แกนนำคอตก? รมว.ยุติธรรม ขยับรับลูกนายกฯ ปรับ “พ.ร.ฎ.อภัยโทษ” ให้เหมาะสม เตือนผตห.112 ผิดอาญาร้ายแรง ไม่พ้นคุกง่าย!

1735

หลังจากที่นายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา ประธานคณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพและการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา ได้เปิดเผยว่า เตรียมทำจดหมายเปิดผนึกส่งถึงนายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรี ศาลยุติธรรม คณะกรรมการป.ป.ช องค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่น

และพี่น้องประชาชนคนไทยที่รักความเป็นธรรม เรื่องข้อเสนอการแก้ไขปัญหาที่เกิดจากการบริหารจัดการและข้อกฎหมาย ที่ทำให้เกิดการลดหย่อนโทษในคดีคอร์รัปชันที่มีปัญหาและสังคมตั้งข้อสงสัย โดยเฉพาะคดีทุจริตสำคัญร้ายแรงทุจริตจำนำข้าว จนต่อมาก็มีกระแสในสังคมวิพากษ์วิจารณ์ด้วยว่า อยากให้มีการปรับลดโทษให้เหมาะสม เพราะผู้ต้องหาผิดในคดีร้ายแรง จะทำอะไรต้องให้เหมาะสม

ล่าสุดทางด้านนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ได้เปิดเผยถึงกรณีกระแสวิพากษ์วิจารณ์การเสนออภัยโทษให้ผู้ต้องขังในคดีทุจริต ว่า ต้องขอบคุณพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ที่ชี้แนะให้ทุกฝ่ายทำการบ้านให้มากขึ้น รวมถึงให้ดูความพอดีเหมาะสม ซึ่งจะเป็นแนวทางออกที่ดีที่สุดของการทำเดินการ ทั้งนี้การลดโทษมีทั้งผู้ที่ได้และไม่ได้ประโยชน์จากพ.ร.ฎ.อภัยโทษ โดยขอเน้นไปที่กลุ่มคดีอาญาไม่ร้ายแรงและกลุ่มคดีอาญาร้ายแรง คือ บุคคลที่ทำผิดต่อหน้าที่ หรือทำผิดต่อเจ้าหน้าที่ คดีข่มขืน คดีฆ่าคน รวมทั้งคดีโครงการทุจริตจำนำข้าว ถึงแม้จะเป็นนักโทษชั้นเยี่ยมก็จะได้รับการลดโทษ 1 ใน 3 ซึ่งมีการดำเนินการเป็นกลุ่ม ๆ ในพ.ร.ฎ.อภัยโทษ ฉะนั้นการปรับแก้ในแนวทางต่าง ๆ จะมีผลกระทบต่อคนกลุ่มนั้น เช่น การฆ่า การทุจริต หรือโทษที่กระทำกับเจ้าหน้าที่ต่าง ๆ หากจะแก้ต้องแก้กันหมด

“นายกรัฐมนตรี ได้มีการชี้แนะไปแล้ว ถือเป็นทางออกอย่างดียิ่ง เช่น คนที่ได้รับโทษจากคดีจำนำข้าว ก็ได้รับการลดหย่อนโทษไปหลายครั้ง และก่อนหน้าก็ไม่มีการเตรียมปรับแก้อะไร เพราะไม่มีใครทวงถาม ซึ่งการขอพระราชทานอภัยโทษแต่ละครั้งเป็นความลับ และเจ้าหน้าที่ก็ไม่ได้รู้อะไรกันมากมาย ดังนั้นถ้าจะปรับแก้ทั้งหมดเลยจะกระทบกับคนหลายกลุ่ม สุดท้ายหากจะมีการแก้ไขก็ต้องให้ผู้ที่มีความรู้มาช่วยกันคิด เพื่อหาทางออกร่วมกัน อย่างไรก็ตามพ.ร.ฎ.อภัยโทษ มีตั้งแต่ปี 2459 มีมาทั้งหมด 52 ครั้ง เป็นเวลา 105 ปี”

หลังจากนี้จะทำตามแนวทางของนายกรัฐมนตรี และขอย้ำว่าหากเราแก้ในคดีอาญาร้ายแรง ภายใต้ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา หากปรับทั้งหมดคิดว่าจะกระทบ เช่น กลุ่มเดินขบวน จะเอาด้วยหรือไม่อย่างไร เพราะต้องปรับไปทั้งกลุ่มตามข้อเสนอ เมื่อถามว่า หากมีการปรับแก้เรื่องดังกล่าวนี้ จะกระทบกับผู้ชุมนุมหมายความว่าอย่างไรบ้าง นายสมศักดิ์ กล่าวว่า การชุมนุมหากมีความผิด ก็เหมือนกับเป็นความผิดอาญาร้ายแรง ซึ่งก็จะได้ลดโทษ 1 ใน 3 เช่นเดียวกัน จะไปเอา 1 ใน 5 ทั้งกลุ่มหรือไม่ หรือจะแยกต่างหากก็ไปว่ากัน

“ผู้รู้ทางกฎหมายต้องไปศึกษาว่าจะเอาอย่างไร ผมรับได้ทั้งนั้น ผมไม่อยากจะช่วยนักหรอก คนที่ทุจริตต่อหน้าที่ เดิมมันเป็นไปตามกรอบแนวปฏิบัติอยู่”