ธนาธรลงทะเบียนเรือ ไม่ตรงแจ้งบัญชีถือครองต่อปปช.?พบห่าง8เดือนซ้ำรอยคดีถือหุ้นสื่อ

4233

จากกรณีเกิดเหตุเพลิงไหม้ เรือยอร์ชชื่อ Silvretta ขนาดระวาง 64 ฟุต ลักษณะเรือ 1 ชั้น ครึ่ง สีขาว ซึ่งจอดลอยลำอยู่ที่ ท่าจอดเรือชื่อ.อ่าวปอ แกรนด์ มารีน่า ต. อ่าวปอ อ. ถลาง จังหวัดภูเก็ต เพลิงได้ลุกไหม้บริเวณบันไดท้ายเรือด้านขวาลามไปที่ท้ายเรือค่าเสียหายประมาณ 3 ล้านบาท

ต่อมามีรายงานว่าเจ้าของเรือสำราญดังกล่าวเป็นของนักการเมืองและเศรษฐีชื่อดัง อักษรย่อ “ธ” อย่างไรก็ตามจนถึงขณะนี้ยังไม่มีผู้เกี่ยวข้องหรือเจ้าของเข้าแจ้งความ ขณะที่เพจ ปราชญ์ สามสี ออกมาระบุว่า เรือยอร์ช ของสองพี่น้องจึงรุ่งเรืองกิจ ที่ภูเก็ตอุบัติเหตุไฟไหม้ พอมีคนสงสัยไปหาเรื่องการจดทะเบียนเรือแล้วพบว่าไปจดที่ cook islands

หมู่เกาะคุกในต่างประเทศ เป็นสถานที่ที่เชี่ยวชาญในการปกป้องทรัพย์สินที่เรียกว่าทรัสต์ซึ่งนักลงทุนได้ปกป้องทรัพย์สินจากการเข้าถึงของเจ้าหนี้และหน่วยงานทางกฎหมาย ตามรายงานของ The New York Times Cooks มี “กฎหมายที่ออกแบบมาเพื่อปกป้องทรัพย์สินของชาวต่างชาติจากการเรียกร้องทางกฎหมายในประเทศบ้านเกิดของตน

ซึ่งก็เป็นที่น่าสังเกตว่า เหตุใดนายธนาธรจะต้องไปจดทะเบียนเรือ Silvretta ที่หมู่เกาะคุก สำหรับหมู่เกาะคุก เป็นเขตปกครองตนเองของนิวซีแลนด์ ประกอบไปด้วยเกาะเล็ก ๆ 15 เกาะ ในมหาสมุทรแปซิฟิกตอนใต้ มีพื้นที่ทั้งหมด 240 ตาราง กิโลเมตร รายได้สำคัญของหมู่เกาะคุกมาจากการท่องเที่ยว ที่สำคัญคือหมู่เกาะคุก เป็นเขตปลอดภาษี ในอีกด้านหนึ่ง เป็นเกาะที่ดังเรื่องการฟอกเงิน

อย่างไรก็ตาม เมื่อตรวจสอบไปก่อนหน้านั้นพบว่า นายธนาธร แจ้งบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน ต่อสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กรณีเข้ารับตำแหน่ง ส.ส. รวมคู่สมรสจำนวนกว่า 5.6 พันล้านบาท โดยแจ้งว่า มีทรัพย์สินซึ่งเป็นยานพาหนะ 11.3 ล้านบาท จำแนกเป็น รถยนต์ตู้ ยี่ห้อ Alphard 1 คัน รถกระบะยี่ห้อนิสสัน 1 คัน และ เรือยอร์ช มูลค่า 10 ล้านบาท ได้มาเมื่อวันที่ 26 มิ.ย.2561 แต่ไม่ได้ระบุรายละเอียดของเรือยอร์ชที่ถือครองว่าเป็นรุ่นใด ยี่ห้อใด

ซึ่งเมื่อตรวจสอบในใบ Cook Islands Certificate of Registry พบว่า วันที่ลงทะเบียน (Date of Registration) คือวันที่ 20 ต.ค.2560 (20 Oct 2017) ซึ่งปรากฏชื่อของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ถือหุ้นในเรือยอร์ช Silvretta จำนวน 20% ร่วมกับน้องชายคือนายสกุลธร จึงรุ่งเรืองกิจ ที่ถือหุ้น 20% เช่นกัน โดยจดทะเบียนที่หมู่เกาะคุก (Cook Islands) นั่นหมายความว่า การแจ้งบัญชีทรัพย์สินต่อป.ป.ช.ที่ระบุว่า ถือครองเรือยอร์ช เมื่อวันที่ 26 มิ.ย.2561 ไม่ตรงกับที่ปรากฏในใบ Cook Islands Certificate of Registry ซึ่งระบุวันลงทะเบียนคือ 20 ต.ค.2560 ซึ่งระยะเวลาห่างกัน 8 เดือน

เช่นนี้เองจึงเกิดคำถาม และข้อสงสัยเป็นอย่างมากว่า นายธนาธร ซึ่งเคยประกาศต้องการทำการเมืองให้โปร่งใส แต่ตัวเองได้กระทำเรื่องราวบางอย่างที่ไม่โปร่งใส??? ซึ่งจะขอยกตัวอย่างบางคดี โดยย้อนแบสรุปไทม์ไลน์ปมถือหุ้นสื่อตลอด 8 เดือนของนายธนาธร ให้ทบทวนความจำกันอีกครั้ง ดังนี้

22 มี.ค. 62  สำนักข่าวอิศรา ได้รายงานข่าวว่า นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ได้โอนหุ้นบริษัท วี-ลัค มีเดีย จำกัด ให้นางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ มารดา ก่อนการเลือกตั้งเพียง 3 วัน

23 มี.ค. 62  นายธนาธร ได้ชี้แจงผ่านสื่อสังคมออนไลน์ ยืนยันว่า ได้โอนหุ้นทั้งหมดของบริษัทวีลัค มีเดีย จำกัด ให้มารดาเสร็จสิ้น ตั้งแต่วันที่ 8 ม.ค.2562 โดยมีหลักฐานเป็นตราสารโอนหุ้นพร้อมลายเซ็นพยาน 2 คน ผู้โอน และผู้รับโอนหุ้น และทนายความโนตารี เช็คธนาคารค่าหุ้น พร้อมสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นของบริษัท

25 มี.ค. 62  นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้ยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้ตรวจสอบว่าการกระทำเช่นนี้ ขัดต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 98 (3) ที่ห้ามผู้เป็น ส.ส.เป็นเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นในกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนใดๆ หรือไม่

3 เม.ย. 62  สำนักข่าวอิศรา รายงานมีการโอนหุ้นในวันที่ 8 ม.ค.จริงหรือไม่ เพราะในวันที่ 8 ม.ค.2562 นายธนาธร ได้ลงพื้นที่ช่วยผู้สมัครพรรคอนาคตใหม่หาเสียงที่ จ.บุรีรัมย์ จากนั้นนายธนาธร ได้ชี้แจงโดยนำเฟซบุ๊กไลฟ์มาใช้เป็นหลักฐานว่ามีการพูดคุยกับชาวลบ้านเพื่อขอตัวลากลับ กทม.ในเวลา 11.00 น. เพราะมีธุระสำคัญ พร้อมเปิดหลักฐานใบสั่งการกระทำผิดขับรถเร็วเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด ระหว่างเดินทางกลับ กทม.รวมถึงหลักฐานการใช้บัตรอีซี่พาสด้วย

4 เม.ย. 62  กกต.ตั้งคณะกรรมการช่วยตรวจสอบสำนวนเพื่อดำเนินการสืบสวนและไต่สวนกรณีนายธนาธร ปมถือหุ้นสื่อ

23 เม.ย.62  คณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนได้รวบรวมพยานหลักฐาน โดยมีหลักฐานเบื้องต้นฟังได้ว่า นายธนาธรเป็นเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นในบริษัทวี-ลัค มีเดีย จำกัด จำนวน 675,000 หุ้น เลขหมายใบหุ้นตั้งแต่ 1350001-2025000 กกต.จึงได้มีมติให้แจ้งข้อกล่าวหาแก่นายธนาธร

30 เม.ย. 62  ธนาธร เข้าชี้แจงข้อกล่าวหาต่อ กกต. พร้อมนำหลักฐานจำนวน 26 รายการเข้าชี้แจงและแสดงต่อ กกต. พร้อมกับหลักฐานส่วนอื่น ๆ

8 พ.ค. 62  นายแสวง บุญมี เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แถลงรับรองรายชื่อ ส.ส. บัญชีรายชื่อ ซึ่ง กกต.ได้คำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ตามมาตรา 128 และมาตรา 129 ของ พรป.เลือกตั้ง ส.ส. โดยมีรายชื่อนายธนาธร เป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคอนาคตใหม่

16 พ.ค. 62   กกต.ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อขอให้พิจารณาวินิจฉัยสมาชิกภาพของนายธนาธร สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 มาตรา 82 วรรคสี่ เป็นผู้ถือหุ้นในกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนใด อันเป็นลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัคร รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งเป็นเหตุให้สมาชิกภาพของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 มาตรา 101 (6) ประกอบมาตรา 98 (3)

23 พ.ค. 62  ศาลรัฐธรรมนูญ มีมติมีมติเอกฉันท์ 9 ต่อ 0 มีคำสั่งรับคำร้องกรณีการพิจาณาคุณสมบัตินายธนาธร และแจ้งให้ผู้ร้องทราบ และส่งสำเนาคำร้องให้ผู้ถูกร้อง ยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับสำเนาคำร้อง และมีมติเสียงข้างมาก 8 ต่อ 1 ให้นายธนาธร หยุดปฏิบัติหน้าที่ ส.ส.จนกว่าศาลจะมีคำวินิจฉัย

2 ก.ย. 62  นายธนาธร ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญขอให้พิจารณายกเลิกคำสั่งที่ให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ส.ส.

4 ก.ย. 62  ศาลรัฐธรรมนูญมีมติยกคำร้อง ของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ ที่ขอให้ศาลยกเลิกคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ส.ส. จนกว่าศาลจะมีคำวินิจฉัยหรือมีคำสั่ง โดยระบุว่า ยังไม่ปรากฏพฤติการณ์อันเป็นเหตุให้เปลี่ยนแปลงคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่เดิม

18 ต.ค. 62  องค์คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งบัลลังก์ไต่สวนพยานกรณี กกต. ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 82 ว่าสมาชิกภาพสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของนายธนาธรสิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 101 (6) ประกอบมาตรา 98 (3) หรือไม่ กรณีถือครองหุ้นสื่อมวลชนซึ่งเข้าลักษณะต้องห้ามของบุคคลที่จะสมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร โดยมีการไต่สวนพยาน 10 ปาก ประกอบด้วยนายธนาธร และสมาชิกในครอบครัวรวม 5 คน พนักงานบริษัทวี-ลัค 2 คน ทนายความ 2 คน และคนขับรถ 1 คน

18 พ.ย. 62  นายธนาธร มอบหมายทีมทนายความฟ้องร้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ กรณี กกต.ดำเนินการคดีหุ้นสื่อ ไม่เป็นธรรม ฟ้องร้องนายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต.และกกต.รวม 7 คน ข้อหาประพฤติมิชอบ อ้างเหตุใช้กระบวนการไต่สวนไม่ชอบก่อนส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญ เป็นเหตุสงสัยว่ามีการเร่งรัดคดีทำให้เกิดความเสียหาย การถูกระงับการปฏิบัติหน้าที่ และเกิดเสื่อมเสียชื่อเสียงต่อนายธนาธร ซึ่งศาลได้ประทับรับฟ้องไว้แล้ว

19 พ.ย.62  คณะกรรมการการเลือกตั้ง มีมติเป็นเอกฉันท์ให้พรรคอนาคตใหม่ ส่งเอกสารหรือหลักฐานที่เกี่ยวข้องมาประกอบการพิจารณาเพิ่มเติม อันจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายต่อไป

20 พ.ย. 62  ศาลรัฐธรรมนูญนัดฟังคำวินิจฉัย คดีถือหุ้นสื่อ บริษัทวี-ลัค มีเดีย จำกัด  โดยพบข้อพิรุธหลายจุด หลายประการ “ฟังได้ว่านายธนาธรเป็นผู้ถือหุ้นบริษัท วี-ลัค มีเดีย ซึ่งประกอบกิจการสื่อสิ่งพิมพ์ ในวันที่พรรคอนาคตใหม่ยื่นบัญชีรายชื่อผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ทำให้สมาชิกภาพของนายธนาธรสิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่วันที่ 23 พ.ค. 62 ซึ่งเป็นวันที่ศาลได้สั่งให้นายธนาธรหยุดปฏิบัติหน้าที่”