จตุพร ปลุกปชช. หยุดร่ำไห้อยู่บ้าน ออกมาสู้! แจงTheTruth ไม่ได้รับเงินนายทุนจัดม็อบ ยันชาตินี้ยังไม่เคยเจอ “สารัชถ์-บุญชัย” ?
จากกรณีที่ทางกลุ่มไทยไม่ทน ได้ออกมาแถลงผ่านเพจ PEACE TV ในหัวข้อกลุ่มไทยไม่ทนแถลงข่าว ยัน 3 ก.ค. ยังชุมนุมไล่ประยุทธ์ โดยนายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำกลุ่มไทยไม่ทน ได้ประกาศว่า พรุ่งนี้ (29 มิถุนายน 2564) จะเดินทางไปยื่นหนังสือที่ทำเนียบรัฐบาล และในวันพุธ ที่ 30 มิถุนายน เวลา 13:00 น. พวกผมจะเดินจากลานเจษฎาบดินทร์ซึ่งเหมือนเป็นประตูของกรุงเทพฯ เป็นประตูเมือง โดยจะเดินไปยังศาลหลักเมือง ผ่านอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย อนุสรณ์สถาน ศาลฎีกา สนามหลวง เพื่อไปทำอย่างที่คนไทยมีความเชื่อ เพื่อให้คนไทยได้พ้นทุกข์ โดยขอบารมีศาลเจ้าพ่อหลักเมือง พระสยามเทวาธิราช พระแก้วมรกต ว่าบัดนี้ประเทศได้รับความทุกข์อย่างแสนสาหัส ประชาชนเดือดร้อนอย่างถ้วนหน้า ผู้ปกครองไม่ได้สนใจในการแก้ไขปัญหาของราษฎรอย่างที่พึ่งจะเป็น ขอบารมีศาลเจ้าพ่อหลักเมือง พระสยามเทวาธิราช พระแก้วมรกต ได้คุ้มครองประชาชนคนไทยด้วย พวกผมก็จะเริ่มเดินในเวลา 13:00 น เดินเลยครับเข้าแถวเรียงหนึ่ง เพื่อจะเดินไปจากลานเจษฎาบดินทร์ไปศาลเจ้าพ่อหลักเมือง ในวันพุธ ขอเชิญสื่อมวลชนร่วมทำข่าว ผมจะเดินกันไปไม่ถึง 20 คน
สำหรับ ในวันเสาร์ที่ 3 กรกฎาคม เมื่อมีข้อกำหนดฉบับนี้แล้ว ที่คณะไทยไม่ทน สามัคคีประชาชน ได้ประกาศนัดหมายในการชุมนุมที่สะพานผ่านฟ้าในเวลา 16:00 น. แล้วจะเคลื่อนไปยังทำเนียบรัฐบาลในเวลา 18.30 น.นั้น จะเหมือนเดิมหรือไม่ ผมขอยืนยันว่า เรายังเหมือนเดิม ให้พี่น้องประชาชนได้ใส่หน้ากาก พกแอลกอฮอล์ อย่าให้พระราชกำหนดบริหารราชการฉุกเฉินที่ออกข้อกำหนดฉบับ 25 นี้ ได้มาหยุดยั้งประชาชนเลย เราไม่มีอะไรกลัวมาตั้ง 24 ฉบับ แต่เมื่อข้อกำหนดนี้ มีเจตนาพิเศษตอนตี 1 จึงขอประกาศทายท้าว่า คนทุกข์ ทั้งแผ่นดินนั้น วันเสาร์ที่ 3 กรกฎาคม ยังนัดหมายกันเหมือนเดิม และเราก็พร้อมจะรับฟังประชาชนว่า ท่านคิดอ่านกันอย่างไร เราจะนอนรอความตายกันอยู่ที่บ้านหรือลุกขึ้นมาต่อสู้เพื่อเปลี่ยนแปลงให้รอดกันทั้งแผ่นดิน
ผมเรียนกับพี่น้องว่า นี่อาจจะเป็น 10 วันสุดท้ายในส่วนของผม อาจจะสิ้นอิสรภาพในช่วง 10 วันนี้ ผมก็ต้องทำทุกวิถีทาง ในขณะที่ผมยังมีอิสรภาพที่ได้ร่วมเคียงบ่าเคียงไหล่กับบรรดาหมู่มิตรและพี่น้องประชาชน และนั่นเป็นเรื่องเล็ก เรื่องใหญ่คือเราต้องมีความกล้า อย่าให้รัฐบาลนี้ได้สร้างความกลัวให้เกิดขึ้น ความเหลวแหลก และความไร้ประสิทธิภาพ ไร้ซึ่งจริยธรรมคุณธรรมในการแก้ไขปัญหานั้น และเกินกว่าเป็นความเป็นมนุษย์นั้นจะมาหยุดยั้งสิ่งที่ประชาชนกำลังต่อสู้อยู่ในขณะนี้ ทั้งที่จริง ผู้นำที่ดีนั้น วิกฤตคือโอกาส แต่นายกรัฐมนตรีคนนี้ มีโอกาสแต่สร้างวิกฤติทุกครั้ง
อีกประเด็นหนึ่งก็ไม่ต้องการจะเป็นการฟ้องร้อง ขอส่งเสียงไปยังคุณสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม หรือพี่ต้อย แห่งสำนักข่าวท็อปนิวส์ หรือใช้ชื่อ สนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม หรือจะเป็น ทรูธ หรือจะเป็นช่องทางใดก็ตาม ที่บอกว่าผมได้พูดเรื่องทุนผูกขาดพลังงาน เคยถามนายกรัฐมนตรีเรื่องนายกลาง แล้วอ้างว่า หลังจากที่ผมพูดมีลูกพี่ลูกน้องกับเจ้าของบริษัทนี้ ชื่อนายบุญชัย ได้มาจ่ายเงินให้กับผม ผมเตือนเอาไว้ก่อนว่า ด้วยความเป็นมิตรไมตรีว่า ชาตินี้ทั้งชาติ ตั้งแต่เกิดมาตั้งแต่ 5 ตุลาคม 2508 จนกระทั่งบัดนี้ ผมไม่เคยเจอนายสารัชถ์ หรือนายบุญชัย หรือใครก็ตามแม้แต่เพียงครั้งเดียว เพราะฉะนั้น ข้อความที่คุณไปเผยแพร่ตามสำนักข่าวของคุณนั้นเป็นความเท็จ 100% ให้แก้เสีย แล้วผมคิดว่าถ้าคุณรู้สึกอารมณ์ของประชาชน ถ้ายังเห็นว่าประชาชนมีความสุขภายใต้การบริหารของพลเอกประยุทธ์ ผมว่าคุณควรจะต้องไปพบแพทย์กันบ้างแล้ว เพราะทีปั่นกันอยู่มันเป็นความเท็จ เพราะเราไปยื่นหนังสือนายกรัฐมนตรี 4 ครั้ง แต่ละหัวข้อๆ วันนั้นเป็นหัวข้อเรื่องทุนผูกขาด ก็เลยพูดเรื่องทุนผูกขาด วันต่อไปก็เป็นอีกหัวข้อ วันเสาร์ที่ผ่านมาเราก็ยังพูดเรื่องทุนผูกขาดอยู่เลย
เพราะฉะนั้น อย่าเอาการใส่ร้ายมาทำลายกระบวนการต่อสู้ของประชาชนเลย คุณก็รู้ว่า มันเป็นความเท็จและเอามาปั่นมา ก็ไม่มีประโยชน์หรือว่าถ้าคุณยืนยันเป็นเรื่องจริง ผมก็จะดำเนินคดี แต่ว่า คุยฐานะรุ่นพี่รุ่นน้องกันในรามคำแหงกันมา แล้วผมต้องการให้คุณไปฟังเสียงประชาชนเสียงร้องไห้ของประชาชนบ้าง เพราะเขามีความทุกข์กันอย่างไร ไม่ใช่เชียร์กันอย่างหน้ามืดจนไม่รู้สึกความทุกข์ของราษฎรและไม่ใส่ร้ายภาคประชาชนกันแบบนี้