การสั่งระงับไอพีโอของบริษัทแอนท์กรุ๊ป ทำตลาดหลักทรัพย์และนักลงทุนทั่วโลกตกตะลึง ล่าสุดจีนเขย่าอาณาจักรแจ็ค หม่าต่อเนื่อง ทั้งลุยสอบอาลีบาบาพร้อมปรับเงิน อ้างพบพฤติกรรมเข้าข่ายผูกขาด โลกทุนนิยมมองไม่แฟร์ ชาวบ้านลือว่ากลั่นแกล้งเพราะหัวแข็งต่อผู้นำ ส่วนจีนชี้ผิดนโยบายพรรค-รัฐบาลจีนที่ต้องการควบคุมการผูกขาดของรายใหญ่ ที่ส่งผลกระทบต่อบริษัทเกิดใหม่และผู้บริโภค โลกจะเชื่อหรือไม่ก็ตาม แต่เหตุการณ์เหล่านี้ส่งผลให้ราคาหุ้นของอาลีบาบา ปรับตัวลดลง 6%ทันที
เมื่อว้นที่ 24 ธ.ค. 2563 สำนักข่าวรอยเตอร์ได้เสนอรายงานลำดับเหตุการณ์
เหตุการณ์เบื้องหลังจีนสอบสวนอาณาจักรแจ็คหม่า โดย จีนได้ทำการสืบสวนสถานะและบทบาทการดำเนินธุรกิจของอาลีบาบากรุ๊ป เกี่ยวกับพฤติกรรมเข้าข่ายผูกขาดธุรกิจ และจะเรียกแอนท์กรุ๊ปเข้าพบในเร็วๆนี้ หลังจากสั่งห้ามอาณาจักรอี-คอมเมิร์ซและยักษ์ฟินเทคแห่งนี้ทำไอพีโอตลาดหลักทรัพย์ ทำช็อกกันไปทั้งโลก
Initial Public Offering:IPO หมายถึงการนำหุ้นของบริษัทไปขายในตลาดหลักทรัพย์ ให้กับคนทั่วไปเป็นครั้งแรก โดยทั่วไปนักลงทุนจะมองราคาไอพีโอแรกเข้าเป็นการสะท้อนความสำเร็จ การเป็นที่ยอมรับของนักลงทุนต่อบริษัทนั้นๆ ฉะนั้นเมื่อมีบริษัทหน้าใหม่ โดยเฉพาะบริษัทขนาดใหญ่ ย่อมเป็นที่จับตาของสาธารณชนและนักลงทุนทั่วโลก แอนท์กรุ๊ปก็เช่นกัน
ฝันของ “แจ็ก หม่า” เจ้าของอาลีบาบา ถูกดับลงเมื่อวันที่ 3 พ.ย.ที่ผ่านมา เมื่อทางการสั่งระงับการขายหุ้นไอพีโอ “แอนท์กรุ๊ป” เพียง 2 วันก่อนถึงกำหนด หลังนักลงทุนแห่จองซื้อถล่มทลาย หวังทุบสถิติไอพีโอใหญ่ที่สุดในโลกถึง 3.97 หมื่นล้านดอลลาร์ และล่าสุด สำนักงานกำกับและดูแลตลาดของจีน (SAMR) ได้ออกแถลงการณ์ออนไลน์ว่า ได้ทำการสอบสวนการดำเนินธุรกิจของอาลีบาบาเกี่ยวกับพฤติกรรมการผูกขาด
นอกจากนี้ ธนาคารกลางจีน แถลงว่า จะหารือกับ แอนท์กรุ๊ป บริษัทในเครืออาลีบาบา เพื่อชี้แนะแนวทางกำกับดูแลทางการเงิน การแข่งขันอย่างเป็นธรรมและการคุ้มครองสิทธิ์ตามกฎหมายตลอดจนผลประโยชน์ของผู้บริโภค
Ant Group เป็นการรีแบรนด์ Alipay ซึ่งเป็นบริการชำระเงินออนไลน์ของ Alibaba Group และเป็นแพลตฟอร์มการชำระเงินดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุดของจีนนั่นโดยเปลี่ยนชื่อเมื่อวันที่ 13 ก.ค. 2563 โดยมีการระดมทุนมาโดยตลอด จนกลายเป็นบริษัทฟินเทค (บริษัทการเงินออนไลน์) ที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลก
จีนชี้แจง เน้นหลักการแข่งขันที่เป็นธรรมควบคุมไม่ให้ผูกขาด
พีเพิล เดลี นสพ.ของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ระบุว่า การแข่งขันที่เป็นธรรมเป็นหลักการสำคัญ ของเศรษฐกิจการตลาด ในขณะที่การผูกขาดบิดเบือนการจัดสรรทรัพยากร เป็นอันตรายต่อผลประโยชน์ของผู้เล่นในตลาด และผู้บริโภค และยับยั้งความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ภาคอินเตอร์เน็ตจีนอาจได้รับประโยชน์จากการสนับสนุนของรัฐบาล แต่อุตสาหกรรมนี้ต้องทำตามกฎหมายและระเบียบต่างๆ หากปล่อยให้ขยายกิจการอย่างป่าเถื่อน ไร้ระเบียบ ขาดความรับผิดชอบ อุตฯจะไม่พัฒนาอย่างยั่งยืน
มาดูว่าไทมไลน์เหตุการณ์ที่แอนท์กรุ๊ปเจอเรื่องไม่คาดคิด
14 ก.ย. 2563 –จีนประกาศกฎหมายควบคุมบริษัทด้านการเงิน
จีนได้ประกาศใช้กฎหมายควบคุม บริษัทด้านการเงิน ซึ่งธนาคารกลางแห่งประเทศจีนได้กล่าว่ามีช่องโหว่ผิดกฏหมายในบางบริษัทฯ และนายปัน กงเชง รองประธานธนาคารแห่งประเทศจีนระบุชื่อ “แอนท์กรุ๊ป” เป็นหนึ่งในนั้น
21 ต.ค. 2563 – แอนท์ได้รับไฟเขียวจากก.ล.ต.จีน
แอนท์ผ่านการตรวจสอบขั้นสุดท้ายจากหน่วยติดตามความมั่นคงเพื่อที่จะจดทะเบียนไอพีโอในตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้ และชี้แจงด้านกฎระเบียบผ่านเรียบร้อย
24 ต.ค. 2563 – แอนท์ได้รับความนิยมในนักลงทุนสถาบัน
เมื่อมีการประกาศต่อสาธารณชนโดยผู้ควบคุมกฎระเบียบของจีน แจ็ค หม่า มหาเศรษฐีจีนผู้ร่ำรวยมหาศาลได้กล่าวว่า ด้านการเงินและกฎระเบียบต่างๆจะต้องมีการปฏิรูปไปสู่การเติบโตอย่างยิ่งยวด เขาได้เปรียบเทียบว่า คณะกรรมการกำกับดูแลระบบการเงินการธนาคารของจีน(บาเซิล)เป็น “สมาคมคนแก่”
26 ต.ค. 2563 –“สมาคมคนแก่” แผลงฤทธิ์?
แอนท์ได้เป็นขวัญใจกลุ่มนักลงทุนทางยุทธศาสตร์ของโลก ราคาหุ้นของแอนท์กรุ๊ป ไอพีโอและการลงทุนของนักลงทุนทางยุทธศาสตร์ฯ รวมทั้ง เทมาเส็กโฮลดิ้งของสิงคโปร์, นักลงทุนสิงคโปร์และกองทุนความมั่นคงของอบูดาบี บริษัทลงทุนขนาดใหญ่ของจีนและกองทุนรวม
30 ต.ค. 2563 –นักลงทุนจอง 3 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ
นักลงทุนรายย่อยสั่งซื้อ 3 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ มูลค่าเทียบเท่ากับจีดีพีของสหราชอาณาจักร ซึ่งพวกเขาเดิมพันกับสถานภาพการเป็นบริษัทให้บริการด้านการเงินอย่างแอนท์กรุ๊ปในประเทศจีนอย่างสูง
31 ต.ค. 2563 -ปักกิ่งตั้งธงคุมฟินเทค
คณะกรรมการการพัฒนาและความมั่นคงทางการเงิน (Financial Stability and Development Committee) ซึ่งเป็นระดับรัฐมนตรีจีน นำโดย รองประธานหลิว เหอ ตั้งธงไว้ว่าธุรกิจฟินเทคพัฒนาอย่างรวดเร็ทำให้เกิดความเสี่ยง ข้อถกเถียงในที่ประชุมที่ต่อมามีการแพร่ข่าวในวงกว้างว่าเป็นปฏิกิริยาที่รัฐบาลตอบสนองต่อการเติบโตของแอนท์กรุ๊ป
2 พ.ย. 2563 –ผู้ควบคุมระเบียบด้านการเงินประกาศคุยกับแอนท์กรุ๊ป
ผู้คุมระเบียบด้านการเงินของจีนอย่างน้อย 4 คนกล่าวว่าพวกเขาได้รับมอบหมายให้ไปคุยแลกเปลี่ยนกับแจ็คหม่าและผู้บริหารแอนท์กรุ๊ปอีก 2 คน พวกเขากล่าวว่าการออกมาตรการควบคุมที่เข้มงวดแก่บริษัทให้บริการทางการเงินออนไลน์ ช่วยป้องกันความเสี่ยงปัญหาทางการเงินและป้องการปัญหาดอกเบี้ยเพิ่มสูง
3 พ.ย. 2563 –ตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้เจ็บหนัก, หลังแอนท์กรุ๊ปถูกห้ามขายที่ตลาดฮ่องกง
ตลาดหลักทรัพย์เซี่ยงไฮ้บาดเจ็บจากการที่แอนท์กรุ๊ปถูกระงับขายไอพีโอจาก สตาร์มาร์เก็ต เป็นผลข้างเคียงจากการถูกระงับขายไอพีโอในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง
10 พ.ย. 2563 –จีนร่างกม.ต่อต้านการผูกขาดตลาดใช้กับแพลตฟอร์มบริการทางอินเตอร์เน็ต
กฎหมายการเงินกำกับดูแลแพลตฟอร์มออนไลน์ เป็นร่างกฎหมายเพื่อควบคุมการปล่อยสินเชื่อของฟินเทค โดยกำหนดให้แพลตฟอร์มออนไลน์ต่าง ๆ ที่ปล่อยสินเชื่อจะต้องมีเงินทุนสำรองอย่างน้อย 30% จากวงเงินที่ปล่อยกู้ ขณะที่ปัจจุบัน แอนท์กรุ๊ป ปล่อยสินเชื่อโดยมีทุนสำรองเพียง 2% ของสินเชื่อ จึงทำให้แอนต์กรุ๊ปเสี่ยงต่อการทำผิดกฎหมาย และ จะทำให้มีการตรวจสอบมากขึ้นต่อตลาดอี-คอมเมิร์ซ และบริการชำระเงินของอาลีบาบา กรุ๊ป
23 พ.ย. 2563 –ซีอีโอของอาลีบาบากล่าวว่าการควบคุมแพลตฟอร์มถูกต้องเหมาะสม
แดเนียล จาง ซีอีโออาลีบาบากรุ๊ปกล่าว ในงาน เวิร์ลอินเตอร์เน็ต คอนเฟอร์เรนซ์ว่า การควบคุมมากขึ้นของรัฐบาลจีนต่อแพลตฟอร์มอินเตอร์เน็ต ทั้งเป็นสิ่งที่จำเป็นและเป็นเวลาที่เหมาะสม
14 ธ.ค. 2563 –จีนสั่งปรับอาลีบาบา และ เทนเซนต์
จีนเตือนยักษ์อินเตอร์เน็ตว่า ไม่อาจปล่อยให้เกิดการผูกขาด และให้เตรียมรับการตรวจสอบที่เข้มงวดขึ้น และได้สั่งปรับและประกาศสอบสวนข้อตกลงต่างๆที่เกี่ยวกับอาลีบาบา กรุ๊ป และ เทนเซนต์ โฮลดิ้งส์
