หลังจากเมื่อวันที่ 15 ก.ย. 64 ที่ผ่านมา ศาลอ่านคำสั่งศาลอุทธรณ์ภาค 1 อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว นายพรหมศร วีระธรรมจารี, นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน , นายชาติชาย แกดำ, นายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือ ไมค์ และ น.ส.ปนัดดา ศิริมาศกุล ผู้ต้องหาในความผิดฐานมั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ใช้กำลังประทุษร้าย
ขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้ายหรือกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดให้เกิดการวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง ร่วมกันจัดกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่โรคในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดรวมตัวมากกว่า 5 คน, ร่วมกันทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่จนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจ และร่วมกันทำให้เสียทรัพย์ แต่ปรากฎว่านายพริษฐ์ หรือ เพนกวิน มี 2 คดี ที่ถูกอายัดตัวที่สน.บางเขน คดี ม.112 แสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ แต่ได้มีหนังสือยกเลิกการอายัดตัว ซึ่งผู้ต้องหายังมีหมายขังระหว่างไต่สวนมูลฟ้องหรือพิจารณาของศาลอาญาอีก 1 คดี จึงยังไม่สามารถปล่อยตัวได้ และเรือนจำฯ ได้ทำหนังสือขออนุญาตกรมราชทัณฑ์เพื่อย้ายไปคุมขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร
ต่อมาเมื่อวันที่ 26 ต.ค. 2564 นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล หรือ เจี๊ยบ ก้าวไกล ได้เข้ายื่นจดหมายเปิดผนึกถึงประธานศาลฎีกา ให้คืนสิทธิการประกันตัวให้ผู้ต้องหาคดีการเมือง โดยมีแกนนำราษฎร 5 ราย ซึ่งนางอมรัตน์ ได้เซ็นขอใช้ตำแหน่งส.ส. ยื่นประกันตัวเพนกวิน พริษฐ์ ชิวารักษ์ และเขียนว่าเป็นคนรู้จัก ปรากฎว่า ศาลไม่อนุญาตให้ประกันตัวอานนท์ เพนกวิน ไผ่ ไมค์ เบนจา ด้วยเหตุผลว่า “เนื่องจากไม่มีเหตุใหม่ให้เปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิม”
ทำให้มีกระแสชื่นชม เจี๊ยบ ก้าวไกล ที่ทำหน้าที่ช่วยเหลือแกนนำที่ต้องติดคุก แต่ในอีกมุมหนึ่งต้องยอมรับว่า นักการเมืองมักออกตัวหนุนช่วยเหลือทางกลุ่มราษฎรมากกว่า เพราะเพนกวินก็นับถือเจี๊ยบ ก้าวไกล และตัวของส.ส.คนดัง ก็รักเพนกวินเหมือนลูก เมื่อเทียบกับตอนนี้กลุ่มทะลุแก๊ส มีคนถูกจับดำเนินคดี แต่ไร้การช่วยเหลือ ก่อนหน้านี้นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ได้ทวีตข้อความ โยนความผิดให้เจ้าหน้าที่คฝ. ว่าที่ผ่านมา มีเจ้าหน้าที่คฝ.เข้ามาในพื้นที่ เหตุการณ์ที่แยกดินแดงจึงบานปลาย อีกทั้งยังมีนายธนาธร นายปิยบุตร เคยหนุนกลุ่มม็อบดินแดง แต่พอเกิดเรื่อง มีคดีติดตัวมวลชน จะเห็นว่านักการเมืองกลุ่มนี้จะยื่นมือช่วยกลุ่ม 3 นิ้วก่อน และกลุ่มทะลุแก๊สก็ยังโพสต์ระดมเงินบริจาคต่อเนื่อง เพราะอ้างว่าไม่มีใครช่วยเหลือ บางรายต้องติดคุกหมดอนาคต
อย่างไรก็ตามโซเชียลจึงตั้งคำถามถึงความเท่าเทียม ในฐานะที่มวลชนหลายกลุ่มก็ออกมาเรียกร้องขับไล่รัฐบาลเช่นกัน แต่กลับถูกเลือกปฏิบัติ และเกิดข้อสงสัยว่า นักการเมืองก็ต้องการโหนกลุ่มที่ได้ผลประโยชน์และกลุ่มไหนที่รู้ว่าเข้าไปยุ่งแล้วเสี่ยงเสียหายกว่าเดิม ก็ต้องตัดทิ้ง