จากที่ประชุมฉุกเฉินของสมัชชาสหประชาชาติ (UNGA) ลงมติด้วยคะแนนเสียงท่วมท้น 141 ต่อ 5 เสียง เรียกร้องให้รัสเซียยุติการรุกรานยูเครน และถอนกองทัพทั้งหมดออกไปโดยทันทีนั้น
ทั้งนี้การประชุมชาติสมาชิกสหประชาชาติ (ยูเอ็น) 193 ประเทศครั้งนี้ เป็นการเรียกประชุมฉุกเฉินครั้งแรก นับตั้งแต่ปี 2540 ในบรรดาชาติที่เรียกร้องให้รัสเซียถอนกำลังออกจากยูเครน 141 ประเทศนี้ รวมไปถึง “ไทย” และยังมีชาติยักษ์ใหญ่ไปจนถึงชาติที่เป็นเกาะเล็ก ๆ ด้วย
ขณะที่ประเทศที่โหวตคัดค้านมติครั้งนี้ประกอบด้วย 5 ประเทศ นอกจากรัสเซียแล้ว ยังมีเบลารุส คิวบา เกาหลีเหนือ และซีเรีย และมี 35 ประเทศงดออกเสียง นำโดยจีน อินเดีย แอฟริกาใต้ และเวียดนาม
อย่างไรก็ตาม แม้ว่ามติดังกล่าวไม่มีผลผูกพันทางกฎหมาย แต่แสดงให้เห็นถึงปฏิกิริยาและความเห็นของชาติสมาชิกยูเอ็นส่วนใหญ่ที่ร่วมประณามรัสเซีย กรณีกระทำการก้าวร้าวรุนแรงต่อยูเครนด้วยท่าทีที่หนักแน่นที่สุด เห็นได้จากข้อเรียกร้องให้รัสเซียถอนกองทัพทั้งหมดออกจากยูเครนโดยทันที
การลงมติดังกล่าวของที่ประชุมใหญ่ยูเอ็น มีขึ้นหลังจากรัสเซียรุกรานยูเครนต่อเนื่องเข้าสู่วันที่ 7 โดยสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติคาดการณ์ว่า มีประชาชนอพยพจากยูเครนแล้วกว่า 8.7 แสนคน และอาจพุ่งเป็น 1 ล้านคนในเร็ว ๆ นี้ หากสถานการณ์ยังไม่สงบ
ขณะที่โฆษกกระทรวงกลาโหมรัสเซีย เปิดเผยยอดผู้เสียชีวิตในศึกครั้งนี้ต่อสาธารณะเป็นครั้งแรกเมื่อวันพุธ ระบุว่า ทหารรัสเซียเสียชีวิต 498 นาย และบาดเจ็บ 1,597 นาย ตอบโต้กระแสข่าวลือที่ว่า ทหารรัสเซียเสียชีวิตจำนวนนับไม่ถ้วน จากการรุกรานยูเครน
ต่อมานายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ได้โพสต์ถ้อยแถลงของไทยลงบนทวิตเตอร์ พร้อมเอกสารประกอบว่า
“ถ้อยแถลงที่เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติได้กล่าวในที่ประชุม UNGA (กรณี #ยูเครน)”
ด้านนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ได้โพสต์ข้อความถึงการประชุมก่อนลงมติในครั้งนี้ผ่านทวิตเตอร์ด้วยว่า
“การลงมติครั้งนี้ถือเป็นประวัติศาสตร์ทางการทูต โดยเป็นการประชุมเร่งด่วนสมัยพิเศษของ UNGA ครั้งที่ 11 เท่านั้นในรอบ 80 ปี Switzerland ที่เป็นกลางมาตลอดหลายร้อยปียังออกมาแสดงจุดยืน นี่คือวิกฤตครั้งใหญ่ของ UN ยุโรป และของโลก และนี่ไม่ใช่เรื่องไกลตัวของประเทศไทย
อีกไม่นาน สมาชิก UN 193 ประเทศจะลงมติในกรณีการรุกรานยูเครนเพื่อต่อต้านสงคราม การรุกรานอธิปไตยชาติอื่นและให้ยุติการใช้กำลังในทันที
ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่ากระทรวงการต่างประเทศ @MFAThai จะแสดงจุดยืนที่ถูกต้อง รับร่างข้อมติในที่ประชุมเร่งด่วนสมัยพิเศษของสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ(UNGA)”