เปิดคลิปนาที “บิ๊กช้าง”ถล่มก้าวไกลเละคาสภาปูดไอโอ โดนจับได้ใช้เอกสารปลอม

2281

จากการอภิปรายไม่ไว้วางใจของ ณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.พรรคก้าวไกล ที่ได้สอบถาม พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ถึงคลิปวิดีโอ และรูปต่างๆที่ตนใช้อภิปรายถึงปฏิบัติไอโอนั้นจริงหรือไม่นั้น

ทั้งนี้นายณัฐชา ระบุว่า การที่บอกว่าลายเซ็นไม่เหมือนบ้าง พิมพ์ชื่อผิดบ้าง ตนไม่อาจไปสอนภาษาไทยในกองทัพได้ ส่วนเรื่องเลขที่หนังสือในกองทัพ คิดว่าไม่ได้เป็นเรื่องที่เหนือบ่ากว่าแรงของรมช.กลาโหม เพราะเป็นหนังสือภายในภายใต้การบังคับบัญชา แต่สิ่งที่ต้องตอบชัดๆกับประชาชนวันนี้ว่าภารกิจปลอมตัวเป็นประชาชนที่มอบหมายให้หน่วยงาน กรม กองต่างๆเป็นความจริงหรือไม่ และภารกิจหลักฐานที่ได้มาชี้แจงในสภาฯในแต่ละภาพมีบุคคลจริงๆ ชั้นยศจริง

“ส่วนเอกสารที่ท่านบอกไม่จริง แต่ผมบอกว่าจริง ขอให้ไปว่ากันในชั้นศาล ผมยินดีรับผิดชอบทุกเอกสารที่นำมาเสนอในที่นี่ ยินดีให้ศาลตัดสิน และขอเชิญพยานทั้ง 100 กว่าคนในบัญชีรายชื่อ และ กอ.รมน. 20 กว่าคน เพราะยกหูโทรแล้ว เขาบอกเองว่าไม่ค่อยเต็มใจทำเท่าไหร่ แต่เป็นการบังคับบัญชาตามสายงาน ดังนั้นขอให้ไปว่ากันในชั้นศาล”

ด้านพล.อ.ชัยชาญ ชี้แจงว่า ตอบไปชัดเจนแล้ว เอกสารหลักฐานที่ให้มาเป็นการตรวจสอบเบื้องต้นว่าเป็นเอกสารที่ไม่จริง ซึ่งตอนนี้กองทัพบก และกองทัพภาคที่ 2 ที่ได้รับความเสียหายกำลังตรวจสอบเอกสารทั้งหมด รวมถึงคลิปที่นำมาอภิปรายนั้นเป็นจริงหรือไม่ เพื่อดำเนินการต่อไป

“เรื่องเหล่านี้ได้ชี้แจงในสภามา 2-3 ครั้งแล้ว พล.อ.ประยุทธ์ และ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ไม่เคยมีนโยบายสั่งการให้หน่วยงานใดของกองทัพหรือ กอ.รมน.ไปปฏิบัติการข่าวสารในลักษณะบิดเบือนหรือไปให้ร้ายกับบุคคลใดทั้งสิ้น แต่ปัจจุบันในโซเชียลมีการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารที่บิดเบือน และมีเฟคนิวส์ มีข่าวลวง ข่าวปลอม เพื่อประโยชน์ของกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งเป็นการสร้างความเข้าใจผิดในประชาชน และก่อให้เกิดความเสียหายต่อองค์กร กระทบต่อความสงบเรียบร้อยของสังคมและประเทศด้วย เรื่องนี้หน่วยงานความมั่นคงจำเป็นต้องก้าวทันต่อสถานการณ์ มีการติดตามข้อมูลที่เผยแพร่ เพื่อสร้างการรับรู้ให้กำลังพลของหน่วยเอง รวมถึงครอบครัวและประชาชนทั่วไป

สำหรับเอกสารที่ส.ส.นำมาอภิปรายนั้น ทางกองทัพและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าไม่เป็นเอกสารจริง  พบจุดพิรุธต่างๆ อาทิ หนังสือที่นำมาแสดง ระบุว่าทำขึ้นในช่วงมี.ค.-ก.ค. 2564 หากสังเกตจะพบว่าลายเซ็นของแม่ทัพภาคที่ 2 ในเอกสารนั้นไม่เหมือนกับลายเซ็นของแม่ทัพภาคที่ 2 คนปัจจุบัน ซึ่งเอกสารที่นำมาแสดงเป็นลายเซ็นของอดีตแม่ทัพภาคที่ 2 คนก่อน และผู้อำนวยการกองยุทธการกองทัพภาคที่ 2 ชื่อที่ลงนามในเอกสารได้ย้ายไปลงตำแหน่งเป็นเวลาปีกว่าแล้ว

รวมถึงลายเซ็นของแม่ภาคที่ 2 ก็ไม่ตรงกับของจริง นามสกุลรองแม่ทัพภาคที่ 2 ก็พิมพ์ไม่ถูกต้อง ซึ่งลักษณะเช่นนี้ไม่น่าเกิดขึ้นหากเป็นเอกสารจริง รวมถึงรายชื่อคณะกรรมการศูนย์สารสนเทศกองทัพภาคที่ 2 ที่เขียนตำแหน่งและยศนั้นก็ไม่ถูกต้อง หากเป็นหนังสือฉบับจริงยศกับตำแหน่งต้องถูกต้อง และที่สำคัญได้ตรวจสอบหนังสือดังกล่าวแล้ว เลขที่หนังสือที่ออกหนังสือนั้นถึงวันที่ 31 ส.ค. 2564 มีเพียง 815 ฉบับ และยังไม่ถึงเลขที่ 1148 ตามหนังสือที่พรรคก้าวไกลนำเสนอ ” พล.อ.ชัยชาญ กล่าว

ต่อมา พลตรีสวราชย์ แสงผล โฆษกกองทัพภาคที่ 2 ขอชี้แจงต่อกรณี ผู้อภิปราย คือนายณัฐชา โดยกองทัพภาคที่ 2 ขอยืนยันว่าเอกสารดังกล่าวข้างต้นถือเป็นเอกสารอันเป็นเท็จ ที่ได้มีการปลอมแปลงทั้งรูปแบบไม่เป็นไปตามระเบียบของทางราชการ รวมทั้งการลงลายมือชื่อไม่ถูกต้องตามความเป็นจริง หน่วยจึงได้เข้าแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สถานีตำรวจภูธรเมืองนครราชสีมา เป็นหลักฐานแล้ว