจจะทำให้ TOP News ป็นสื่อมวลชนแรกที่นำไปสู่การเปลี่ยนทุกแพลตฟอร์ม โดยไม่ยึดติดกับสื่อโทรทัศน์ดิจิตอลอีกต่อไป