สหรัฐอเมริกา กำลังเผชิญปัญหาวิกฤติซ้ำซ้อนหนักหนาสาหัส ทั้งการระบาดโควิด-19 ที่ทำคนอเมริกันป่วยติดเชื้อ และเสียชีวิตมากที่สุดในโลกแล้ว ปัญหาเศรษฐกิจถดถอย ปัญหาคนตกงาน คนไร้บ้านพุ่งจากผลกระทบการระบาดและปัญหาเศรษฐกิจ ความขัดแย้งแตกแยกในสังคมคนอเมริกันกลับหนักหน่วงมากขึ้น
โดยเฉพาะประเด็นเหยียดผิวสี ยังค้างคาหาทางแก้ไขที่ลงตัวไม่ได้ ท่ามกลางการช่วงชิงทางการเมือง เพื่อการเลือกตั้งประธานาธิบดีปลายปี ภาพคนอเมริกันทำร้ายกันเองอย่างป่าเถื่อน เกิดขึ้นทั่วทุกหัวระแหงอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
คืนวันอาทิตย์ (16 ส.ค.)ตามเวลาสหรัฐเกิดเหตุทำร้ายร่างกายบาดเจ็บสาหัส บริเวณ เซาท์เวสต์ บรอดเวย์ และ เซาท์เวสต์ เทเลอร์สตรีท ใกล้บริเวณชุมนุมของกลุ่ม Black Lives’ Matter มีชายผิวขาวไม่ทราบชื่อขับรถฝ่าเข้ามาในที่ชุมนุม เมื่อตำรวจไปถึงที่เกิดเหตุ พบชายถูกทำร้ายร่างกายในบริเวณใกล้ที่ชุมนุม ห่างจากรถปิ๊กอัพสีขาวของเขา โดยหมดสติในสภาพร่างกายบาดเจ็บหลายแห่ง และนำส่งโรงพยาบาล ผู้ชุมนุมแจงว่าชายคนขาวพยามยามขับรถพุ่งชนสมาชิก และพวกเขาพยายามยับยั้ง
เช้าวันจันทร์ (17 ส.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจพอร์ตแลนด์ มลรัฐออไรกอน เปิดเผยว่า การชุมนุมประท่วงในเมืองนี้ยาวนานกว่า 80 วัน และความไม่พอใจของผู้คนเพิ่มมากขึ้น ได้รับแจ้งขอความช่วยเหลือสายแทบไหม้ ว่ามีคนขว้างหิน ขว้างขวดแก้วใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจ
อีกทั้งกล่าวว่า มีการขโมยสิ่งของ ทำร้ายร่างกายกัน ป่าเถื่อนโหดร้าย เป็นต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจแจงว่า เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ พบชายผิวขาวถูกทำร้ายหมดสติ ไม่ไกลจากจุดเกิดเหตุ พบรถปิ๊กอัพสีขาวสภาพชนยับเยิน สมาชิกในกลุ่มที่อยู่ในที่เกิดเหตุแจ้งว่า ชายคนนี้ขับรถพุ่งเข้าชนคนในกลุ่ม พวกเขาจึงเข้าควบคุมตัวเพื่อให้แน่ใจว่า ไม่มีอาวุธและจะไม่ทำร้ายใคร
ภาพจากวีดิโอที่ถุกเผยแพร่ แสดงให้เห็นว่าชายผิวขาวคนหนึ่ง ถูกผลักจากรถปิ๊กอัพสีขาวลงมาบนถนนและถูกรุมทำร้าย จากกลุ่มคนทั้งเตะ ต่อย ทุบตีจนเลือดอาบศีรษะ และหมดสติในที่สุด
หลังจากเหตุการณ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจมองว่า กลุ่มผู้ชุมนุม เป็นกลุ่มที่มีความรุนแรงและหวาดระแวงโดยสถานการณ์อยู่แล้ว การเกิดเหตุทำร้ายจึงมีมาต่อเนื่องระหว่างกลุ่มที่สนับสนุน และคนที่ต่อค้าน
การชุมนุมต้านเหยียดผิว ในพอร์ตแลนด์ เริ่มมาตั้งแต่การรณรงค์ขอความเป็นธรรมให้กรณี จอร์จ ฟลอยด์ ชายผิวดำที่ถูกตำรวจ มินิอาโปลิส จับกุม และทำให้เสียชีวิต เกิดกระบวนการรณรงค์ I can’t breath ประสานกับกลุ่มรณรงค์ Black Lives’ Matter เกิดการชุมนุมขยายตัวกว้างขวางทั่วสหรัฐ เป็นเวลากว่า 100 วัน เมื่อปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ ได้ส่งหน่วยกองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิ ลงพื้นที่ชุมนุม เพราะเกิดการเผาทำลายสถานที่ ปล้นขโมย และเกิดการปะทะกับผู้ชุมนุม มีการ บาดเจ็บทั้งเจ้าหน้าที่และผู้ชุมนุม แกนนำบางส่วน ถูกจับ
ปัจจุบันหน่วยพิทักษ์มาตุภูมิได้ถอนกำลังไปและ ให้ตำรวจพื้นที่ดูแลการชุมนุม ซึ่งยังไม่สลายตัวต่อไป