รบ.บิ๊กตู่ช่วยชาวบ้านมีรายได้! ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ดึงนทท.กว่า 3แสนคน กวาดเงินเข้าประเทศแล้ว 4.3 หมื่นล้าน

916

รบ.บิ๊กตู่ช่วยชาวบ้านมีรายได้! ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ดึงนทท.กว่า 3แสนคน กวาดเงินเข้าประเทศแล้ว 4.3 หมื่นล้าน

จากกรณีที่วันนี้ (23 กุมภาพันธ์ 2565) นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมพอใจการดำเนินโครงการ Phuket Sandbox ที่มีนักท่องเที่ยวให้ความสนใจขยับเพิ่มเรื่อยๆ ตามลำดับ ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีที่จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยวมากขึ้นโดยยอดรวมนักท่องเที่ยวตั้งแต่เปิดโครงการ ฯ เมื่อวันที่ 1 ก.ค. 64 จนถึงปัจจุบัน (ข้อมูล ณ 22 ก.พ.65) มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวแล้วกว่า 333,784 คน สร้างรายได้ให้ภูเก็ตในทางตรงกว่า 18,000 ล้านบาท และทำให้มีเงินหมุนเวียนทางเศรษฐกิจกว่า 43,000 ล้านบาท

นายธนกร กล่าวว่า ถือเป็นผลสำเร็จของรัฐบาล และทุกภาคส่วน รวมถึงประชาชนทุกคน ที่ได้ร่วมมือร่วมใจช่วยกันสร้างความเชื่อมั่น จนทำให้นักท่องเที่ยวต่างประเทศ สนใจเดินทางมาท่องเที่ยว อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรี ขอให้ทุกฝ่ายทั้งระดับจังหวัด ระดับท้องถิ่นปฎิบัติตามมาตรการอย่างเคร่งครัด ร่วมกันเป็นเจ้าบ้านที่ดี เพื่อให้ชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาภูเก็ตและประเทศไทยมากขึ้น

“นายกรัฐมนตรี กำชับอยู่เสมอเรื่องการท่องเที่ยวขอให้ทุกภาคส่วนร่วมกันพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาส สร้างความเชื่อมั่น ให้การท่องเที่ยวกลับมาคึกคัก สร้างรายได้ให้กับประเทศ พร้อมกับเตรียมมาตรการรองรับสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ไม่เกิดผลกระทบขึ้นต่อนักท่องเที่ยวและคนไทย” นายธนกร กล่าว

อย่างไรก็ตาม หลังจากที่พลเอกประยุทธ์ ได้เยือนซาอุฯอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนม.ค. 2565 ที่ผ่านมา และในตอนนั้น สายการบินซาอุดี อาราเบียน แอร์ไลน์ส ได้แถลงผ่านข้อความที่โพสต์ลงบนทวิตเตอร์เมื่อวันอังคาร (25 ม.ค.) ว่าจะเริ่มกลับมาให้บริการเที่ยวบินตรงสู่ประเทศไทยในเดือนพฤษภาคมนี้

ซึ่งนายธนกร ก็ได้ออกมาเปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยินดีที่ความร่วมมือในสาขาด้านการท่องเที่ยวระหว่างไทยและซาอุดีอาระเบียมีความคืบหน้าอย่างเป็นรูปธรรม หลังกรณีสายการบิน Saudi Arabian Airlines ประกาศเตรียมเปิดเที่ยวบินปฐมฤกษ์ บินตรงจากซาอุดีฯ-ไทย ในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2565 นี้

การเดินทางเยือนซาอุดีอาระเบียอย่างเป็นทางการของนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 25 มกราคม 2565 ที่ผ่านมา ถือเป็นการประสานความสัมพันธ์ไทยและซาอุดีอาระเบียครั้งประวัติศาสตร์ ส่งผลให้เกิดโอกาสของความร่วมมือระหว่างทั้งสองประเทศตามมามากมาย ทั้งด้านการค้า การลงทุน แรงงาน และล่าสุดด้านการท่องเที่ยว ที่มีความคืบหน้าอย่างเป็นรูปธรรม ภายหลังจากสายการบิน Saudi Arabian Airlines พร้อมเปิดเที่ยวบินตรงสู่ไทย เป็นการตอกย้ำความสำเร็จซึ่งเป็นผลจากการดำเนินนโยบายอย่างรอบด้านของนายกรัฐมนตรีที่ได้สั่งการให้รัฐมนตรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้ดำเนินการทันทีให้คืบหน้า จัดตั้งกลไกการปรึกษาหารือ และประสานงานอย่างใกล้ชิด เพื่อเดินหน้าความสัมพันธ์และความร่วมมือทวิภาคีให้เป็นผลและเกิดเป็นรูปธรรมโดยเร็ว

ทั้งนี้จากการสั่งการของนายกรัฐมนตรี ทำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องขานรับร่วมมือผลักดันการทำงาน โดยในวันที่ 26-27 กุมภาพันธ์นี้ กระทรวงการต่างประเทศ จะนำคณะหอการค้า สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และภาคเอกชนไปซาอุฯ และทางกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้วางแผนนำผู้ประกอบการภาคเอกชนในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทยเดินทางไปซาอุฯ ช่วงปลายเดือนมีนาคมนี้ เพื่อนำเสนอสินค้าและบริการท่องเที่ยวไทย ซึ่งคาดว่าจะสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวซาอุดีอาระเบียมาไทยให้ได้ถึง 2 แสนคน สร้างรายได้ประมาณ 20,000 ล้านบาท ในปี 2565 นี้

นอกจากนี้ กระทรวงการท่องเที่ยวฯ อยู่ระหว่างการจัดทำร่างบันทึกความเข้าใจ (MOU) ว่าด้วยความร่วมมือด้านการท่องเที่ยว ระหว่างกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาของไทยกับกระทรวงท่องเที่ยวของซาอุดีอาระเบีย เพื่อส่งเสริมการทำตลาดท่องเที่ยวแบบ 2 ทาง พร้อมส่งเสริมให้ผู้แสวงบุญชาวไทยเดินทางท่องเที่ยวได้หลังประกอบพิธีแสวงบุญ ทั้งพิธีฮัจญ์ และพิธีอุมเราะห์ รวมถึงการขยายเวลาพำนักในประเทศซาอุฯ ให้แก่คนไทยที่ได้วีซ่าแสวงบุญ ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการส่งร่าง MOU ไปให้ทางซาอุฯ พิจารณา

“ผลสำเร็จของการเปิดเที่ยวบินตรงระหว่างไทยและซาอุฯ นอกจากจะเสริมสร้างความสัมพันธ์ระดับทั้งสองฝ่ายมากขึ้น เป็นการสร้างมิติทางความสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้นขึ้น และยังจะสร้างผลประโยชน์ และโอกาสต่อยอดด้านการท่องเที่ยวให้แก่ประเทศไทยอีกมาก โดยชาวซาอุฯ ที่เดินทางมาท่องเที่ยวไทยเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มีศักยภาพสูง และเป็นกลุ่มเป้าหมายสำคัญตามนโยบายที่ไทยผลักดัน Medical Hub และ การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ Thailand Wellness ตอบรับแนวทางการท่องเที่ยวแบบยั่งยืน สิ่งเหล่านี้จะพัฒนาการท่องเที่ยวไทย และสร้างรายได้ให้อุตสาหกรรมภาคการท่องเที่ยวของไทยมากขึ้นในอนาคต”