กลายเป็นประเด็นที่ถูกพูดถึงอย่างมากในขณะนี้ กรณีเมื่อ นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) กำลังถูกโจมตีอย่างหนักจากผู้เกลียดชังรัฐบาล หลังจากที่ได้ตอบคำถามในประเด็นการไม่ใช้คำว่าล็อกดาวน์ รวมถึงมาตรการเยียวยา ชดเชยหลังจากปิดกิจการต่าง ๆ ในช่วงที่โควิด-19ระบาดรอบนี้
โดยย้อนคำพูดของนายแพทย์ทวีศิลป์ ในตอนนั้่นพูดว่า “หากมีการล็อกดาวน์ก็จะกระทบต่อประชาชนทุกท่าน และก็จะต้องมีการเยียวยา ซึ่งก็จะต้องเป็นภาระของภาษีเงินของคนทั้งประเทศ ซึ่งในขณะนี้ก็กำลังเผชิญอยู่กับภาวะเศรษฐกิจตกต่ำทั้งโลกและก็ของไทยเราเอง”
ประเด็นนี้เอง หลังจากที่นายแพทย์ทวีศิลป์ พูดออกไปได้มีสื่อสำนักดัง เอาไปตีและเขียนข่าวนำเสนอโดยการพาดหัวบิดเบือนรูปประโยคว่า “ทวีศิลป์ชี้ประชาชนคือภาระ ทำประเทศพัง แต่ไม่อยากเยียวยา” ส่งผลให้ประชาชนจำนวนมาก ที่อ่านเพียงแค่พาดหัว เข้ามาโจมตีนายแพทย์ทวีศิลป์
ทั้งนี้ จากการถูกโจมตีอย่างหนักนั้นเอง ต่อมาทางด้านของ เพจสาธารณะชื่อ “More ทวีศิลป์” ซึ่งเป็นแฟนเพจของ นายแพทย์ทวีศิลป์ ก็ได้ทำการโพสต์ข้อความระบุว่า “ขอความเป็นธรรม…..ไม่สร้างความเกลียดชัง เนื่องจากมิได้ใช้คำพูดตามที่สื่อนี้ออกมาพาดหัวข่าวเลย”
เกี่ยวกับเรื่องนี้ ล่าสุด นายชูชาติ ศรีแสง อดีตผู้พิพากษาหัวหน้าศาลฎีกา โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กชื่อ “Chuchart Srisaeng” ระบุว่าการบิดเบือนคำพูดของคุณหมอทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค.จากคำว่า “เราทำได้ถ้าทุกคนร่วมมือร่วมใจกัน” เป็น “การเยียวยาประชาชน คือภาระของภาษี” นั้น น่าสงสารผู้ที่ทำเรื่องนี้มาก ๆ ที่ไม่รู้จะหาเรื่องอะไรมาตำหนิคุณหมอทวีศิลป์ จึงต้องใช้วิธีการอันเลวทรามต่ำช้าเช่นนี้
อย่างไรก็ตาม หากย้อนไปก่อนหน้านั้น นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่นายแพทย์ทวีศิลป์ถูกโจมตีอย่างรุนแรง เพราะหากว่าย้อนกลับไปเมื่อการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในรอบแรก ประมาณเดือนพฤษภาคม ปี 2563 นายแพทย์ทวีศิลป์ ก็ถูกโจมตีในเรื่องของการสื่อสารที่ผิดพลาดไม่ตรงประเด็น ไม่ชัดเจน ทั้งที่ก็แสดงให้ได้เห็นอย่างไม่มีการค้านสายตาแล้วว่า ศบค.สามารถควบคุมโควิด-19 ในรอบแรกได้จนทั่วโลกยอมรับ
