จากกรณีที่คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดระยอง ได้แถลงการณ์รายงานสถานการณ์โควิด-19 เนื่องจากตรวจพบผู้ติดเชื้อโควิดเพิ่มอีก 37 คน จากการไปเที่ยวบ่อนการพนันใน อ.เมืองระยอง และมาบตาพุด
ซึ่งมีห้องคับแคบแออัด และอาจเป็นแหล่งแพร่เชื้อที่อันตราย หวั่นจะเกิดแพร่ระบาดใหญ่คล้ายกรณีสนามมวย
โดยต่อมานายชาญนะ เอี่ยมแสง ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง เปิดเผยระบุว่า หลังจากไม่มีผู้ป่วยมากว่า 200 วันแล้ว ตั้งแต่การระบาดระลอกแรก แต่เมื่อวันที่ 23 ธ.ค. 2563 มีคนชาว จ.ระยอง ไปหาหมอที่ รพ.รามาฯ กทม. พบว่าติดเชื้อโควิด ก่อนประสานมายัง จ.ระยอง จึงออกไปสืบค้น ก็พบว่าญาติของผู้ป่วยรายดังกล่าวติดเชื้อเพิ่มอีก 1 คน และทราบผลเมื่อวันที่ 24 ธ.ค. จึงนับว่าเคสที่ ร.พ.รามาฯ เป็นของ กทม.
ทั้งนี้จ.ระยองพบผู้ป่วยรายแรกวันที่ 24 ธ.ค. จากนั้นวันที่ 25 ธ.ค.พบอีก 8 ราย และเมื่อวันที่ 26 ธ.ค. พบผู้ป่วยที่โรงพยาบาลในระยอง 18 ราย และพบที่โรงพยาบาลเอกชน 2 แห่งอีก 9 ราย ทำให้วันนี้มีผู้ติดเชื้อ 27 ราย และรวมตั้งแต่วันแรกเป็น 36 คน โดยมาจากบ่อนพนันแห่งหนึ่งในพื้นที่ จ.ระยอง เบื้องต้นได้สั่งเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดในพื้นที่ อ.เมืองระยอง เนื่องจากผู้ป่วยทั้งหมดยังอยู่ในพื้นที่ อ.เมือง
ขณะที่ทางด้านนพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยถึงการติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ในกลุ่มก้อนใหม่ (Cluster) ใน จ.ระยอง จากการรายงานเบื้องต้นใน จ.ระยอง พบกลุ่มผู้ติดเชื้อจากการไปพื้นที่เสี่ยง คาดว่าเป็นการเล่นพนัน แต่ยังไม่ทราบว่าถูกหรือผิดกฎหมาย รวม 9 ราย และรอผลอีก 4 ราย
ขณะนี้ทีมงานได้ลงไปสอบสวนและควบคุมโรคอย่างเร่งด่วน เบื้องต้นในกลุ่มนี้มีกิจกรรมเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อ คือ กิจกรรมที่อยู่ในห้องพื้นที่จำกัด อากาศไม่ถ่ายเท มีการตะโกนเสียงดัง ใกล้ชิดกันจำนวนมาก มีความเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อสูง
ทั้งนี้ผู้ติดเชื้อรายดังกล่าวประกอบด้วย
รายที่ 1 หญิง 55 ปี
รายที่ 2 หญิง 51 ปี อาศัยร่วมบ้านกับรายที่ 1
รายที่ 3 หญิง 51 ปี ขับรถให้รายที่ 1
รายที่ 4 หญิง 62 ปี เป็นผู้สัมผัสรายที่ 3
รายที่ 5 หญิง 44 ปี เป็นน้องสาวของรายที่ 1 และ 2
รายที่ 6 ชาย 45 ปี เป็นผู้สัมผัสรายที่ 5
รายที่ 7 ชาย 26 ปี เป็นหลานของรายที่ 1 และ 2
รายที่ 8 หญิง 60 ปี เป็นมารดาของรายที่ 2
รายที่ 9 ชาย 55 ปี เป็นผู้สัมผัสรายที่ 1
อย่างไรก็ตามจากเหตุการณ์ดังกล่าวที่ได้เกิดขึ้นนั้น ทางด้านนายชาญนะ เอี่ยมแสง ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง ได้แถลงเปิดเผยว่า กรณีมีการสอบถามเกี่ยวกับความล่าช้าในการประกาศจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด และไทม์ไลน์ของผู้ติดเชื้อ ความจริงแล้วไม่ได้ปิดบัง แต่จำเป็นต้องตรวจสอบอย่างละเอียด เพื่อความถูกต้องแม่นยำ จึงไม่สามารถประกาศได้ทันที แต่ต่อไปศูนย์ประสานการปฏิบัติโควิด-19 จ.ระยอง วันนี้มียอดผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นจากยอดวันที่ 25 ธ.ค. ที่มีจำนวนทั้งหมด 7 ราย ซึ่งจังหวัดจะเป็นผู้แถลงจำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นอีกครั้ง
จ.ระยอง มีผู้ป่วยจำนวนมาก โดยพบวันแรก 1 ราย วันที่ 2 พบอีก 6 ราย รวมเป็น 7 ราย กระทั่งวันนี้พบเพิ่มถึง 29 ราย จึงสรุปว่า จ.ระยองพบผู้ติดเชื้อทั้งหมด 36 ราย โดยต้นเหตุมาจากบ่อนการพนันแห่งหนึ่ง และเป็นผู้มีสัมพันธ์เชื่อมโยงกับรายแรกทั้งหมด เบื้องต้นสั่งปิดสถานที่บางแห่งในพื้นที่ อ.เมือง จ.ระยอง พร้อมยกระดับจากพื้นที่กลุ่มเฝ้าระวัง มาเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุด ส่วนเรื่องบ่อนการพนันเตรียมดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด
สำหรับสถานที่สั่งปิดคือ โรงเรียนใน อ.เมืองทุกแห่ง โรงมหรสพ สถานบริการผับ บาร์ สถานบันเทิง สวนน้ำ สถานที่ออกกำลัง สถานดูแลผู้สูงอายุ (ยกเว้นที่อยู่ประจำ) สนามมวย สนามชนไก่ กัดปลา ร้านเกม ร้านเน็ต สถานที่สักลาย อาบอบนวด นวดแผนไทย สถานเสริมความงาม ห้างสรรพสินค้า ยกเว้นซูเปอร์มาร์เก็ต เริ่มปิดตั้งแต่วันที่ 28 ธ.ค. จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง ขณะที่ชายหาดและสถานที่ท่องเที่ยวยังเปิดปกติ ยืนยันไม่ได้ล็อกดาวน์ ยังสามารถเดินทางมาได้และไม่มีการกักตัว
“ไม่ต้องตื่นตระหนก เพราะหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจหาผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดมาสอบสวนโรคแล้ว โดยพื้นที่เกิดการระบาดอยู่ในพื้นที่อ.เมืองเท่านั้น”
แต่หากย้อนกลับไปในช่วงเดือนก.ค. 2563 ชาวระยองต้องฝ่าวิกฤตกับเคสทหารอียิปต์มาแล้วหนึ่งครั้ง โดยเหตุการณ์ตอนนั้น นายทหารกลุ่มนี้ได้รับอนุญาตให้เข้าไทยโดยไม่ต้องกักตัว ก่อนจะทราบว่าเป็นโควิด-19 และได้ออกไปเดินห้างกับเพื่อนทหารด้วยกัน สร้างความวิตกให้กับคนในพื้นที่อย่างมาก แม้จะผ่านมาหลายเดือน แต่ตอนนี้นับว่าเป็นฝันร้ายที่เกิดซ้ำของคนพื้นที่ระยองอีกครั้ง
