มวลชนเอือมถอนตัวร่วม จากนี้ม็อบมีแต่การ์ด ชุมนุมยกระดับทวีรุนแรง?

2522

สืบเนื่องจากกรณีเมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2563 ที่ผ่านมา นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน แกนนำคณะราษฎร 2563 โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก “เพนกวิน-พริษฐ์ ชิวารักษ์ Parit Chiwarak” ระบุว่า ถึงมิตรสหายร่วมรบ อันรวมถึงพี่น้องประชาชนผู้ร่วมเส้นทางสู่ประชาธิปไตยที่แท้จริงทุกท่าน

ก่อนอื่นกลุ่มราษฎรขอขอบคุณต่อมิตรไมตรีและน้ำใจของทุกท่านที่ร่วมต่อสู้กับความไม่เป็นธรรมโดยไม่เคยย่อท้อ แม้ในหลายครั้งคราที่เราเผชิญกับอุปสรรคจากน้ำมือของผู้ที่ไม่หวังดีและไม่ต้องการเห็นวันแห่งชัยชนะของประชาชน วันที่ประชาชนเป็นใหญ่ในแผ่นดินอย่างแท้จริง และขอขอบคุณเสียงสะท้อนของพวกท่าน ต่อบรรยากาศการเคลื่อนไหวในด้านต่าง ๆ ซึ่งน้อมรับฟังและนำไปทบทวนเสมอมา

ดังนั้น เพื่อบรรยากาศที่ดีในการชุมนุมอย่างสันติ ซึ่งเป็นอาวุธสำคัญในการต่อสู้ของเราตลอดมา ตลอดจนเป็นเกราะคุ้มภัยให้อำนาจรัฐและศักดินายากที่จะเจาะทะลวงเข้ามาทำลายการต่อสู้ของเราได้ กลุ่มราษฎรจึงขอประกาศ​ยุติบทบาทของหน่วยงานการ์ดอาสาทั้งหมดในการชุมนุมของเรา โดยทางผู้จัดจะจัดทีมงานที่ได้รับการฝึกฝนและมีทักษะอย่างมืออาชีพมาช่วยอำนวยความสะดวกในการจัดการชุมนุมต่อไป

ด้วยความเชื่อมั่นว่า ประชาชนผู้มาชุมนุมอย่างสันติร่วมกัน สามารถปกป้องการชุมนุมของเรา และปกป้องกันและกัน โดยไม่ควรต้องยกเป็นภาระของพี่น้องการ์ดแต่เพียงถ่ายเดียวดังที่เป็นมาในหลายหน ทั้งนี้ เรายังคงรู้สึกซาบซึ้งต่อน้ำจิตน้ำใจและแรงกายแรงใจของพี่น้องผู้ทำหน้าที่การ์ดรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มแข็ง และขอขอบคุณการ์ดทุกท่าน ทุกกลุ่มสังกัด ไว้อีกครั้งหนึ่ง

อย่างไรก็ตาม บนเส้นทางการต่อสู้อันยาวไกลนี้และหนักหน่วงนี้ ยังคงมีภารกิจอีกมากที่ต้องขอพึ่งพาน้ำจิตน้ำใจของทุกท่าน รวมถึงประชาชนทุกคน ในการอาสามาร่วมลงแรง ซึ่งเราจะประกาศให้ทุกท่านได้ทราบต่อไป

 

ในเวลาต่อมา (24 มกราคม 2564) นายปิยรัฐ จงเทพ หรือโตโต้ แกนนำกลุ่ม We Volunteer หรือวีโว่ โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า สวัสดีประชาชน วันนี้มาทักทายกันสายกว่าทุกวัน เนื่องว่าผมต้องมาลงแรงก่อสร้างอาคารห้องประชุม ห้องพัก และ ห้องน้ำ เพื่อเป็นพื้นที่ทำกิจกรรมให้สมาชิก WEVO ภาคอีสาน บนเนื้อที่ 109 ตารางวา กลางเมืองกาฬสินธุ์ (ติด บขส.กาฬสินธุ์) ซึ่งได้รับการสนับสนุนแรงกาย แรงใจ และแรงทรัพย์ จากสมาชิก wevo ทั้งจากส่วนกลาง และ จากภาคอีสาน ยังมีพี่น้องเสื้อแดง พี่น้องผู้รักประชาธิปไตยมาช่วยสนับสนุนกันทุกทางอีกด้วย

คาดว่าจะใช้ระยะเวลาก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์ประมาณ 15 วัน  และหวังว่าจะได้ใช้เป็นพื้นที่ให้เหล่านักเคลื่อนไหว นักกิจกรรม และนักสู้เพื่อประชาธิปไตยได้ใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อไป โดยเฉพาะกิจกรรมของ ชาว We Volunteer ที่ตั้งเป้าจัดอบรม และขึ้นทะเบียนสมาชิกให้ได้ 1,000 คน ใน 6 เดือน ผมขอให้พี่น้องประชาชนโปรดติดตาม และให้การสนับสนุนพวกเราต่อไป เราจะสู้ต่อ และสู้ให้มันรู้กันไปข้าง เราต้องช่วยกันเอาความจริงออกมาสู้

ขณะที่ตัดภาพมายัง นายสมบัติ ทองย้อย ก็ได้ออกมาเคลื่อนไหวถี่ ถึงกรณีดังกล่าว สำหรับนายสมับตินั้นเริ่มมาจากที่ค่อย ๆเข้ามาร่วมในการดูแลความปลอดภัยให้กับผู้ชุมนุม และเริ่มเข้ามามีบทบาทมากขึ้นในการชุมนุมครั้งต่าง ๆ พร้อมทั้งเคยเปิดเผยผ่านสื่อด้วยว่า สาเหตุที่ทำให้กลุ่มการ์ดหลายกลุ่มเกิดขัดแย้งกันเอง ไม่เกี่ยวกับการ์ดเสื้อแดงที่เขาทะเลาะกัน น่าจะมาจากเรื่องส่วนตัวมากกว่า บางทีอาจจะมาจากการทำงานแล้วไม่เข้าขากันไม่ถูกใจกัน ซึ่งเด็กผู้ชายมักมีความเชื่อมั่นในตัวอยู่แล้ว บางคนอีโก้สูง ส่วนประเด็นชู้สาวไม่มีแน่นอน

กรณีของโตโต้ เป็นลักษณะการทำงานที่ไม่เข้าขากัน อาจบอกให้ทำแบบนี้ แต่ไม่ทำตาม เหลื่อมล้ำหน้าที่ เหลื่อมล้ำเส้นกันบ้าง  คนเยอะ ๆ ก็แบบนี้ การบริหารจัดการอาจไม่ได้ลื่นไหลไปทุกเรื่อง บนความขัดแย้งที่เกิดขึ้นคนมากมายร้อยพ่อพันแม่ เรื่องขัดแย้งเป็นปกติแน่นอน แต่ก็ต้องจบที่การพูดคุยเจรจากัน

ไม่เพียงเท่านั้น หากจะย้อนดูเรื่องความขัดแย้งของการ์ดม็อบจะพบว่า มีความขัดแย้งกันในหลายเรื่อง และมีกลุ่มการ์ดมาจากหลายกลุ่มที่มีแนวทางความคิด และการใช้ความรุนแรงที่แตกต่างกันออกไป

ทั้งนี้หากจะย้อนไปดูพฤติกรรมของการ์ดจะพบว่า เหตุชุลมุน หลังม็อบ 25 พฤศจิกายน 2563 ประกาศยุติการชุมนุม บริเวณฝั่งตรงข้ามธนาคารไทยพาณิชย์ สำนักงานใหญ่ สาขารัชโยธิน (SCB) มีคนถูกยิงได้รับบาดเจ็บหนัก 1 ราย นำส่งโรงพยาบาลพระรามเก้า และบาดเจ็บเล็กน้อยอีก 1 ราย

โดยในตอนนั้น พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น. เปิดเผยว่า จากการสอบปากคำพยาน และการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด ทำให้ทราบว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุเป็นการ์ดของกลุ่มคณะราษฎร จากโปลีเทคนิค กับ วิทยาลัยการอาชีวศึกษาปทุมธานี ที่มาทำหน้าที่ดูแลความสงบเรียบร้อยให้กับผู้ชุมนุม แต่เกิดการทะเลาะวิวาทกันในเรื่องงาน โดยหลังจากนี้ ทางตำรวจจะเพิ่มมาตรการและแนวทางป้องกัน เพื่อไม่ให้เกิดเหตุลักษณะดังกล่าวขึ้นอีก

ต่อมา นายพีระวุฒิ กุลอมรกานต์ อายุ 49 ปี บิดานายภาสพงศ์ กุลอมรกานต์ อายุ 25 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาข้อหาพยายามฆ่าผู้อื่น, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนโดยไม่รับอนุญาต, และพกพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร อดีตนักเรียนอาชีวะมีนบุรีโปลีเทคนิค พร้อมนายธนเดช ศรีสงคราม อายุ 35 ปี หัวหน้ากลุ่มอาชีวะมีนบุรี พานายภาสพงศ์ เข้ามอบตัวกับ พล.ต.ต.พัฒนา เพศยนาวิน ผบก.น.2 และตำรวจ สน.พหลโยธิน หลังก่อเหตุใช้อาวุธปืนลูกโม่ขนาด .38 ยิงเข้าใส่นายประชากร ศักดิ์ศรีเท้า อายุ 20 ปี อดีตนักเรียนเทคนิคปทุมธานี จนบาดเจ็บ ภายหลังการประกาศยุติการชุมนุมที่ธนาคารไทยพาณิชย์ สำนักงานใหญ่ ถนนรัชดาภิเษก เมื่อคืนวันที่ 25 พฤศจิกายน

นายภาสพงศ์ กล่าวว่า เบื้องต้นตนให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ส่วนสาเหตุเกิดจากตนมีปัญหาส่วนตัวกับคนเจ็บ เพราะถูกฝ่ายคู่กรณีมาโพสต์เฟซบุ๊กแขวะเกี่ยวกับความเห็นต่างเรื่องการจาบจ้วงสถาบันที่พวกตนไม่เอาด้วย และมีกลุ่มรุ่นพี่ตนไปปราศรัยที่ จ.ชัยนาท โดยพูดถึงกลุ่มฟันเฟืองประชาธิปไตย ทั้งนี้ วันเกิดเหตุพวกตนมาที่รัชโยธิน เพื่อเป็นการ์ดดูแลมวลชน แต่ไม่ได้สวมปลอกแขน เพราะเข้ามาในฐานะประชาชน ยืนยันไม่ได้มีใครจ้างพวกตนมา เพราะขนาดเจ็บตัวก็ยังต้องออกเงินรักษาเอง

และย้อนไปอีกกรณีเหตุการณ์ชุมนุมล่าสุดเมื่อ 13 กุมภาพันธ์ 2564 ที่มีการออกมาแฉกันเองภายหลังจากการชุมนุมว่า เหล่าการ์ดนั้นไม่ฟังกัน การ์ดบางกลุ่มปาประทัด ยั่วยุตำรวจก่อน โดยไม่สนใจว่ามีพวกเดียวกันจะได้รับอันตรายหรือไม่ เนื่องจากบางกลุ่มมุ่งเน้นไปที่ความรุนแรง ไม่ชุมนุมอย่างสันติ จนกลายเป็นคลิปที่มีการเผยแพร่ในโลกโซเซียลฯ ก่อนจะมาทำการโยนความผิดให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ??

อย่างไรก็ตาม จากประเด็นที่กล่าวมาข้างต้นนี้ น่าคิดว่าหลังจากนี้การชุมนุมของกลุ่มม็อบนั้น จะมีแต่การ์ดมาชุมนุมหรือไม่ เพราะว่าเป็นที่เห็นกันดีว่ามวลชนหลายกลุ่มเริ่มเอือมระอากับพฤติกรรมของม็อบ จนหลายคนถอนห่างไม่เข้ารวม ขณะที่นักเรียน นักศึกษาเองก็เช่นกัน เรียนกว่าเงียบกริบ เพราะคิดว่าไม่ปลอดภัย และไม่ชุมนุมโดยสันติ มีเพียงการมุ่งเน้นไปที่การเพิ่มระดับความรุนแรงหรือไม่??