พรรคร่วมฝ่ายค้าน แถลงจี้ “ประยุทธ์” ลาออก ตั้งรบ.ชั่วคราว ! ย้อนดู3ตัวเลือกมาเป็นนายกฯแทน-คนไทยรับได้หรือ?
จากกรณีที่ วันนี้ (28 เมษายน 2564) พรรคร่วมฝ่ายค้านออกแถลงการณ์ นำโดยนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทยและผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ร่วมกันแถลงข่าว เรียกร้องให้พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ลาออก
เนื่องจากการบริหารประเทศเกือบ 7 ปีเต็ม แต่การบริหารประเทศกับล้มเหลวสร้างปัญหาและผลกระทบต่อประเทศ รวมถึงสร้างความทุกข์ยากแก่ประชาชนเป็นวงกว้างโดยเฉพาะในวิกฤตการระบาดของ โควิด-19 ไม่สามารถจัดการ จัดหาวัคซีน การกระจายวัคซีน และการฉีดวัคซีนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ประเทศไทยอยู่รั้งท้ายของภูมิภาค รวมถึงการบริหารจัดการเรื่องเตียง ทำให้ประชาชนนอนรอความตาย อีกทั้งรัฐบาลกลับเป็นต้นต่อการระบาดในหลายระลอก ขณะที่การบริหารด้านเศรษฐกิจตลอดระยะเวลา 7 ปี ทำให้ประเทศไทยเป็นหนึ่งประเทศที่ล้มเหลวและฟื้นตัวช้าที่สุดในโลก อีกทั้งยังล้มเหลวเรื่องการสร้างความเป็นหนึ่งเดียวของคนในประเทศสนับสนุนพวกพ้อง ทำลายคนที่เห็นต่างกับเห็นได้ชัดและสร้างความแตกแยกในสังคมอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน หลอกลวงประชาชนเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพียงเพื่อรักษาอำนาจ
นอกจากนี้ภายใต้รัฐธรรมนูญ 2560 แม้จะมีปัญหาการทุจริตเกิดขึ้นมากมายแต่สุดท้ายก็ไม่เคยเอาผิดใครได้จนทำให้การทุจริตคอร์รัปชั่นในรัฐบาลนี้สูงสุดเป็น ประวัติกาล ความล้มเหลว ไร้ความสามารถ ไร้ประสิทธิภาพ ทุจริต เพื่อตนเองหรือพวกพ้องและไร้ทิศทางในการบริหารราชการแผ่นดินหากปล่อยไปรังแต่จะสร้างความเสียหายให้ประเทศและประชาชนจนไม่สามารถที่จะกอบกู้กลับมาได้ กลายเป็นความเสียหายถาวรของประเทศ ทำให้ประเทศไทยพ่ายแพ้ต่อโรคระบาดโควิด-19 และเศรษฐกิจ ดังนั้น เพื่อระงับความเสียหายที่เกิดขึ้นรัฐบาลควรยุติบทบาทในการบริหารประเทศด้วยการลาออกทันที เพื่อเปิดโอกาสให้มีรัฐบาลที่เป็นมืออาชีพมีความรู้ความสามารถไม่ยึดติดกับอำนาจและผลประโยชน์เข้ามาบริหารประเทศ หากต้องการก้าวไปสู่ประเทศที่เป็นประชาธิปไตยมีความจำเป็นที่จะต้องตัดต้นตอของปัญหาที่ประกอบด้วยรัฐธรรมนูญปี 2560 และรัฐบาลภายใต้การนำของเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา
ขณะที่นายพิธา เจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวเพิ่มเติมว่า วันนี้พิสูจน์แล้วว่าปัญหาประเทศที่ล้มเหลวอยู่ในขณะนี้ไม่ได้เป็นเพราะอำนาจหรืองบประมาณแต่เป็นเพราะความล้มเหลวไร้ความสามารถของพลเอกประยุทธ์ จึง ควรที่จะยุติบทบาทด้วยการลาออกและหลังพลเอกประยุทธ์ลาออกให้มีการจัดตั้งรัฐบาลชั่วคราว เพื่อแก้ปัญหาโควิด-19 และแก้ไขรัฐธรรมนูญ จากนั้นก็ยุบสภา
ซึ่งก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 24 เมษายนที่ผ่านมา นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า เปิดห้องสนทนาทางแอพพลิเคชั่นคลับเฮาส์ ได้นำเสนอแนวคิด ในการบริหารธุรกิจในสถานการณ์โควิด ผ่านการสร้างพันธมิตรทางธุรกิจ โดยนายธนาธร กล่าวถึงสถานการณ์การเมืองที่หลายคนเริ่มพูดถึงความเป็นไปได้ที่จะมีการยุบสภาเกิดขึ้น โดยส่วนตัวแล้วเห็นว่า ต่อให้มีการยุบสภาเกิดขึ้นก็ไม่ใช่ช่วงเวลาที่เหมาะสม หากยุบสภาเวลานี้ กว่าที่จะได้รัฐบาลใหม่ขึ้นมาต้องใช้เวลาอย่างน้อย 3 เดือน อีกทางเลือกหนึ่งที่ผมเห็นว่า เป็นไปได้และเหมาะสมมากกว่า ก็คือการที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีต้องลาออก ให้นายกรัฐมนตรีคนใหม่เข้ารับตำแหน่งแทน
อย่างไรก็ตาม ย้อนไปเมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2563 นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้พูดถึงกรณีที่ว่า หากพลเอกประยุทธ์ลาออก แล้วใครจะมาเป็นนายกรัฐมนตรี ตามมาตรา 159 และบทเฉพาะกาล มาตรา 272 ของรัฐธรรมนูญ 2560 รัฐสภาต้องให้ความเห็นชอบด้วยเสียงมากกว่ากึ่งหนึ่งของรัฐสภา ให้ผู้ที่อยู่ในบัญชีรายชื่อที่พรรคการเมืองเสนอให้เป็นนายกรัฐมนตรีซึ่งมีอยู่ 3 คนที่เป็นที่น่าสนใจที่อยู่ในบัญชีนั่นก็คือ พรรคภูมิใจไทยที่เสนอ นายอนุทิน ชาญวีระกุล พรรคประชาธิปัตย์ เสนอ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ส่วนทางพรรคฝ่ายค้าน อย่างพรรคเพื่อไทย เสนอ นายชัยเกษม นิติสิริ