สว.สมชายเตือนครั้งสุดท้าย เผยเรื่องพระมหากษัตริย์ไม่ได้มีแค่หมวด2รธน.

3359

จากที่วันนี้(17 พ.ย.63) นายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา ได้ออกมาโพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊ก ถึงการประชุมแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญของรัฐสภา โดยระบุ # อย่าคิดแก้ปัญหาชาติด้วยการแก้ผ้าเอาหน้ารอด เตือนครั้งสุดท้ายอย่าหลงอุบายตั้งสสร.ล้มรัฐธรรมนูญ

#เรื่องพระมหากษัตริย์ในรธน.ไม่ได้มีแค่แต่เฉพาะในหมวด 2 การหลงอุบายสงคราม7ทัพด้วยการยอมรับญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญให้แก้มาตรา256 เพื่อนำไปสู่การให้มีการเลือกสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญจากญัตติของฝ่ายค้านฝ่ายรัฐบาล และ Ilaw เป็นการลดกระแสในวันนี้ เพื่อนำไปสู่วิกฤติความขัดแย้งที่ใหญ่กว่าในวันหน้า

เพราะพระราชอำนาจ และความเกี่ยวเนื่องของรัฐธรรมนูญไทยต่อพระมหากษัตริย์นั้นไม่ได้มีบัญญัติไว้แต่เพียงในมาตราต่างๆในหมวด2ของรัฐธรรมนูญเท่านั้น หากอยู่ในความเกี่ยวข้องที่รัฐธรรมนูญได้บัญญัติให้ทรงเชื่อมโยงกับอำนาจของฝ่ายนิติบัญญัติ บริหาร ตุลาการ องค์กรอิสระ ข้าราชการและการงานระหว่างประเทศในพระราชฐานะของพระมหากษัตริย์ประมุขแห่งรัฐ (Head of State) ที่ทางวิชาการเรียกว่า “พระมหากษัตริย์ทรงปกเกล้าแต่มิได้ปกครอง(The King reigns but does not rules) คือ

1.ทรงทําหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญ เช่นการแต่งตั้งนายกฯ ยุบสภา 2.ปฏิบัติพระราชภารกิจอย่างเป็นทางการ เช่น พระราชพิธี งานพระราชกุศลต่างๆ องค์ประกอบที่ทรงไว้ซึ่งเกียรติยศ  ทางการ เช่น พระราชพิธี งานพระราชกุศลต่างๆ 3.ทรงเป็นสัญลักษณ์และศูนย์รวมจิตใจของชาติ

บางเรื่องเขียนไว้ในรัฐธรรมนูญหลายมาตราที่มิได้อยู่ในหมวด 2 และบางเรื่องมิได้เขียนไว้ หากแต่อยู่ในกฎมณเฑียรบาล และในพระราชประเพณี

ดังนั้นการที่ให้มีสสร.ร่างรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับแทนการแก้ไขรายมาตรา ย่อมเกิดความสุ่มเสี่ยงจากสสรที่จะนำ10ข้อเสนอปฏิรูปกษัตริย์ไปแอบใส่เพิ่มเติมหรือตัดทอนในหลายมาตรา ให้เป็นที่กระทบพระเกียรติและกระทบกระเทือนจิตใจของพสกนิกรผู้จงรักภักดี

และแม้จะทำการไม่ได้สำเร็จตามที่ต้องการ แต่การเดินคู่ขนานของสสร. คณะทำงาน ที่ปรึกษา ที่จะตั้งขึ้นโดยอ้างว่า เพื่อจัดเวทีประชาพิจารณ์ทั่วทุกอำเภอทุกจังหวัดทั่วประเทศอ้างว่ารับฟังความคิดเห็นว่าจะปฏิรูปสถาบันกษัตริย์อย่างไรใน10ข้อหรือมากกว่า แค่นี้ก็เกิดเรื่องปะทะกันทางความคิดและกำลังจนแผ่นดินลุกเป็นไฟได้แล้วครับ

ที่มา : เฟซบุ๊ก สมชาย แสวงการ