คาบ้านอีกแล้ว!2ฝ่ายบุกเมนต์สนั่น ฟังไม่ขึ้น อ้างถูกใส่ร้ายมันง่ายเกินไป?

1303

จากที่ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก ถึงความพยายามอดทนอดกลั้นกับความพยายามที่จะใส่ร้ายป้ายสี ทำลายความน่าเชื่อถือและชื่อเสียงของโดยคนกลุ่มหนึ่งที่สนับสนุนเครือข่ายเผด็จการอนุรักษ์นิยมนั้น

ทั้งนี้ข้อความบางช่วงที่นายธนาธร โพสต์ลงเฟซบุ๊ก ระบุว่า “คนกลุ่มนี้ปลุกปั้น แต่งเรื่องไม่จริง พูดซ้ำ ๆ ทุกวัน เพื่อให้ชื่อเสียงผมเสียหาย เพื่อให้ประชาชนเกลียดชังผม ถึงวันนี้มีคนจำนวนหนึ่งเข้าใจผมผิดเพราะการกระทำของคนกลุ่มนี้

ในครั้งนี้ พวกเขากล่าวหาว่าผมแย่งวัคซีนคนแก่ กล่าวหาว่าผมด้อยค่าวัคซีนแต่กลับไปฉีดเสียเอง นำหลักฐานผิดฝาผิดตัว มาผูกเรื่องราวให้ประชาชนเข้าใจว่าผมใช้อำนาจบาตรใหญ่แซงคิวประชาชน พวกเขาร่วมมือกับรัฐบาลเผด็จการ นำข้อมูลส่วนบุคคลของผม ออกมาเปิดเผยในที่สาธารณะเพื่อสร้างเรื่องหลอกลวงเหล่านี้

ดังนั้นผมจึงขอใช้สิทธิดำเนินการฟ้องคดีตามกฎหมายต่อคนกลุ่มนี้ และต่อองค์กรรัฐที่เกี่ยวข้อง เพื่อปกป้องไม่ให้รัฐนำข้อมูลส่วนบุคคลที่ตนเองถืออยู่ในมือมาใช้เป็นเครื่องมือเพื่อสร้างความเกลียดชังในหมู่ประชาชน รวมถึงทำลายผู้ที่เห็นต่างกับรัฐอีกต่อไป”

ต่อมาเมื่อข้อความของนายธนาธรที่ได้โพสต์เผยแพร่ออกไปสู่โลกโซเชียลฯ ก็ทำให้ประชาชนจำนวนมาก เข้าไปร่วมแสดงความคิดเห็น ซึ่งส่วนใหญ่สนับสนุนนายธนาธรให้ฟ้องร้อง แต่ก็มีความเห็นจำนวนหนึ่ง ซึ่งเป็นส่วนน้อยก็มีท่าทีที่น่าสนใจ ในการตั้งประเด็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ เช่น

“ขอสนับสนุนการฟ้องรัฐบาลไม่ว่าในช่องทางใดค่ะ ทำประเทศไทยใหเป็นอารยะเสียที บอกคำเดียวว่าโกรธ”

“อยากให้ฟ้องเหมือนกัน ตอนสืบพยานคงสนุกน่าดู”

“เรื่องการฉีดวัคซีน ผมมองว่า ฟังไม่ขึ้น #แต่ การนำข้อมูลส่วนตัวมาเผยแผ่ในโลกโซเชียล ผมมองว่าไม่ควรจริงๆ #การอ้างถูกใส่ร้ายมันง่ายเกินไปครับ #เพราะว่าไม่ว่าใครๆที่อยู่ฝั่งตรงข้ามสามารถอ้างเหตุถูกใส่ร้ายได้หมด #ข้างเดียวกันเท่านั้นถึงจะเชื่อครับท่าน #พยานหลักฐานครับถึงจะฟังขึ้น”

“คนมีการศึกษาย่อมรู้ดีว่าอะไรเป็นอะไรค่ะ สนับสนุนคุณธนาธรนะคะ ความหวังของพวกเรา”

“ตอบให้ได้นะครับ ว่าลงทะเบียน หรือที่คุณบอกว่าแจ้งความประสงค์จะฉีดหน่ะ ทำยังไงตอนไหน ผ่านกระบวนการไหน ของทางภาครัฐแบบตรงไปตรงมา พูดลอยๆใครก็ทำได้ ต้องมีหลักฐานคนทั่วไปเขาถึงจะเชื่อนะครับ ส่วนคิดว่าใครทำละเมิดคุณก็ฟ้องไปเลย จะได้เครียล์ๆจบๆ กันไป”

“จริงๆแค่คุณออกมาชี้แจงว่าการที่ไปฉีดวัคซีนในวันนั้นมีขั้นตอนอะไรยังไง เอาหลักฐานออกมาโชว์ให้ดูเลยก็จบมั้ยคะ ทุกคนก็จะได้เข้าใจแค่นั้นเอง”

“ต้องฟ้องเลยครับ จะได้สืบสาวเรื่องราวหาหลักฐานในประเด็นต่างๆ ที่ประชาชนสงสัยให้ชัดเจน – ลงทะเบียนแบบไหน? – ข้ามเขต? – นอกเวลา?”

 

“เรียนด้วยความเคารพนะครับ ผมขอตั้งคำถามนะครับ ผมพึ่งรู้นะครับว่าข้อมูลการฉีดวัคซีนทำให้คนเกลียดชังได้ ผมก็เห็นหลายคนก็โชว์ใบเวลาฉีดวัคซีนทั้งนั้น”

“ได้สิ ทำไหมอ่ะ แยกก่อนนะ โชว์ประวัติฉีดวัคซีนเองกับ(ถูก)เอามาลงแฉ มันไม่เหมือนกัน ลองคิดว่า มีคนเอาประวัติวัคซีนน้องหรือพ่อแม่น้องมาลงในเน๊ตสิ ลองคิดมุมนี้ดู ถ้าคุนยังไม่โอเคก็ไม่แปลกที่คนอื่นจะไม่โอเค!!”

“อ่ะ ฟ้องก็ส่วนฟ้องครับ มาว่ากันเรื่องข้อมุลที่หลุดดีกว่า ว่ามันเป็นข้อมูลจริงมั้ย วิธีพิสูจน์ก็ง่าย ๆ ครับ คุณธนาธรกดแอพหมอพร้อม live โชว์เลยว่าข้อมูลไม่ตรงกัน แค่นั้นเอง”

“แล้วปลอมหรือจริงครับ”

“เขาเรียกข้อมูลส่วนบุคคลคับ คนที่เขาลงเองไม่ผิดอยู่แล้วคับ เขาเลือกจะเปิดเผยเอง แต่นึกภาพตาม เขาลงข้อมูลส่วนบุคคลคุณ แล้วมีวัตถุประสงค์ ใส่ร้ายบางอย่างเช่น การศึกษาคุณอาจจะปลอม

ทั้งหมดทั้งมวลนี้ ตอนนี้จะมีกฎหมาย pdpa เรื่องข้อมูลส่วนบุคคลดิจิตอล เพื่อป้องกันรัฐหน่วยงานเอาข้อมูลส่วนบุคคลไปเปิดเผยหรือใช้วัตถุประสงค์อื้น เช่น คุณจ่ายค่าทางด่วน หน่วยงานรัฐคุณเปิดเผยข้อมูลคุณ ให้บริษัทรถยนต์ไปหาผลประโยชน์ทางธุรกิจ เวลาเดินทางรถที่ใช้ ได้ เป็นต้น”

“ประวัติการฉีดวัคซีนก็ลงไป มันมีผลกระทบขนาดนั้นเลยเหรอครับ ผมเห็นลงกันทั่วเมือง แต่ถ้าเขาจะฟ้องก็ฟ้องไปสิครับ มันเป็นสิทธิของเขา แต่ถ้ามีคนสงสัยแล้วตั้งคำถาม ก็คงไม่ผิดใช่ไหมครับ”