จากกรณีที่ก่อนหน้านี้มีการออกหมายจับนายไชยอมร แก้ววิบูลย์พันธุ์ หรือ แอมมี่ ในคดีเผาพระบรมฉายาลักษณ์ เจ้าหน้าที่ยังสืบทราบว่า มีบุคคลอื่นร่วมก่อเหตุในครั้งนี้ด้วย โดยเป็นผู้ชายอีก 2 คน และผู้หญิง 1 คน
และได้มีการรายงานความคืบหน้าจากการปฏิบัติหน้าที่ในการติดตามคดีการเผาพระบรมฉายาลักษณ์ ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยปรากฏ ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อว่า Molphawan Kangwantas ได้โพสต์ข้อความถึงการเข้าควบคุมตัวผู้เกี่ยวข้องในคดีมาสอบสวนว่า
“รวบ ลูกไม้ ญาณิศา สาวคนสนิท แอมมี่ ไชยอมร แก้ววิบูลย์พันธุ์ คาสนามบินสุวรรณภูมิ ตำรวจนำตัวสอบปากคำ ปมเอี่ยวเผาพระบรมฉายาลักษณ์ หน้า เรือนจำกลางคลองเปรม พบยังมีชายอีก 2 คน มีส่วนร่วมอยู่ระหว่างติดตามตัว”
ซึ่งมีการรายงานว่า เมื่อกลางดึกของเมื่อคืนที่ผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เชิญตัว เพื่อนสาวคนสนิทของนายแอมมี่ มาสอบสวน สำหรับ สาวคนดังกล่าวนั้น มีกำหนดเดินทางไปต่างประเทศในวันนี้ ระหว่างอยู่ที่สนามบินสุวรรณภูมิทางเจ้าหน้าที่ได้เชิญตัวมาสอบสวนเสียก่อนเลยจึงยังไม่ได้เดินทางไปต่างประเทศ
ซึ่งมารดาของนายไชยอมร ปฏิเสธที่จะให้ความเห็นในกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจมีการควบคุมตัวหญิงรายหนึ่งที่มีข่าวว่าเป็นแฟนของลูกชายโดยปฏิเสธว่าลูกชายยังไม่ได้มีแฟนใหม่หลังจากที่มีการเลิกรากับภรรยาเก่าไป
อย่างไรก็ตาม ต่อมา มีรายงานข่าวว่า พนักงานสอบสวนที่จะเข้าสอบปากคำแอมมี่เพิ่มเติม จะเป็นประเด็นที่เมื่อวานนี้ แอมมี่ ได้โพสต์ข้อความลงบนโซเชียลมีเดียส่วนตัวในทำนองให้การรับสารภาพว่า เหตุการณ์วางเพลิงเผาทรัพย์ ตนเองเป็นผู้ลงมือแต่เพียงผู้เดียว ไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติม ซึ่งหลังการสอบสวนปากคำเสร็จสิ้น ก็จะดำเนินการไปขอศาลออกหมายขังในช่วงบ่ายวันนี้
ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่า ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ได้ควบคุมตัว น.ส.ญาณิศา (สงวนนามสกุล) คนสนิทของแอมมี่ ได้ที่สนามบินสุวรรณภูมิ ขณะเตรียมเดินทางไปประเทศญี่ปุ่น จากการตรวจสอบปรากฎว่า น.ส.ญาณิศา ได้ทิ้งสัมภาระก่อนเดินทางออกจากสนามบินไป หลังพบว่าเจ้าหน้าที่มีการตรวจตราเข้มงวด ยืนยันว่ายังไม่มีการควบคุมตัวนางสาวญาณิศา ไว้ตามที่มีกระแสข่าว
โดยการตรวจสอบของทีมข่าวเดอะทรูธ ต่อไปถึงการอ้างชื่อ ลูกไม้ ญาณิศา นั้นก็พบข้อมูลว่าเมื่อปี2563 ยังเป็นนิสิตชั้นปีที่ 1 คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นนักศึกษารุ่นใหม่ ที่มีจุดยืนทางการเมืองชัดเจน และกล้าแสดงออก โดยสมัยเรียนโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา พญาไท ได้ก่อตั้ง “กลุ่มเกียมอุดมไม่ก้มหัวให้เผด็จการ”
กระนั้นยังมีความคิดเห็นในการเคลื่อนไหวทางการเมืองที่น่าสนใจบางส่วน โดยเจ้าตัวเคยระบุว่า ถ้าเปลี่ยนระบบและค่านิยมที่สร้างสังคมขึ้นมาอย่างไม่เท่าเทียม ตัวผู้เล่นจะเปลี่ยนไปเอง หากเปลี่ยนแปลงเพียงแค่ผู้มีอำนาจ จะหนีไม่พ้นมีผู้เล่นหน้าใหม่เกิดขึ้นภายใต้ระบบและวิธีคิดแบบเดิมทหารเทคโนแครต หรือ นายทุน จะมีคนใหม่ๆขึ้นมา ต้องเปลี่ยนระบบ ไล่ได้ตั้งแต่ระบบข้าราชการรวมศูนย์ ระบบยุติธรรม ตุลาการ แม้กระทั่งค่านิยมของคน และมองว่าต้องเปลี่ยนเกม เช่น 3 ข้อเรียกร้อง หยุดคุกคามประชาชน แก้รัฐธรรมนูญ ยุบสภา ซึ่งเป็นการเปลี่ยนเกม
ทั้งนี้ จากพฤติกรรมทางการเมืองที่ชัดเจนแบบนี้นั้น ทำให้หลายคนเกิดความสงสัย และตั้งคำถามว่าเกิดอะไรขึ้นกับนิสิตสาวคนนี้ เพราะเมื่อย้อนกลับไปดูช่วงมัธยมทั้งต้นและปลายจะพบว่าเจ้าตัวนั้น เป็นอีกคนที่แสดงกิจกรรมที่จงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ แต่เหตุใดกันในวันนี้ถึงมีจุดยืนต่อต้านถึงขั้นไปเผาพระบรมฉายาลักษณ์ ในหลวงรัชกาลที่ 10 กับนายไชยอมร
โดยย้อนชมคลิปยังพบว่า ลูกไม้ ญาณิศา ครั้งที่เป็นเด็กเคยได้เป็น 1 ใน ผู้ที่รำถวายพระพร สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ด้วย
ไม่เพียงเท่านั้น ยังพบว่าสมัยที่ ลูกไม้ ญาณิศา เรียนมัธยมปลายยังได้มีการทำกิจกรรมกับเพื่อน ๆ ที่โรงเรียนร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีในหลวงรัชกาลที่ 9
น่าสลดใจที่ลูกไม้ ญาณิศา เลือกที่จะทิ้งอนาคตอันสดใสของตัวเอง มาร่วมก่ออาชญากรรมร้ายแรงกับนายไชยอมร บูชาความคิดเห็นทางการเมืองอย่างสุดโต่งเช่นนี้
ขณะเดียวกันนายไชยอมรนั้น เมื่อวานนี้ เจ้าหน้าที่ได้นำตัวนายแอมมี่ นั่งรถเข็นออกโรงพยาบาล ขึ้นรถตู้ส่งตัวต่อไปที่เรือนจำพิเศษธนบุรี โดยปราศจากเงาของเพื่อนแนวร่วมม็อบคณะราษฎร เพราะเท่าที่เห็นจะมีก็แต่มารดาของนายไชยอมรเท่านั้น ที่คอยวิ่งเต้นหอบเงินหลายแสนหวังประกันตัวช่วยเหลือลูกชาย