ไม่จบง่าย!!สภาดูมารัสเซียร้องเครมลิน รับรองดอนบาสขวางล้างเผ่าพันธุ์ สหรัฐเต้น-ยูเอ็นเรียกประชุมพิเศษ

1243

สถานการณ์ล่าสุด ดูผิวเผินประหนึ่งลดดีกรีความร้อนแรงของ สงครามรัสเซีย-ยูเครนที่อาจขยายวงเป็น สงครามรัสเซีย-สหรัฐและพันธมิตรในภูมิภาคยุโรป เมื่อรัสเซียโชว์การถอนทหารจากพื้นที่ซ้อมรบใกล้ชายแดนยูเครน ทั้งฝั่งตะวันออกและตะวันตก แน่นอนสหรัฐที่หน้าแตกหลังปั่นข่าวเป็นสัปดาห์ทำราคาน้ำมันพุ่งกระฉูด อวดอ้างข่าวกรองที่โกหกหลอกลวงคนทั้งโลกวันรัสเซียจะบุกวันพุธ ก็รีบยืนยันว่าที่ถอนทหารนั้น ไม่จริง ไม่เชื่อ

ไม่ทันหายใจกันทั่วท้อง  ยูเครนก็ส่งประเด็นใหม่ให้สหรัฐและนาโต เรื่องสภาดูมาของรัสเซียเรียกร้องให้ทำเนียบเครมลิน “รับรองเอกราช” ของดอนบาส เพื่อป้องกันสงครามล้างเผ่าพันธ์ุต่อคนรัสเซียในพื้นที่ขัดแย้งยูเครน  ทำให้สหรัฐและพันธมิตรตะวันตกออกอาการ ขณะที่ยูเอ็นเอสซีเตรียมเรียกประชุมพิเศษ หารือกรณีนี้ทันที ในขณะเรื่องนี้ผ่านสภาแต่ปธน.ปูตินยังไม่มีท่าทีสนับสนุน และยังไม่ลงนามแต่อย่างใด 

เมื่อวันที่ 18 ก.พ.2565 สำนักข่าวทาซซ์และรอยเตอร์รายงานว่า นายแอนโทนี บลิงเคน รมว.กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ กล่าวถึงการที่รัสเซียเผยภาพและคลิป “การถอนทหาร” ออกจากชายแดนทางตะวันตกที่ติดกับภาคตะวันออกของยูเครน และบนคาบสมุทรไครเมียที่อยู่ทางตอนใต้ ว่า “ไม่เป็นความจริง” เนื่องจากรัสเซียยังคงเสริมกำลังทหารตามแนวพรมแดนฝั่งตะวันออก โดยแหล่งข่าวให้ข้อมูลว่า มีการเสริมกำลังทหารเพิ่มอีกอย่างน้อย 7,000 นาย

สำหรับกรณีรัฐสภารัสเซียอนุมัติร่างกฎหมายรับรองสถานะการเป็นรัฐอิสระของสาธารณรัฐประชาชนโดเนตสก์-ลูฮันสก์ ในเขตภูมิภาคดอนบาส ถือเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ และบั่นทอนอธิปไตยของยูเครน

ขณะที่กระทรวงกลาโหมของรัสเซียยังไม่มีความเห็นอย่างเป็นทางการ ต่อการวิจารณ์ของสหรัฐ ซึ่งเกิดขึ้นหลังการเผยแพร่คลิปและภาพนิ่ง ยานยนต์หุ้มเกราะหลายสิบคันของรัสเซียทยอยเดินทางออกจากไครเมีย ผ่านสะพานแขวนซึ่งเชื่อมกับแผ่นดินใหญ่ของรัสเซีย และการเคลื่อนย้ายกำลังพลบางส่วนออกจากแนวพรมแดนติดกับยูเครน

ในอีกด้านหนึ่ง ยูเครนเป็นผู้ยื่นเรื่องต่อคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอสซี) เพื่อขอให้มีการหารือ เกี่ยวกับการที่สภาผู้แทนราษฎรของรัสเซีย หรือ สภาดูมา ลงมติเมื่อวันอังคารที่15 ก.พ.ที่ผ่านมา ขอให้ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ให้การรับรองภูมิภาคโดเนตสก์ และลูฮันสก์ “เป็นรัฐเอกราช” ทั้งนี้ พื้นที่ทั้งสองแห่งเป็นสมรภูมิหลักของการสู้รบในภูมิภาคดอนบาส หรือภาคตะวันออกของยูเครน ตั้งแต่การรัฐประหารเดือน เม.ย. 2014/2557 ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 15,000 ราย

ด้านนายดมิทรี เพสคอฟ(Dmitry Peskov)โฆษกทำเนียบเครมลิน กล่าวว่า ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ได้รับทราบมติของสภาดูมาแล้ว ในการอนุมัติร่างกฎหมายรับรองสถานะการเป็นรัฐอิสระของสาธารณรัฐประชาชนโดเนตสก์-ลูฮันสก์

และยังคงไม่ได้ลงนามในร่างกฎหมายดังกล่าว เนื่องจากมองว่าร่างกฎหมายฉบับนี้ไม่สอดคล้องกับ ข้อตกลงมินสก์ปี 2014-15

ท่าทีของปธน.ปูตินบ่งชี้ว่า รัสเซียจะยังไม่ให้การรับรองสถานะการเป็นรัฐอิสระของสาธารณรัฐประชาชนโดเนตสก์-ลูฮันสก์ แต่ยังคงเปิดช่องในการพิจารณาเรื่องดังกล่าวในอนาคต

ทั้งนี้ สภาดูมา ซึ่งเป็นสภาผู้แทนราษฎรรัสเซีย ให้การอนุมัติต่อร่างกฎหมายรับรองสถานะการเป็นรัฐอิสระของสาธารณรัฐประชาชนโดเนตสก์-ลูฮันสก์ ซึ่งตั้งอยู่ในภูมิภาคดอนบาสของยูเครน ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่ฝักใฝ่รัสเซีย โดยสมาชิกรัฐสภาให้การรับรองร่างกฎหมายดังกล่าวจำนวน 351 เสียง คัดค้าน 16 เสียง

 

นายยาเชสลาฟ โวโลดิน (Vyacheslav Volodin)โฆษกรัฐสภาดูมา กล่าววานนี้ว่า ร่างกฎหมายฉบับนี้จะถูกส่งต่อไปยังปธน.ปูตินโดยทันทีเพื่อลงนามเป็นกฎหมาย ซึ่งจะเป็นการรับรองสถานะการเป็นรัฐอิสระและมีอธิปไตยของสาธารณรัฐประชาชนโดเนตสก์-ลูฮันสก์

นายโวโลดินกล่าวว่า“วอชิงตันกำลังจุดไฟความตึงเครียดและจัดหาอาวุธให้กับยูเครนร่วมกับประเทศต่างๆในยุโรป ในขณะที่เคียฟยังคงเพิกเฉยต่อข้อตกลงมินสค์”

“ยูเครนไม่เคยปฏิบัติตามข้อตกลงมินสก์ ขณะที่ประชาชนของเราที่อยู่ในดอนบาสจำเป็นต้องได้รับการช่วยเหลือ และปกป้องจากภัยคุกคามจากภายนอก รวมทั้งจะเป็นการสร้างเสถียรภาพในภูมิภาค” 

ในขณะที่ถกเถียงทางการทูตอยู่นั้น ที่ชายแดนติดต่อเขตพิพาท กองทัพยูเครนได้ยิงปืนครกและระเบิดมือเข้าพื้นที่ในสาธารณรัฐประชาชนลูกาสค์เมื่อเวลา 02:30 น. ในวันพฤหัสบดีที่ 17 ก.พ.(ตามเวลาท้องถิ่น) รายงานจากศูนย์ร่วมเพื่อการควบคุมและการประสานงาน

อย่างไรก็ดี หากปธน.ปูตินให้การรับรองกฎหมายดังกล่าวอย่างเป็นทางการ ก็จะเป็นกระตุ้นความขัดแย้งต่อวิกฤตการณ์ในยูเครนอีกครั้ง เข้าทางสหรัฐ-ตะวันตกและยูเครน  เนื่องจากการรับรองสถานะการเป็นรัฐอิสระของสาธารณรัฐประชาชนโดเนตสก์-ลูฮันสก์ จะขัดกับนโยบายยูเครนที่ต้องการยึดคืน และยูเครนละเมิดข้อตกลงสันติภาพมินสก์ เกิดปัญหาสู้รบประปรายมาตั้งแต่ต้น จนนำมาสู่การสมคบสหรัฐปั่นสงครามในพื้นที่  พอดูท่าจะถูกถีบส่งก็โวยวาย สุดท้ายก็เปิดเผยวาระที่ต้องการจะปราบปรามดอนบาสให้ได้อยู่นั่นเอง ดูภาพรวมแล้วคงหาจุดลงตัวยาก