จากที่มีการปล่อยข่าวปลอม หรือ เฟคนิวส์ระหว่างรัสเซีย และยูเครน โดยล่าสุดมีประเด็นที่กำลังพูดถึงทั้งโลกเกี่ยวกับภาพข่าวที่มีการอ้างจากฝ่ายยูเครน ทำให้ฝ่ายรัสเซียต้องออกมาชี้แจงถึงเรื่องดังกล่าวนั้น
ทั้งนี้เมื่อวันที่ 04 เมษายน 2565 เฟซบุ๊กสถานทูตรัสเซียในประเทศไทย ได้โพสต์ข้อความถึงกรณีดังกล่าวไว้อย่างมีรายละเอียดว่า
“กระทรวงกลาโหมรัสเซียปฏิเสธข้อกล่าวหาจากรัฐบาลกรุงเคียฟว่ารัสเซียสังหารหมู่พลเรือนยูเครนในเมืองบูชา (Bucha)ทางตะวันตกเฉียงเหนือของกรุงเคียฟ
ภาพถ่ายและวิดีโอทั้งหมดที่เผยแพร่โดยรัฐบาลกรุงเคียฟซึ่งได้กล่าวหาว่า มีอาชญากรรมได้กระทำขึ้นโดยทหารรัสเซียในเมืองบูชา(Bucha) ทางตะวันตกเฉียงเหนือของกรุงเคียฟ รัสเซียถือว่าเป็นการยั่วยุจากฝ่ายยูเครน
ในช่วงเวลาที่เมืองนี้อยู่ภายใต้การควบคุมของรัสเซีย ในเวลานั้นไม่มีผู้อยู่อาศัยในเมืองรายใดได้รับความทุกข์ทรมานจากการกระทำรุนแรงใดๆ จากทหารรัสเซีย และขณะเดียวกันรัสเซียได้ส่งมอบและแจกจ่ายความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมปริมาณ 452 ตันให้แก่พลเรือนในเขตกรุงเคียฟ
ตราบใดที่เมืองอยู่ภายใต้การควบคุมของกองทัพรัสเซีย ชาวบ้านในเมืองบูชาก็เคลื่อนไหวอย่างอิสระไปทั่วเมืองและใช้โทรศัพท์มือถือได้
การเดินทางออกจากเมืองบูชาไม่ได้ถูกกีดขวาง ชาวเมืองทุกคนมีอิสระที่จะออกจากเมืองไปทางเหนือ รวมทั้งสาธารณรัฐเบลารุส ในเวลาเดียวกัน เขตชานเมืองทางใต้ของเมือง รวมทั้งพื้นที่อยู่อาศัย ถูกกองกำลังทหารยูเครนโจมตีตลอดเวลาด้วยปืนใหญ่ รถถัง และการโจมตีจากระบบจรวด
เราขอเน้นว่าทุกหน่วยของรัสเซียได้ถอนตัวออกจากเมืองบูชา (Bucha) โดยสมบูรณ์ในวันที่ 30 มีนาคม 2565 ซึ่งเป็นหนึ่งวันหลังจากการเจรจาระหว่างรัสเซีย-ยูเครนในตุรกี
นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 31 มีนาคม นาย Anatoliy Fedoruk นายกเทศมนตรีเมือง Bucha ได้ยืนยันในข้อความวิดีโอว่าไม่มีทหารรัสเซียอยู่ในเมือง แต่เขาไม่ได้พูดถึงชาวบ้านที่ถูกยิงที่ถนนโดยที่มือทั้งสองข้างถูกมัดไว้เลยในช่วงเวลานั้น
จึงไม่น่าแปลกใจในสิ่งที่เรียกว่า หลักฐานการก่ออาชญากรรมทั้งหมดในเมือง Bucha ไม่ได้เกิดขึ้นจนถึงวันที่ 4 หลังจากที่รัสเซียถอนกำลังออกไป จนกระทั่งเมื่อหน่วยรักษาความปลอดภัยของยูเครนและตัวแทนของสื่อยูเครนมาถึงเมืองแห่งนี้
เป็นเรื่องน่ากังวลว่าร่างทั้งหมดของผู้คนได้รับการเผยแพร่โดยระบอบการปกครองของเคียฟหลังจากผ่านไปแล้วอย่างน้อย 4 วัน
ทั้งหมดนี้เป็นการยืนยันโดยสรุปว่าภาพถ่าย และวิดีโอจากเมืองบูชา Bucha เป็นอีกผลงานหนึ่งของระบอบการปกครองของเคียฟที่ทำขึ้นสำหรับสื่อตะวันตก เช่นเดียวกับในเมือง Mariupol ในเรื่องโรงพยาบาลแม่และเด็ก รวมถึงเช่นเดียวกับในเมืองอื่นๆ ก่อนหน้านี้”
ขณะที่ในวันเดียวกัน ดร.ปฐมพงษ์ โพธิ์ประสิทธินันท์ นักวิชาการทางบูรพคดีศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดล ได้แชร์ข้อความของสถานทูตรัสเซีย โดยนำเนื้อหาทั้งหมดมาลงไว้ใน Blockdit พร้อมแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติมว่า
“ตอนนี้ ทุกท่านคงเข้าใจแล้วว่าทำไม ผู้บริหาร FB จึงละเมิดรัฐธรรมนูญไทยที่ว่าด้วยให้คนมีเสรีภาพในการแสดงออก ปิดบัญชี FB ผม เพราะไม่ต้องการให้มีคนแฉอาชญากรรมที่รัฐบาลอเมริกาทำในประเทศต่างๆ นั่นเอง
รัฐบาลอเมริกาให้หน่วยงานสืบราชการลับ เช่น CIA ไปก่อเรื่องขึ้นเพื่อใส่ร้ายป้ายสีประเทศอื่นเป็นประจำ จึงไม่ต้องการให้ใครเอาความจริงมาแฉตามสื่อกระแสหลักให้คนทั่วไปได้รับรู้นั่นเอง ถ้าอยากจะรู้ความจริง เราชาวไทยจึงต้องหาช่องทางหลายๆ วิธีในการนำเสนอข้อเท็จจริง”