จากกรณีที่มีรายงานว่าสหรัฐฯ กลุ่มชาติยุโรป และพันธมิตร เริ่มจนแต้มพลังงาน ไม่มีชาติในกลุ่มโอเปคชาติใดกล้าแตกแถวผลิตพลังงานน้ำมัน ก๊าซ เพิ่มส่งขายให้เพราะเกรงบารมีรัสเซีย ซาอุดิอาระเบีย ที่เป็น”ชาติทรงอิทธิพลพลังงาน” แถมสหรัฐฯและชาติบริวาร ยังถูกรัสเซียบังคับให้ชำระเงินค่าพลังงานเป็นเงินสกุลรูเบิลรัสเซียเท่านั้น เพื่อแปลงเป็นทองคำ แล้วสูบเงินรูเบิลกลับเข้าระบบเศรษฐกิจหมุนเวียนในรัสเซีย รอบนี้ดูเหมือนว่าจะมีหลายประเทศที่ไม่เป็นมิตรต่อรัสเซีย กลับลำมายอมสยบต่อปูติน เนื่องจากไม่ต้องการใช้ก๊าซที่มีราคาแพง หรือก๊าซที่กลุ่มสหภาพยุโรปจัดหาให้ เพราะราคาสูงกว่าเดิม
ขณะที่เยอรมัน ก็เริ่มเคลื่อนไหว ออกตัวไม่เอาด้วยกับแนวคิดของกลุ่มอียูแล้ว เพราะต้องพยุงสถานะเศรษฐกิจในประเทศตัวเองไว้ให้ได้ โดยล่าสุดรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเยอรมนี คริสเตียน ลินด์เนอร์ ปฏิเสธมาตรการคว่ำบาตรการนำเข้าก๊าซธรรมชาติจากรัสเซียที่สหภาพยุโรปเตรียมนำมาใช้ ขณะที่อียูถูกกดดันมากขึ้นให้ใช้มาตรการลงโทษภาคพลังงานของรัสเซีย ตามรายงานของรอยเตอร์
รัฐมนตรีลินด์เนอร์ กล่าวระหว่างการร่วมประชุมกับบรรดารัฐมนตรีของประเทศสมาชิกอียูที่กรุงบรัสเซลล์เมื่อวันจันทร์ (4เม.ย.) ที่ผ่านมาว่า เป็นที่ชัดเจนว่าสหภาพยุโรปต้องยุติความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจกับรัสเซียให้เร็วที่สุด และต้องมีมาตรการลงโทษที่รุนแรงกว่าเดิม แต่เราก็ยังไม่สามารถหาแหล่งทดแทนก๊าซจากรัสเซียได้ในระยะสั้นเช่นกัน ซึ่งนั่นจะทำให้เกิดความเสียหายต่อเราเองมากกว่ารัสเซีย แทนที่จะใช้วิธีคว่ำบาตรการนำเข้าพลังงานทั้งหมดจากรัสเซีย อียูควรใช้วิธีลงโทษไปที่เชื้อเพลิงแต่ละประเภทแบบแยกส่วนกัน เนื่องจากแหล่งทดแทนน้ำมันนั้นสามารถหาได้ง่ายกว่าแหล่งทดแทนก๊าซธรรมชาติ
ทั้งนี้ รัสเซียคือผู้จัดหาก๊าซธรรมชาติป้อนประเทศนยุโรปเป็นสัดส่วนราว 40% ของปริมาณที่ใช้ทั้งหมดในยุโรป และเยอรมนีคือหนึ่งในประเทศที่พึ่งพาก๊าซธรมชาติจากรัสเซียมากที่สุด หลังจากที่รัสเซียบุกยูเครนเมื่อปลายเดือนก.พ. รัฐบาลเยอรมันก็ประกาศใช้มาตรการลงโทษหลายอย่างต่อรัสเซียทันที โดยมุ่งเป้าไปที่ผู้นำรัฐบาล นักการเมือง นักธุรกิจ และภาคธุรกิจที่สำคัญของรัสเซีย แต่กลับยังไม่ระงับการนำเข้าน้ำมัน ก๊าซ และถ่านหินจากรัสเซีย ด้วยเกรงว่าจะสร้างความเสียหายต่อเยอรมนีเอง
อย่างไรก็ตามนักวิเคราะห์หลายคนชี้ว่า เศรษฐกิจเยอรมันอาจเข้าสู่ภาวะถดถอยหากคว่ำบาตรพลังงานจากรัสเซีย จึงอาจจะเป็นเหตุผลหลักที่ตอนนี้ทำให้ท่าทีของเยอรมันยิ่งตีตัวออกห่างจากกลุ่มอียูมากขึ้น และพยายามจะคัดค้านมาตรการลงโทษรัสเซียในเรื่องของก๊าซด้วย
