“โอเปก” ไม่สนเสียง “สหรัฐ-อังกฤษ” ส่งสัญญาณชัด ดัน “รัสเซีย” ก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำ กลุ่มน้ำมันโลก

2001

อ้อนวอนทั้งน้ำตา!? “โอเปก” ไม่สนเสียง “สหรัฐ-อังกฤษ” ส่งสัญญาณชัด ดัน “รัสเซีย” ก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำกลุ่มน้ำมันโลก!?

สืบเนื่องจากที่ ราคาน้ำมันพุ่งกระฉูดหลังคว่ำบาตรรัสเซีย ทำให้ทางด้านของ ญี่ปุ่น กับ สหราชอาณาจักร ต้องออกมาเคลื่อนไหวเมื่อวันที่ 20 มี.ค.65 เพื่อให้ สหรัฐอาหรับเอเมิเรตส์ (ยูเออี) ผลิตน้ำมันเพิ่ม เพื่อหวังให้มาสกัดกั้นราคาน้ำมันที่พุ่งสูง

ทั้งนี้ที่ ญี่ปุ่น ต้องการให้ทางด้านของ สหรัฐอาหรับเอมิเรต ผลิตน้ำมันเพิ่มมากขึ้นนอกจากเพื่อต้องการให้ราคาน้ำมันไม่สูงเกินไปแล้ว อีกอย่างเนื่องจากว่า สหรัฐอาหรับเอมิเรต คือ ผู้จัดหาน้ำมันป้อนแก่ญี่ปุ่น รายใหญ่ที่สุด หรือคิดเป็น 1 ใน 3 ของปริมาณน้ำมันนำเข้าทั้งหมดของประเทศญี่ปุ่น

นอกจากนี้ยังมีรายงานอีกด้วยว่า ก่อนหน้าที่ ญี่ปุ่น จะออกมาเคลื่อนไหวนั้น ทางด้านของ บอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร ได้เคลื่อนไหวล็อบบี้บรรดาผู้ผลิตน้ำมันในอ่าวเปอร์เซีย

หลังจากที่หลายๆประเทศเริ่มขยับตัวขอร้อง น่าสนใจว่า เอกอัครราชทูตสหรัฐอาหรับเอมิเรตประจำสหรัฐฯ ก็ออกมาขยับว่า อยากให้โอเปกพลัสเพิ่มกำลังผลิตเพื่อฉุดให้ราคาน้ำมัน แต่หลังจากที่ออกมาเคลื่อนไหวเพียงแค่วันเดียว ทางสหรัฐอาหรับเอมิเรต ก็ออกมาเคลื่อนไหวในทันทีถึง พันธสัญญาของพวกเขาที่มีต่อโอเปกพลัส

แต่เหมือนว่าคำขอของ ญี่ปุ่น และ สหราชอาณาจักร จะไม่เป็นผล โดยทางด้านของ สหรัฐอาหรับเอมิเรต มีทีท่านิ่งเฉยต่อคำร้องขอดังกล่าว พร้อมทั้งเน้นย้ำว่า “จะดำเนินการตามกรอบของพันธมิตรโอเปกพลัส” ซึ่งในกลุ่มสมาชิกนี้มีรัสเซียรวมให้การอยู่ด้วย

ทั้งนี้ กลุ่มโอเปก หรือ องค์การกลุ่มประเทศผู้ส่งน้ำมันออก มีสมาชิกร่วมก่อตั้ง 5 ประเทศ ประกอบไปด้วย ประเทศซาอุดีอาระเบีย อิรัก อิหร่าน คูเวต และเวเนซุเอลา ปัจจุบัน โอเปกมีสมาชิกเพิ่มอีก 13 ประเทศ คือ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ไนจีเรีย แอลจีเรีย ลิเบีย กาบอง แองโกลา อิเควทอเรียลกินี และล่าสุดสาธารณรัฐคองโก

แม้ว่าทางด้านของ รัสเซีย จะไม่ได้อยู่ในกลุ่มโอเปกแต่ได้ทำงานร่วมกับโอเปกมาตั้งแต่ปี 2560 เพื่อจำกัดการผลิตน้ำมัน เพื่อเป็นการรักษารายได้ให้กับผู้ผลิต