โตโต้ แถหน้าด้านๆ มีขบวนการแทรกแซงม็อบ ยั่วยุให้สร้างความรุนแรง ด้าน สมบัติ ยืนยัน ไม่มีมือที่สาม!?!
จากกรณีที่มีการชุมนุมในค่ำคืนวันที่ 13 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ต่อมาได้มีการเคลื่อนขบวนผู้ชุมนุมไปยังหน้าศาลฎีกา ซึ่งในช่วงการชุมนุมได้มีเสียงดังคล้ายระเบิดขึ้นมา 2 ครั้ง และยังมีเสียงดังขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง เจ้าหน้าที่ตำรวจยุติการชุมนุมไว้ได้ ซึ่งม็อบ 3 นิ้ว มีการชุมนุมเกินจากเวลาที่ขอกับเจ้าหน้าที่ไว้ ที่ 21.30 น. จึงต้องปฏิบัติตามหลักสากล สลายการชุมนุมโดยการฉีดน้ำสกัด ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์เป็นจำนวนมาก
ล่าสุดทางด้าน นายปิยรัฐ จงเทพ หรือ โตโต้ หัวหน้ากลุ่มการ์ด วีโว่ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กถึงกรณีเหตุการณ์ที่กลุ่มผู้ชุมนุมกลุ่มราษฎรได้ปะทะกับเจ้าหน้าที่เมื่อคืนวันที่ 13 ก.พ.64 โดยระบุข้อความว่า
#สวัสดีประชาชน
เหตุความผิดปกติเมื่อคืน มีความเป็นไปได้ว่ามีขบวนการแทรกแซงเพื่อสร้างสถานการณ์หน้าแนวปะทะ จากการไล่สอบข้อเท็จจริงการ์ดที่ปฏิบัติภารกิจร่วมกันหลายๆกลุ่มเมื่อวานนี้ พบข้อเท็จจริงเบื้องต้นคือ
1) ขณะที่แกนนำกำลังเจรจากับตำรวจด้วยดี มีกลุ่มวัยรุ่นหัวรุนแรงไม่ยอมรับการเจรจา มีชายวัยกลางคนพูดจาให้ท้ายและยั่วยุตลอดเวลา และมีเสียงดังคล้ายปะทัดลูกบอลตามมา จำนวนหลายลูก การ์ดพยายามห้ามปรามกันแต่ไม่ยอมฟัง
2) กลุ่มที่ปั่นป่วนมีการแสดงความไม่พอใจ staff ที่เข้าไปห้ามปราม ถึงขั้นจะทำร้ายร่างกายกัน การ์ดที่ทำหน้าที่พยายามหักหามใจ อดทนอดกลั้นเพื่อให้งานเดินต่อไปได้
3) ผมได้รับรายงานอย่างต่อเนื่องว่า มีกลุ่มปกป้องสถาบันเคลื่อนไหวเข้าพื้นที่ ตั้งแต่ช่วงเย็นจึงประเมินสถานการณ์ว่าไม่ควรให้ยืดเยื้อไปมากกว่านี้ และได้ให้คำแนะนำไปที่แกนนำที่หลังรถโมบายว่า หากมีแผนยังไงต่อจะทำอะไรก็รีบดำเนินการ แต่หากไม่มีก็ขอให้รีบยุติโดยเร็ว
4) แกนนำตัดสินใจประกาศยุติหลังเสร็จกิจกรรมทาสีแดง และตำรวจยอมรับเงื่อนไข ลดการเผชิญหน้า แต่กลับมีกลุ่มคนที่ปั่นป่วนไม่ยอมฟังเหตุผลและได้รับการยุยงจากคนไม่กี่คน ให้อยู่ต่อ ไม่ต้องกลับ และมีการส่งปะทัดลูกบอลให้กันอย่างต่อเนื่อง (เบื้องต้นเราทราบตัวบ้างแล้ว)
5) ประชาชนส่วนใหญ่ถอยแต่ หลายคนถอยไม่ได้โดยเฉพาะการ์ด ที่อยู่ส่งทุกคนกลับบ้าน เราอยู่กันตลอดแนวจนถึงอนุสาวรียประชาธิปไตย และหลังรถเครื่องเสียงของแกนนำออกจากพื้นที่ ไป ก็ยังมีกลุ่มวัยรุ่นกลุ่มหนึ่งไม่ยอมกลับพร้อมกับขวางปะทัดลูกบอลไปแนวกั้นของ ตร. อย่างต่อเนื่อง ผมต้องใช้รถขยายเสียงของwevo ประกาศเป็นครั้งสุดท้ายให้กลับ จนพวกเขาตอบกลับมาด้วยคำด่าทอเพราะเกิดความไม่พอใจที่เราขอร้องให้กลับ ไม่ว่าใครไปห้ามหรือขอร้องก็จะถูกด่าทอกลับมา ซึ่งไม่ใส่วิสัยปกติที่เราเจอ
6) ผมจึงต้องตัดสินใจถอนกำลังทั้งหมดรวมถึง ให้wevo และการ์ดอื่นๆที่ยังทำหน้าที่อยู่ เอาคนกลับออกมาให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ จนกระทั่งเวลาเดียวกันกับที่มีเหตุ กลุ่มปกป้องสถาบันรุมทำร้ายการ์ดอาสา ที่เฝ้าระวังเหตุบริเวณหน้าแมคฯอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย
10) ผมจึงตัดสินใจเดินทางไปที่เกิดเหตุทำร้ายกัน และไม่ทันได้เห็นเหตุการณ์สลายการชุมนุมที่ หน้าศาลฎีกา ทั้งหมดทั้งมวลจากการสอบถามข้อเท็จจริงทุกคนในที่เกิดเหตุทั้งหมด และจากการที่ผมเฝ้าสังเกตนั้นผมค่อนข้างแน่ใจว่ามันไม่ปกติแน่ๆ คาดว่าเกิดการแทรกแซงโดยมือที่สาม หรือกลุ่มจัดตั้งอันธพาลที่มาในรูปของมวลชนกลุ่มหนึ่งแฝงอยู่ในม็อบ สอดประสานกับ อันธพาลอีกกลุ่มที่รอดักซุ่มทำร้ายประชาชนอยู่ในเส้นทาง
หลังจากนี้หวังว่าทางแกนนำทุกๆกลุ่มจะได้นำบทเรียนครั้งนี้ไปหาทางแก้ปัญหาอย่างเด็ดขาด หากไม่ดำเนินการก่อนที่จะนำม็อบครั้งต่อไป ปัญหานี้จะไม่จบ
ในขณะที่ทางด้าน นายสมบัติ ทองย้อย หัวหน้าการ์ดเสื้อแดง ได้โพสต์ข้อความถึงกรณีดังกล่าวเช่นกัน โดยบอกว่า ครูใหญ่เข้าไปเจรจากูก็เข้าไปด้วย ข้างนอกก็เฮิ่มๆๆๆ จะบวก จะบวก ส่วนรถเครื่องเสียงใครไม่รู้แม่งนับถอยหลัง 10-9-8-7-6-5-4-3-2-1 สิ้นเสียง 1 ระเบิด ประทัดยักษ์ ขวดน้ำสารพัดลอยมา ทั้งๆที่กู ครูใหญ่ ยังอยูในฝั่งตำรวจ กูนี่มุดหัวซุกหัวซุน กับครูใหญ่ นักข่าว พอหลุดออกมาได้ด่าแม่งโลด เขวี้ยงหาพ่อxxมึงหรือ พวกกูยังอยู่ข้างในกันอยู่เลย แล้วถ้าหล่นใส่หัวพวกเดียวกันเอง จะว่ายังไงว๊ะะ โมโหเหี้xๆ แม่งไม่ประสานกันเลย แบบนี้แม่งเละเหี้xๆ แล้วก็อ่านต่อในรูปที่แปะมานะครับ มีคนเล่าต่อแล้ว เพราะที่เขาเล่านั่นกูก็เห็นแบบนั้นเหมือนกัน อย่าด่ากูนะ กูเล่าแล้วนะ
โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า ไม่มีมือที่สาม ที่ไม่ยอมกลับการ์ดและมวลชนทั้งนั้น ปลุกปั่นอารมณ์กันมาตลอดวัน วันนี้ไม่ถึงศาลหลักเมือง ไม่ถอย สู้ตาย การ์ดทุกๆคนทำหน้าที่ตัวเองเป็นตัวปะทะพามวลชนมาอีกนิดดียว จะถึงปะทะกันรอบแรกปิงปอง ปาระเบิดเบาๆ แกนนำเข้าไปเจรจา ออกมาไม่พูดอะไร เรียกสื่อมาถ่ายรูปรุ้งกับวีโว่เทสี เขียนสีที่แผงเหล็ก แถลงข่าวกับสื่อ บนรถประกาศให้แยกย้ายกลับบ้าน ทุกคนงง การ์ดและมวลชนไม่ยอมกลับอารมณ์ค้าง
ต่อมาทางด้าน นายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือ ไมค์ ระยอง ก็ได้แชร์ข้อความของสมบัติ พร้อมกับระบุข้อความว่า ผมเป็นคนนับ แล้วยังไงต่อครับ ? นับเพื่อให้ตำรวจปิดไฟ และเอาลวดหนามออก นับเพื่อกดดันตำรวจ ถ้าพี่คุมอารมณ์ตัวเองได้ และฟังเหตุผลผมสักนิดตอนที่เดินมาถามผม คงจะดีกว่าครับ
ต่อมา นายสมบัติยังได้โพสต์ข้อความต่อไปอีกว่า อานนท์เคยกล่าว กับสหายร่วมวงสุรา ความรุนแรงต้องเกิดจากทางเจ้าหน้าที่รัฐ ไม่ใช่ฝั่งเรา เพราะถ้าเกิดจากฝั่งเรา เราจะแพ้ทันที #อานนท์มองออกมาคงเสียใจ #คิดถึงอานนท์ Cr. มิตรสหายสนามหลวง
ต่อมาทางด้าน ดร.ศุภณัฐ อภิญญาณ หรือ ดร.นิว ได้โพสต์คลิปเหตุการณ์ที่กลุ่มผู้ชุมนุมได้ขว้างปาสิ่งของเข้าไปในกลุ่มเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมกับระบุข้อความว่า