ผลการศึกษาตีพิมพ์โดยอเมริกัน อะคาเดมี ออฟ พีดีเอทริกส์ (American Academy of Pediatrics) ในปี 2564 เชื่อมโยงการครอบครองปืนที่เพิ่มขึ้นระหว่างการระบาดใหญ่กับอัตราการบาดเจ็บจากปืนที่สูงขึ้นในหมู่เด็กหนุ่มสาวและเด็กเล็ก พรรคเดโมแครตแทบจะเป็นเอกฉันท์ในการสนับสนุนกฎหมายปืนที่เข้มงวด” การศึกษาเดียวกันของ Gallup ระบุ โดยเกือบ 91% เห็นด้วยกับกฎหมายปืนที่เข้มงวดกว่าเดิม ในทางกลับกัน มีพรรครีพับลิกันเพียง 24% เท่านั้นที่เห็นด้วยกับมติเดียวกัน พร้อมด้วย 45% ของผู้มีสิทธิเลือกตั้งอิสระก็ต้องการให้เข้มงวด แต่เอาเข้าจริงเหล่านักการเมืองก็ไม่กล้าหักดิบกลุ่มทุนยักษ์ผลิตปืน และปล่อยให้หน่วยงานท้องถิ่นรับมือปัญหากันไปแบบ ตัวใครตัวมัน
วันที่ 22 เม.ย.2565 สำนักข่าวซินหัว รายงานว่า เดอะ เทรซ (The Trace) สำนักข่าวไม่แสวงผลกำไรของสหรัฐฯ อ้างอิงบทวิเคราะห์ของงานวิจัยในเมืองบอสตัน รายงานว่าความรุนแรงจากอาวุธปืนกลายเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับ 1 ของวัยรุ่นอเมริกัน แซงหน้าอุบัติเหตุจากยานยนต์
รายงานระบุว่าอุบัติเหตุจากรถยนต์ครองสาเหตุการเสียชีวิตอันดับ 1 ของประชาชนอายุ 1-24 ปี มาเป็นเวลานานกว่า 60 ปี ทว่าอาการบาดเจ็บจากอาวุธปืนกลับกลายเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับแรกนับตั้งแต่ปี 2017 เป็นต้นมาทำลายสถิเดิมสิ้น
คณะวิจัยระบุว่า “แม้ข้อมูลจะแสดงให้เห็นว่าการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุจากยานยนต์ลดลง แต่อัตราการเสียชีวิตจากอาวุธปืนที่สูงขึ้นในหมู่เด็กและวัยรุ่นในสหรัฐฯ นั้นเป็นสิ่งที่ไม่อาจยอมรับได้”
รัฐบาลสหรัฐไม่มีท่าทีที่ชัดเจนในการแก้ปัญหาเหล่านี้ ทั้งในระดับฝ่ายบริหาร และในสภาสูงหรือสภาล่าง เพราะทุ่มเทสนใจแต่ปัญหารักษาอิทธิพลอำนาจในต่างประเทศ เลือกกระตุ้นสงครามล้างหนี้ ถล่มคู่แข่งเป็นสำคัญ นอกจากไม่แก้ไขในระดับยุทธศาสตร์ชาติ ปล่อยให้ท้องถิ่นรับมือกันไปแล้ว ยังปล่อยปละละเลยให้กลุ่มทุนผลิตปืน รณรงค์เรื่องปืนกันอย่างอื้ออึงแม้แต่กับเด็ก
เมื่อไม่นานนี้ สถานีโทรทัศน์เอ็นดีทีวี (NDTV) ของอินเดียเปิดเผยรายงานว่า บริษัทผู้ผลิตปืนแห่งหนึ่งซึ่งมีสำนักงานใหญ่ในสหรัฐฯ ได้เผยโฉมปืนไรเฟิลกึ่งอัตโนมัติสำหรับเด็กที่มีต้นแบบมาจากปืนไรเฟิลเออาร์-15 (AR-15)
รายงานระบุว่าบริษัทวีวัน แทคติคัล (WEE1 Tactical) กำลังวางจำหน่ายปืนรุ่นเจอาร์-15 (JR-15) ในฐานะปืนรุ่นแรกของชุดอาวุธปืนที่จะช่วยให้ผู้ใหญ่แนะนำกีฬายิงปืนให้แก่เด็กอย่างปลอดภัย พร้อมเสริมว่าเว็บไซต์ของบริษัทฯ ระบุว่าปืนไรเฟิลรุ่นนี้ “ยังมีรูปลักษณ์ ให้ความรู้สึก และทำงานเหมือนปืนของพ่อแม่”
สถานีโทรทัศน์ฯ เสริมว่าปืนสไตล์เออาร์-15 ซึ่งเป็นปืนไรเฟิลกึ่งอัตโนมัติน้ำหนักเบาที่มีต้นแบบมาจากดีไซน์ของปืนโคลต์ เออาร์-15 ได้ถูกใช้ในเหตุกราดยิงรุนแรงหลายครั้งในสหรัฐฯ โดยการเปิดตัวปืนไรเฟิลรุ่นดังกล่าวสำหรับเด็กได้ก่อให้เกิดเสียงประณามจากกลุ่มสนับสนุนความปลอดภัยของการใช้อาวุธปืน
อนึ่ง กลุ่มกัน ไวโอเลนซ์ อาร์ไคฟ์ (Gun Violence Archive) ซึ่งเป็นองค์กรติดตามเหตุความรุนแรงจากปืนของสหรัฐฯ ระบุว่าประชาชนเกือบ 45,000 รายเสียชีวิตในเหตุความรุนแรงจากปืนในสหรัฐฯ เมื่อปีที่แล้ว ซึ่งรวมถึงผู้เยาว์มากกว่า 1,500 ราย
การเสียชีวิตจากอาวุธปืนได้กลายเป็นเรื่องสำคัญในชีวิตของชาวอเมริกันอย่างสยองขวัญ โดย 1.5 ล้านคนที่เสียชีวิตจากอาชญากรรมโดยปืน เกิดขึ้นระหว่างปี 2511 ถึง 2560 สูงกว่าจำนวนทหารที่เสียชีวิตในทุกความขัดแย้งของสหรัฐฯ ทั้งในและต่างประเทศนับตั้งแต่สงครามเพื่ออิสรภาพของอเมริกาในปี พ.ศ. 2318
ในปี 2563/2020 เพียงปีเดียว ชาวอเมริกันมากกว่า 45,000 คนเสียชีวิตจากปลายกระบอกปืน ไม่ว่าจะด้วยเหตุฆาตกรรมหรือฆ่าตัวตาย มากกว่าปีอื่นๆ ที่มีการบันทึก ตัวเลขนี้แสดงถึงการเพิ่มขึ้น 25% จากห้าปีก่อนหน้า และเพิ่มขึ้น 43% จากสิบปีก่อน คือปี 2553/2010
นี่คือประเด็นทางการเมืองที่ร้ายแรงของสหรัฐฯ โดยมาตรการควบคุมอาวุธปืน จะถูกต่อต้านโดยกลุ่มประชากรที่ปกป้องสิทธิในการถืออาวุธตามรัฐธรรมนูญของตนอย่างดุเดือด และได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มทุนยักษ์ที่ผลิตอาวุธจำหน่ายทั้งในประเทศ และต่างประเทศ
มันได้กลายเป็นวัฒนธรรมการใช้ปืนและการแก้ปัญหาด้วยความรุนแรงของคนอเมริกัน ที่ผูกติดกับค่านิยมประชาธิปไตยและส่งผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อสังคม ที่วันนี้สะท้อนภาพชัดว่า กระทบต่อลูกหลานชาวอเมริกันอย่างสาหัสแต่ยังไม่มีวี่แววว่าจะมีการแก้ไขอย่างจริงจังแต่อย่างใด!!!