ทักเกอร์ คาร์ลสันพิธีกรชื่อดังของสำนักข่าวฟอกซ์นิวส์สหรัฐอเมริกา วิพากษ์นโยบายทางทหารของรัฐบาลโจ ไบเดนถึงภัยจาก ‘สงครามร้อน’ ระหว่างสหรัฐฯ และรัสเซียเหนือยูเครน ทันทีที่สภาผู้แทนราษฏรณ์สหรัฐผ่านร่างกฎหมายเพิ่มงบฯทหาร 7.7 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐและจะอุดหนุนทางทหารให้ยูเครนทันที 300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเท่ากับเป็นการยั่วยุรัสเซียให้เร่งเตรียมการทางทหารหนักขึ้น ทั้งนี้มองไม่เห็นว่าจะก่อประโยชน์อะไรให้ประเทศ มิหนำซ้ำประชาชนอเมริกันต้องใช้ภาษีไปในการสงคราม และคนอเมริกันต้องไปรบเสี่ยงชีวิตอย่างไร้เหตุผล
วันที่ 9 ธ.ค.2564 ทักเกอร์ คาร์ลสันพิธีกรของ Fox News และนักวิจารณ์แนวอนุรักษ์นิยม วิพากษ์แรงว่าการตัดสินใจของรัฐบาลภายใต้การนำของปธน.โจ ไบเดนเป็น“ความโง่เขลา” และ “ความวิกลจริต” ที่ไร้เหตุผล ในการผลักดันสถานการณ์ตึงเครียดที่รัสเซียและสหรัฐฯ อาจเข้าสู่สงครามอันร้อนแรงเหนือยูเครนได้
คาร์ลสันได้เรียกร้องให้ผู้ชมของเขาอย่าคิดว่าเป็นเรื่องไกลตัว “ไม่ว่าจะดูเหมือนจะเกิดในสถานที่ไกลโพ้นเพียงใด สงครามอันร้อนแรงกับรัสเซีย เป็นความคิดที่บ้า ไม่มีอะไรที่เราจะได้รับประโยชน์จากการเผชิญหน้าทางทหารกับวลาดิมีร์ ปูติน แต่เรายังสูญเสียอะไรอีกมากมาย รวมถึงชีวิตชาวอเมริกันอีกหลายพันหลายหมื่นคน”
“ดูเหมือนเป็นเรื่องไร้สาระ หรือดูเหมือนบ้า หรือดูเหมือนว่าจะทำลายผลประโยชน์หลักของชาวอเมริกันโดยสิ้นเชิง แต่เป็นสิ่งที่รัฐบาลสหรัฐฯ กำลังจะทำ”
คาร์ลสันชี้ไปที่ตัวเลขโพลความนิยมของประธานาธิบดีไบเดนที่ตกต่ำลงเรื่อยๆ สถานะของเขาในวันนี้ถูกมองว่าเป็น “เบี้ย” ของ “อุดมการณ์แข็งกร้าวที่รายล้อมเขา” และ “ความวิกลจริตของพรรคใหญ่สองฝ่ายในวอชิงตัน” ซึ่งมีทั้งนักอนุรักษ์นิยมใหม่และเสรีนิยมใหม่ ทั้งสองฝ่ายสนับสนุน บรรทัดฐานที่บีบคั้นต่อรัสเซียในขณะที่สนับสนุนยูเครนเข้าเป็นสมาชิก NATO
คาร์ลสันวิจารณ์การโฆษณาชวนเชื่อว่ารัสเซียจะฟื้นอณาจักรสหภาพโซเวียตเป็นเรื่องไร้สาระ “สหภาพโซเวียตไม่ได้ดำรงอยู่มานานกว่าสามทศวรรษแล้ว มันเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ไปแล้ว แต่ NATO ก็ยังมีชีวิตยืนยาวต่อไป ได้รับทุนสนับสนุนที่ดีกว่าที่เคยด้วยซ้ำ ทั้งๆที่เป็นกองทัพที่ไม่มีเป้าหมาย ดังนั้น ณ จุดนี้ นาโต้จึงดำรงอยู่เพื่อบีบคั้นวลาดิมีร์ ปูติน ผู้ซึ่งไม่ว่าจะมีความผิดอะไรมากมายก็ตาม ไม่มีเจตนาที่จะบุกรุกยุโรปตะวันตก วลาดิมีร์ ปูติน ไม่ต้องการเบลเยียม เขาแค่ต้องการรักษาพรมแดนทางตะวันตกของเขาให้ปลอดภัยเท่านั้น”
ในกรณีของรัสเซีย สหรัฐคิดว่า การเทคโอเวอร์ยูเครนของนาโตจะทำให้รัสเซียยอมให้ใช้ฐานทัพเรือเซวาสโทพอล (Sevastopol)ซึ่งเป็นที่ตั้งของกองเรือทะเลดำของรัสเซีย และเป็นหนึ่งในประเทศที่เชื่อมต่อกับน่านน้ำสากล ซึ่งเป็นไปไม่ได้ ดูจากคำพูดของริดชาร์ด ซัควา (Richard Sakwa) นักวิชาการชาวรัสเซีย ยืนยันว่าหากรัสเซียสูญเสียฐานทัพเรือเซวาสโทพอล มันจะเป็น ‘ความพ่ายแพ้ทางการเมืองทางทหารครั้งใหญ่ที่สุดของรัสเซียในช่วงพันปีที่ผ่านมา’
สำหรับสหรัฐอเมริกา คาร์ลสันแนะนำว่าประเทศจะ “ไม่ได้อะไรเลยจากการยึดครองยูเครน” โดยผลลัพธ์เพียงอย่างเดียวคือ “ผลักดันรัสเซียเข้าสู่อ้อมแขนของรัฐบาลจีนอย่างแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น”
คาร์ลสันโอดครวญว่า ยูเครนมีสิทธิที่พระเจ้าประทานให้ในบูรณภาพแห่งดินแดนของตน แต่ทหารอเมริกันจะต้องตายเพื่อปกป้องบูรณภาพแห่งดินแดนนั้น นั่นคือจุดยืนอย่างเป็นทางการของเราในฐานะประเทศสหรัฐอเมริกา
คาร์สันสับเละอีกว่า “คนเหล่านี้ไม่มีความละอาย ดังนั้นคำถามคือสิ่งนี้จริงๆ เกี่ยวกับผลประโยชนฺ์อะไร? แน่นอน มันไม่เกี่ยวกับประชาธิปไตยที่พวกเขาโดยกระทรวงการต่างประเทศเคารพเชิดชูมันมีค่าเป็นศูนย์”
“แต่ยังมีสาเหตุที่ลึกกว่านั้นซึ่งไม่ค่อยมีใครสังเกตเห็น หลายปีที่ผ่านมา ผลประโยชน์ของยูเครนได้อัดฉีดเงินหลายล้านดอลลาร์สู่วอชิงตัน ดี.ซี. เพื่อเปลี่ยนนโยบายต่างประเทศของอเมริกาในภูมิภาคนี้ คุณอาจเคยได้ยิน เรื่องที่ว่าบางคนในยูเครน พวกเขาจ้างลูกชายของประธานาธิบดีเพื่อพูดซ้ำๆในประเด็นที่เขาต้องการ” คาร์ลสันอ้างถึงเรื่องอื้อฉาวเกี่ยวกับการทุจริต คนสำคัญในสหรัฐรับเงินเพื่อเล่นประเด็นเอื้อประโยชน์ผู้จ้าง ซึ่งเกี่ยวข้องกับฮันเตอร์ ลูกชายของประธานาธิบดีและงานลับที่ไม่เปิดเผยของเขา เกี่ยวข้องกับบริษัทพลังงานของยูเครนระหว่างปี 2014 ถึง 2020 คดีนี้เงียบงันและไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด
คาร์ลสันสรุปว่า “ใครบางคนจ่ายหลายหมื่นดอลลาร์ต่อเดือนเพื่อบอกคนอเมริกันและโลกว่ารัสเซียไม่ดี และเราจำเป็นต้องยืนหยัดเคียงข้างยูเครนเพราะประชาธิปไตย แม้ว่าเราจะเป็นฝ่ายโค่นล้มระบอบประชาธิปไตยในยูเครนมาก่อนก็ตาม เมื่อรู้อย่างนี้แล้ว บางทีอาจไม่แปลกใจเลยที่โจ ไบเดนสรุปว่าวลาดิมีร์ ปูตินเป็นคนไม่ดี”