จากที่มีรายงานในการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) โดยช่วงหนึ่งมีรายงานว่า พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ได้รายงานถึงสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มราษฎรอาจแผ่วกำลังลงไปแล้ว
“จำนวนผู้ชุมนุมเพิ่มสูงขึ้นเนื่องจากไม่พอใจเจ้าหน้าที่ที่สลายการชุมนุมโดยใช้รดฉีดน้ำความดันสูงที่แยกปทุมวันในที่ 16 ต.ค. แต่หลังจากวันที่ 24 ต.ค.จำนวนผู้ชุมนุมเริ่มลดลงอย่างต่อเนื่อง เห็นได้จากการจัดชุมนุมแต่ละครั้งจะมีประชาชนมาร่วมประมาณ 10,000-15,000 คน เฉลี่ยอยู่ที่ 12,000 คน ส่วนการชุมนุมทั่วประเทศ จะอยู่ที่ประมาณไม่เกิน 50,000คน
แบ่งเป็นในกทม.ประมาณ 17,000 คน โดยแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง แต่ยังมีการเคลื่อนไหวในโซเชียลมีเดีย โดยอาศัยประเด็นทางการเมือง อย่างเช่น เรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ในการเคลื่อนไหว แต่สิ่งที่ต้องเฝ้าระวังคือ เรื่องมือที่สาม”
ล่าสุดวันนี้(13พ.ย.63) นายอานนท์ นำภา ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนและแกนนำคณะราษฏร 2563 ได้ออกมาโพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กถึงกรณีดังกล่าวด้วยว่า
รัฐพยายามบอกว่าราษฎรอ่อนแรงลง รัฐก็ลองทำอะไรโง่ๆ จังๆ อีกสักครั้งนึงสิครับ จะได้รู้ว่าที่เคยเห็นมันยังไม่ใช่จุดสูงสุดของการชุมนุม ไม่เชื่อลองถามคนข้างๆดู ถามลูกหลานของท่านดู ว่าเขาไปม็อบมาหรือเปล่า
จุดสูงสุดของการชุมนุมยังไม่เกิด เพราะเงื่อนไขและปัจจัยยังไม่สุกงอม ซึ่งเราไม่ได้รอการสุกงอม แต่เราจะขยมไปเรื่อยๆ เมื่อยก็พัก และก็มาขย่มอีกครั้ง นี่แค่ 3 เดือนของการเปิดประเด็นเรื่องปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ นี่แค่การสลัดความกลัวออกมาเดินตามหาอนาคต และนี่แค่การเริ่มต้น !!!
ต่อมานายอานนท์ ได้โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กอีกครั้งว่า
กันยา – พฤศจิกา ได้ตัดผมฟรีแล้ว 2 ครั้ง มีลางสังหรณ์ว่าธันวานี้จะได้ตัดฟรีอีกรอบ พูดเรื่องตัดผมฟรี ที่เชียงใหม่นี่ดีหน่อย พี่เขาถามก่อนว่าจะตัดมั้ย จะเอาทรงอะไร ด้วยความเห็นว่าฟรีเราจึงขอให้ตัดลองทรง
ส่วน กทม. เจ๊ ไม่ถามเลย 1 นาทีสภาพออกมายังกะซาลาเปา มนุษย์ควรมีสิทธิเลือกทรงผม ทั้งคนธรรมดา ผู้ต้องขัง ตำรวจ ทหารผมว่านะ
ที่มา : เฟซบุ๊ก อานนท์ นำภา