จากกรณีที่คณะคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาอนุมัติโครงการ “คนละครึ่ง” รอบเก็บตก เพื่อให้มีจำนวนผู้เข้าร่วมโครงการคนละครึ่งครบ 15 ล้านสิทธิ
โดยเปิดให้มีการลงทะเบียนคนละครึ่ง 1.34 ล้านสิทธิ์ วันที่ 20 ม.ค.64 ตั้งแต่เวลา 06.00 น. เป็นต้นไป ซึ่งผลปรากฎว่า ผ่านไปเพียงไม่ถึง 10 นาที จำนวนสิทธิคงเหลือ 0 สิทธิ์ อย่างรวดเร็ว ซึ่งมีทั้งคนที่สมหวังและเสียใจต่อการลงทะเบียนโครงการคนละครึ่งเฟส 3
ล่าสุด นางสาวชลิตา ส่วนเสน่ห์ หรือ น้ำตาล อดีตนางงามเวทีหนึ่ง ได้ทวิตความคิดเห็นผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัวว่า
“ภาษีบังคับจ่ายได้ แต่ช่วยคนไทยกันเองช่วยไม่ได้ ทำไมต้องให้มานั่งแย่งกัน สุดปัง” พร้อมติดแฮชแท็ก #คนละครึ่งเฟส 3
ซึ่งก็ทำให้บรรดาประชาชนเข้ามาแสดงความคิดเห็นต่อประเด็นดังกล่าวเป็นจำนวนมาก
แต่ก็มีดราม่าขึ้นมา เมื่อมีคนแสดงความเห็นว่า “ถ้าน้ำตาลได้ศึกษามาตราการเยียวยาให้รอบด้าน จะดีกว่านี้มาก” ซึ่งเธอ ก็ตอบกลับไป ว่า “พอดีจ่ายภาษีเต็มตลอด แล้วก็ไม่มีเงินมากขนาดนั่งกิน นอนกินแบบสบายๆ ซึ่งทุกวันนี้ครอบครัวก็ยังทำงานลำบากเหมือนเดิม เลยค่อนข้างเห็นใจคนที่เขาลำบากกว่าเรา”
ทั้งนี้ยังมี ข้อความอื่นๆอีก เช่น
“โครงการนี้ไม่ใช่สวัสดิการถ้วนหน้านะคะ น้ำตาลเข้าใจอะไรผิดมั้ยเอ่ย นี่เค้าเอามากระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นค่ะ ถ้ายังไม่เข้าใจ ลองหาหนังสือเศรษฐศาสตร์เบื้องต้นมาศึกษาดูก็ได้ค่ะ”
ซึ่งน้ำตาลได้ตอบว่า “ก็ไม่ได้หมายถึงสวัสดิการค่ะ แค่งงว่าทำไมต้องให้มานั่งแย่งกันแค่นั้นเองค่ะ”
โดยผู้ใช้รายดังกล่าวได้ตอบว่า
“มันมีงบจำกัดค่ะ เค้าต้องการให้เงินหมุนในระบบแค่ไหน เค้าก็เอางบลงมาแค่นั้น พองบมันมีจำกัด ก็ต้องใช้วิธีลงทะเบียนค่ะ
ส่วนคนที่มีบัตรสวัสดิการรัฐ (บัตรคนจน) พวกนี้ไม่ต้องลงทะเบียน รัฐเค้าใส่เงินเข้าบัตรให้เลย
คนที่เสียภาษีต่อปีเยอะ ก็ไปเลือกใช้ “ช้อปดีมีคืน” แทนค่ะ”
“ก่อนอื่นต้องแยก “มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ” กับ “สวัสดิการ” ให้ได้ก่อนค่ะ แล้วจะเข้าใจมากขึ้น”
หลังจากนั้นก็ได้มีการแสดงความคิดอีกมากมายเช่น
“คนละครึ่งเป็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจค่ะ กระจายเงินไปกระตุ้นเศรษฐกิจไปในภาคส่วนต่างๆ supply chain นั่นละคะ ไม่ใช่เงินเยียวยา ถ้าให้แค่เงินทุกคน บางคนไม่ใช้มันก็ไม่ได้กระตุ้นเศรษฐกิจนะคะ ส่วนภาษี ขอบคุณที่เป็น 1 ใน 6 ล้านคนที่จ่ายนะคะ แต่ถ้าเทียบกับ 70 ล้านคน คนจ่ายภาษีน้อยมากๆ เลย”
“ก็ช่วยได้แค่บางส่วนไง
เสียภาษียังแค่บางคนเลยFace with tears of joy
แต่ก็ช่วย ไม่เลือกว่าใครจ่ายกู(รัฐบาล)มากหรือน้อย หรือไม่เคยจ่ายเลย
แต่จุดประสงค์คือ มีงบเท่านี้ ใครอยากให้ช่วย กดปุ่มมาตามประสงค์
แล้วเราจะคัดเลือกคนตามเกณฑ์ที่กำหนดก่อน
แล้วโปรเจ็คอย่างอื่นที่ช่วย ก็ไม่ใช่ว่าไม่มี
#ขอบคุณรัฐบาล”
“มันเป็นโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ กระตุ้นให้ประชาชนที่ลงทะเบียนได้ออกไปจับจ่ายใช้สอย เพราะฉะนั้นมันต้องมีการควักตังค์ตัวเองออกมา กลุ่มเป้าหมายจึงไม่ใช่ผู้ไม่มีรายได้ และสำหรับกลุ่มผู้มีเงินได้จ่ายภาษีเค้าก็มีโครงการช้อปดีมีคืนให้อยู่แล้ว ซึ่งจะได้เงินคืนมากกว่าวงเงินที่ได้ในคนละครึ่ง
จำไว้นะคะ โครงการ ไม่ใช่ สวัสดิการ”
“เข้าใจคำว่าโควต้าตามงบประมาณมั้ยจ๊ะ สมมติหนูจ่ายประจ่ายประกันสังคม หนูใช้สิทธิเท่าคนอื่นมั้ยถ้าไม่ได้เจ็บป่วย ภาษีที่จ่ายเต็มของหนู หนูมั่นใจรึเปล่าว่าหนูไม่ได้ใช้ทรัพยากรของชาติเกินกว่าอัตราภาษีที่หนูจ่ายมาตั้งเเต่มีรายได้ เลิกตั้งคำถามอะไรที่เเบนราบมองโลกด้านเดียวทีเถอะ”
“ผมชอบคุณน้ำตาลมากครับ ดูละครตลอด อย่าเข้ามายุ่งการเมืองเลยครับ ความรู้คุณข้อมูลคุณไม่พอครับ รายได้รัฐมีแค่จากภาษี รัฐจัดเก็บภาษีอย่างคุณน้ำตาลได้แค่10กว่าล้านคนครับ ไม่ได้เก็บโหดๆแบบประเทศอื่นนอกนั้นได้แค่แวด มันไม่พอเอามาแจกครับ สรุปคือรายรับมีแค่นี้ มันก็ต้องแย่งครับ”
และยังมีการแสดงความคิดเห็นตอบโตรัหว่างน้ำตาลและผู้ใช้ทวิตเอร์ที่น่าสนใจ
โดยผู้ใช้รายหนึ่งได้แสดงความคิดเห็นระบุว่า “ภาษีบังคับจ่ายได้.. แล้วมันจ่ายกันทุกคนมั้ยล่ะ? คนละครึ่งไม่ใช่สวัสดิการแต่คือมาตรการส่งเสริม.. ถ้าพี่น้ำตาล คิดว่ามีไอเดียที่ดีกว่านี้ก็เสนอนายกสิ.. อย่าสักแต่จะด่าจะวิจารณ์..”
น้ำตาลได้ตอบกลับว่า “จ่ายเต็มค่ะ หลักฐานมี”
ผู้ใช้รายดังกล่าวจึงย้อนว่า “หนูเขียนว่า”แล้วจ่ายทุกคนมั้ย?” ไม่ได้ถามว่าพี่จ่ายมั้ย… พี่อาจจะจ่าย.. แต่คนส่วนใหญ่ไม่ได้จ่าย..เอ้อ!! คนไทยจ่ายภาษีแค่4ล้านคน พูดราวกับว่าจะได้คุณภาพชีวิตที่ดีเหมือนสวีเดน..”
นอกจากนี้ยังมีความคิดเห็นที่แสดงความเห็นใจรัฐบาลด้วย เช่น
“ทำอะไรก็ดูไม่ดีไปหมดเนอะรัฐบาลลุง ให้ก็โดนด่า ไม่ให้ก็โดนว่า สงสัยจะฮวงจุ้ยไม่ค่อยเหมาะกับฮวงซุ้ยวงการนางงามละ คุณก็ส่องกระจกดูว่าคุณทำประโยชน์อะไรให้บ้านเมืองบ้างนะ. โพสต์แต่ละอย่างหาสาระอะไรไม่ได้เลยอ่ะ #มือไม่พายเอาปากราน้ำ”
อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ น้ำตาลได้เคลื่อนไหวสนับสนุนม็อบคณะราษฎรและเหล่าส.ส.ก้าวไกลผ่านทางโซเชี่ยลมาโดยตลอด
