จากกรณีที่ก่อนหน้า เพจเฟซบุ๊กเยาวชนปลดแอกได้มีการประกาศนัดชุมุนมใหญ่ ในวันที่ 20 มีนาคม บริเวณท้องสนามหลวง โดยเจ้าหน้าที่ได้นำตู้คอนเทนเนอร์และลวดหนามล้อมบริเวณโดยรอบ
ต่อมาผู้ชุมนุมได้มีการพยายามรื้อตู้คอนเทนเนอร์ออกจากพื้นที่ โดยเจ้าหน้าที่ได้ประกาศว่าหยุดการกระทำดังกล่าวเนื่องจากอาจจะผิดในเรื่องการทำลายทรัพย์สินของราชการ และเจ้าหน้าที่จำเป็นที่จะต้องฉีดน้ำ ซึ่งผู้ชุมนุมไม่ได้ปฏิบัติตาม จึงเป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่จำเป็นต้องใช้วิธีการฉีดน้ำ และน้ำผสมแก๊สน้ำตา นำไปสู่เกิดการปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่และกลุ่มผู้ชุมนุม โดยทางฝั่งผู้ชุมนุมได้มีการปาระเบิดขวดด้วย เหตุการณ์บานปลาย จนกระทั่งเจ้าหน้าที่เข้าจับกุมผู้ชุม จนเป็นเหตุให้เกิดการปะทะกันอีกครั้ง โดยต่อมากลุ่มผู้ชุมนุมได้ใช้ขาโต๊ะเหล็ก แผงกั้นจลาจร โจมตีใส่เจ้าหน้าที่ โดยเวลา 20.00 น. ได้มีการประกาศยุติการชุมนุม แต่ก็ยังคงมีการปะทะอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า กลุ่มผู้ชุมนุมบางส่วนมีการจุดไฟเผา ปาระเบิด มีเหตุการณ์การยิงกันระหว่างผู้ชุมนุมเอง อีกทั้งยังปรากฎภาพการ์ดม็อบถืออาวุธอีกด้วย
ล่าสุดวันนี้ 21 มี.ค. 64 นายไพศาล พืชมงคล อดีตกรรมการผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรี (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ถึงกรณีการชุมนุมเมื่อวานนี้ด้วย โดยนายไพศาล ระบุว่า
“การชุมนุมกาเหว่า20มีนา ได้ย้ำความพ่ายแพ้ชนิดหมดรูป
1. เป็นครั้งแรก ที่สื่อนักล่าอาณานิคมไม่สามารถรายงานได้ว่าเป็นการชุมนุมโดยสันติ
เพราะลักษณะม็อบก่อความรุนแรงมากที่สุดเท่าที่มีการชุมนุมมา
2. ประชาชนทั่วประเทศ ทนความถ่อยเถื่อนไม่ไหว ส่งกระแสเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ปราบปรามอย่างเฉียบขาดและขยายผลการจับกุมไปถึงบรรดาผู้กระทำความผิดระดับหัวโจกของอั้งยี่ให้ได้
ถ้าใครยังมีพฤติกรรมแบบ#หยวนซีไข**** คราวนี้เชื่อว่า ผู้รับผิดชอบบางระดับคงถูกปลดออกจากตำแหน่ง!!!!
3. การจับกุม ผู้ที่เกี่ยวข้องกับขบวนการอั้วยี่ กำลังขยายเข้าไปใกล้ถึงตัว หัวโจกระดับผู้บงการ มากกว่าทุกระยะที่ผ่านมา แม้ว่าจะวางแผนกระจายตัวอย่างแยบยลก็ตาม
น่าเสียดายที่คนเหล่านี้ไร้เดียงสาในทางเทคโนโลยีด้านข่าวกรอง!!!!
4. การจัดตั้งของประชาชนในพื้นที่ต่างๆในลักษณะกองกำลังรักษาชุมชนได้แสดงบทบาท ในการต่อต้านพวกกาเหว่าที่ก่อความรุนแรง จะทำให้ผู้ที่ต้องการเข้าชุมนุมแบบทั่วไปขยาดไม่กล้าเข้าร่วมชุมนุมอีก
5. ในการชักชวนผู้คนเข้าชุมนุม เริ่มถูกจับกระแสได้ว่า ใครเป็นผู้ชักชวน โดยเฉพาะพวกที่ใช้ฐานะสื่อบังหน้า หน้ากากกำลังหลุดร่อนแล้ว!!!
6. ความต้องการจะให้การก่อม็อบไทย ประสานและเชื่อมต่อกับพม่าล้มเหลวสิ้นเชิง!!!!
เพราะประชาชนจับได้ไล่ทัน ว่าการชักชวนไล่ลุงตู่ เป็นการลวงโลกหลอกพวกกันเอง
แต่แท้จริง ไม่ได้ทำอะไรเลย ไม่แตะต้องลุงตู่เลย
เอาแต่ด่าเจ้าอย่างเดียว!!!!
และก่อความรุนแรงอย่างเดียว!!!!
ดังนั้นการเรียกหาต่างชาติให้เข้ามาแทรกแซง จึงเงียบกริบ เพราะต่างชาติเขาดูสถานการณ์ออกว่าประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศไทยไม่เล่นด้วย
ขืนออกหน้ามากก็จะถูกประชาชนไทยตะเพิดเอาไว้ง่ายๆ!!!
ก็ขนาดฐานทัพยังขับไล่ออกไปแล้ว เรื่องจะไล่นักการทูตนั้น ง่ายมาก!!!!”
