สถานการณ์สู้รบในเมียนมายังดำเนินต่อไประหว่าง ฝ่ายกุมอำนาจรัฐกับฝ่ายต่อต้าน ซึ่งมีสหรัฐและตะวันตกหนุนหลังผลัดกันรุก-รบ แพ้ชนะเป็นระยะ ยังไม่ชี้ขาดการศึกในพื้นที่ แต่สงครามเศรษฐกิจที่เมียนมาเผชิญจากแรงกดดันของสหรัฐและพันธมิตรอย่างกว้างขวาง สร้างความยากลำบากให้ประชาชนไม่น้อยในการดำเนินชีวิตประจำวันทั้งๆที่ต้องเผชิญกับการแพร่ระบาดโควิด-19 ด้วย เพื่อหลีกหนีผลกระทบจากการใช้ดอลลาร์สหรัฐในการค้าขายมาอย่างยาวนานล่าสุดรัฐบาลโดยธนาคารกลางแห่งเมียนมาประกาศตัดขาดเงินตราสกุลต่างประเทศไม่ให้ใช้ภายในประเทศ ใครมีต้องนำมาแลกเป็นเงินจ๊าด ถือเป็นมาตรการเข้มข้นที่เกิดขึ้นหลังจากประกาศใช้บาท-จ๊าดและรูปี-จ๊าด ตลอดจนหยวนในการค้าขายไปก่อนหน้านี้
วันที่ 4 เม.ย.2565 สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ธนาคารกลางแห่งเมียนมา (Center Bank of Myanmar หรือ CBM) แถลงว่าใครก็ตามที่อาศัยอยู่ในประเทศเมื่อได้รับเงินสกุลต่างประเทศ ต้องขายรายได้ที่ได้รับเป็นสกุลเงินต่างประเทศเป็นเงินท้องถิ่นคือ เงินจ๊าดที่เคาน์เตอร์แลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศของธนาคารที่ได้รับใบอนุญาตตัวแทนจำหน่ายภายในหนึ่งวันทำการหลังจากได้รับ
คำชี้แจงของธนาคารกล่าวเมื่อวันอาทิตย์ที่ 3 เม.ย.ที่ผ่านมาระบุว่าเงื่อนไขที่จะได้รับการยกเว้นจะมีการประกาศแยกต่างหาก
ในขณะเดียวกัน การส่งเงินตราต่างประเทศไปต่างประเทศจะต้องดำเนินการผ่านธนาคารที่ได้รับอนุญาตจากตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับอนุญาตซึ่งซื้อขายแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศโดยได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการกำกับการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ
เงินทั้งหมดที่อยู่ในบัญชีสกุลเงินต่างประเทศของเมียนมาก่อนวันที่ออกหนังสือแจ้งนี้ จะต้องขายหรือเปลี่ยนเป็นจ๊าตเมียนมาที่ธนาคารที่ได้รับใบอนุญาตจากตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับอนุญาต
ธนาคารกลางของเมียนมากล่าวเสริมว่าการแจ้งเตือนดังกล่าวมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ออกการไม่ปฏิบัติตามประกาศนี้จะส่งผลให้มีการดำเนินคดีตามกฎหมายว่าด้วยการจัดการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ
ธนาคารกลางให้เหตุผลว่าเนื่องจากรัฐบาลพยายามควบคุมสกุลเงินต่างประเทศที่ไหลเวียนมากขึ้น
คำสั่งดังกล่าวลงนามโดยผู้ว่าการธนาคารกลางแห่งเมียนมาร์ ธาน เยอิน จะมีผลบังคับใช้กับสกุลเงินต่างประเทศที่เดินทางเข้ามาในประเทศก่อนวันอาทิตย์เช่นกัน
ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ทางการเมียนมาได้ประกาศแผนการเริ่มยอมรับสกุลเงินบาทสำหรับการทำธุรกรรมการค้าชายแดน เพื่อลดการพึ่งพาเงินดอลลาร์และลดแรงกดดันด้านเงินเฟ้อ
การประกาศดังกล่าวซึ่งออกโดยกระทรวงข้อมูลและการลงทุน ยังระบุด้วยว่ามีแผนที่คล้ายกันที่จะใช้เงินรูปีของอินเดียเพื่อการดำเนินธุรกิจการค้าดังกล่าว หลังจากข้อตกลงก่อนหน้านี้ประกาศการยอมรับเงินหยวนของจีนในการทำธุรกิจ
อัตราแลกเปลี่ยนอย่างเป็นทางการของธนาคารกลางสำหรับจ๊าดในปัจจุบันอยู่ที่ 1,850 ต่อ 1 ดอลลาร์ ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะต่ำกว่าอัตราตลาดมืดอย่างไม่เป็นทางการ
นโยบายในการอนุญาตให้ชายแดนที่ติดกับประเทศเมียนมาเช่นที่ประเทศไทยและประเทศอินเดีย ส่งเสริมให้ใช้บาท-จ๊าด และรูปี-จ๊าด เพิ่อส่งเสริมการส่งออกการค้าด่านชายแดน และเป็นการแก้ไขปัญหาเงินเหรียญสหรัฐขาดแคลนในตลาดเงินตราในประเทศเมียนมาเนื่องจากโดนคว่ำบาตรจากสหรัฐและตะวันตก เพราะเมื่อขายสินค้าไปแล้ว จะต้องรอหาซื้อเงินเหรียญสหรัฐในการนำมาชำระค่าสินค้า แต่พอประกาศใช้บาท-จ๊าด, รูปี-จ๊าด ก็ไม่จำเป็นต้องไปหาเงินดอลลาร์สหรัฐอีกต่อไปและทำให้การค้า-ขายชายแดนคล่องตัวมากยิ่งขึ้นนั่นเอง
และมาตรการล่าสุดเป็นการควบคุมการไหลเข้าออกของเงินตราต่างประเทศ เมื่อการทำธุรกรรมทั้งหลายภายในประเทศสามารถใช้ได้แต่เงินท้องถิ่น คือเงินจ๊าด เงินดอลลาร์ก็จะลดความสำคัญลง เพราะถ้าถือเงินดอลลาร์จะต้องเสียค่าธรรมเนียมส่วนต่างและจะโดนลงโทษทางกฎหมายด้วย แบบนี้เท่ากับ ปลดแอกค่าเงินจ๊าดที่ผูกติดกับดอลลาร์โดยปริยายไปอีกขี้นหนึ่ง
